Talk of The Town
บล.พาย แนะจับตาประชุมครม.นัดแรก ลดค่าไฟฟ้า-น้ำมันดีเซล กดดันหุ้นโรงไฟฟ้า
04 กันยายน 2566
บล.พาย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 0.3% รับความหวังวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้ยุติหลังจากอัตราการว่างงานในสหรัฐฯเริ่มขยับขึ้น ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิด บวก 2% ตลาดคาดการณ์ซาอุจะขยายระยะเวลาลดกำลังการผลิตออกไป
วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐเปิดเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 1.87 แสนตำแหน่งสูงกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 1.69 แสนตำแหน่ง อย่างไรก็ตามอัตราการว่างงานขยับขึ้นเป็น 3.8% สูงจากเดือนก่อนหน้าที่ 3.5% และสูงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 3.5% สำหรับรายละเอียดภายในพบว่าอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นได้แก่ ภาคผลิต ท่องเที่ยวและบริการ ก่อสร้าง ภาครัฐ ส่วนอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานลดลงได้แก่ การขนส่งและคลังสินค้า รวมไปถึงกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน การให้บริการด้านธุรกิจ กลุ่มการเงิน
ภาพรวมมองเป็นกลางแม้ภาคผลิตและก่อสร้างจะมีการจ้างงานที่สูงขึ้นแต่ก็เป็นการปรับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ภายหลังจากทราบข้อมูลทั้งหมดพบว่า Dollar Index แข็งค่า พร้อมกับ US Bond Yield อายุ 2 และ 10 ปีที่ปรับตัวขึ้น สวนทางกับอัตราการว่างงานที่ขยับขึ้น ประเมินว่าอาจเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่เริ่มขยับขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 9 เดือน
ทั้งนี้ ด้วยราคาน้ำมันดิบ BRT ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาระมัดระวังต่อทิศทางเงินเฟ้อที่อาจเริ่มเห็นการขยับขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่ CME FED Watch ล่าสุดให้น้ำหนักที่ FED จะคงดอกเบี้ยด้วยโอกาส 94% ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจที่เริ่มเห็นสัญญาณอ่อนแอจากภาคแรงงานแต่เงินเฟ้อยังไม่ปรับลงตามเป้าหมายของ FED จะเป็นความเสี่ยงอย่างมากกับภาวะเศรษฐกิจและตลาดหุ้น
สำหรับสัปดาห์นี้สหรัฐฯติดตาม (1) วันพุธจะมีรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (ISM) Bloomberg ประเมินไว้ที่ 52.5 (2) วันพฤหัสจะมีผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานตลาด คาดที่ 2.35 แสนราย
ส่วนในประเทศล่าสุดรายชื่อรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงได้ประกาศออกมาแล้วและพร้อมเปิดประชุม ครม. ในวันที่ 6 กันยายน แนะรอติดตามนโยบายต่างๆที่เคยกล่าวไว้ อาทิ ลดค่าไฟฟ้าและน้ำมันดีเซล หากประกาศทำมองเป็นลบต่อกลุ่มโรงไฟฟ้าและปั๊มน้ำมัน (OR PTG)
นอกจากนี้รอติดตามเงินเฟ้อไทยในวันอังคาร Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.78%YoY เริ่มเห็นการปรับขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.38%YoY ซึ่งไม่ดีกับตลาดหุ้น สัปดาห์นี้คาด SET เคลื่อนไหวกรอบ 1530 – 1575
เชิงกลยุทธ์การลงทุนแนะทยอยลดพอร์ตเช่นเดิม ส่วนหุ้น Trading แนะกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT AWC CENTEL MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM)
PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 180.00 บาท)
ไตรมาส 3/23 ยังเป็นบวกจากแนวโน้มปริมาณขายที่ปรับดีขึ้น โดยผู้บริหารให้แนวทางไว้ที่ 470kBOED (+6% QoQ) ขณะที่ราคาขายก็มีโอกาสปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบที่ขึ้นไปแตะ US$84/บาร์เรลในเดือน ก.ค. หรือขึ้นไปกว่า US$6.0/บาร์เรลจากค่าเฉลี่ยในไตรมาส 2/23 ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นช่วงล่าสุดเป็นผลจากการที่ OPEC+ ขยายกรอบการลดปริมาณผลิตไปถึงเดือน ส.ค
SPRC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 10.90 บาท)
มองว่ากำไรไตรมาส 2/23 จะเป็นจุดต่ำสุดของปีและจะพลิกฟื้นในไตรมาส 3/23 หลังจากที่ค่าการกลั่นสิงคโปร์แตะจุดสูงสุดของปีที่ US$11.4/บาร์เรล ไปเมื่อต้นเดือน ส.ค. เทียบกับค่าเฉลี่ยไตรมาส 2/23 ที่ US$4.0/บาร์เรล
วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐเปิดเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 1.87 แสนตำแหน่งสูงกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 1.69 แสนตำแหน่ง อย่างไรก็ตามอัตราการว่างงานขยับขึ้นเป็น 3.8% สูงจากเดือนก่อนหน้าที่ 3.5% และสูงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 3.5% สำหรับรายละเอียดภายในพบว่าอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นได้แก่ ภาคผลิต ท่องเที่ยวและบริการ ก่อสร้าง ภาครัฐ ส่วนอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานลดลงได้แก่ การขนส่งและคลังสินค้า รวมไปถึงกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน การให้บริการด้านธุรกิจ กลุ่มการเงิน
ภาพรวมมองเป็นกลางแม้ภาคผลิตและก่อสร้างจะมีการจ้างงานที่สูงขึ้นแต่ก็เป็นการปรับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ภายหลังจากทราบข้อมูลทั้งหมดพบว่า Dollar Index แข็งค่า พร้อมกับ US Bond Yield อายุ 2 และ 10 ปีที่ปรับตัวขึ้น สวนทางกับอัตราการว่างงานที่ขยับขึ้น ประเมินว่าอาจเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่เริ่มขยับขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 9 เดือน
ทั้งนี้ ด้วยราคาน้ำมันดิบ BRT ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาระมัดระวังต่อทิศทางเงินเฟ้อที่อาจเริ่มเห็นการขยับขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่ CME FED Watch ล่าสุดให้น้ำหนักที่ FED จะคงดอกเบี้ยด้วยโอกาส 94% ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจที่เริ่มเห็นสัญญาณอ่อนแอจากภาคแรงงานแต่เงินเฟ้อยังไม่ปรับลงตามเป้าหมายของ FED จะเป็นความเสี่ยงอย่างมากกับภาวะเศรษฐกิจและตลาดหุ้น
สำหรับสัปดาห์นี้สหรัฐฯติดตาม (1) วันพุธจะมีรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (ISM) Bloomberg ประเมินไว้ที่ 52.5 (2) วันพฤหัสจะมีผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานตลาด คาดที่ 2.35 แสนราย
ส่วนในประเทศล่าสุดรายชื่อรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงได้ประกาศออกมาแล้วและพร้อมเปิดประชุม ครม. ในวันที่ 6 กันยายน แนะรอติดตามนโยบายต่างๆที่เคยกล่าวไว้ อาทิ ลดค่าไฟฟ้าและน้ำมันดีเซล หากประกาศทำมองเป็นลบต่อกลุ่มโรงไฟฟ้าและปั๊มน้ำมัน (OR PTG)
นอกจากนี้รอติดตามเงินเฟ้อไทยในวันอังคาร Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.78%YoY เริ่มเห็นการปรับขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.38%YoY ซึ่งไม่ดีกับตลาดหุ้น สัปดาห์นี้คาด SET เคลื่อนไหวกรอบ 1530 – 1575
เชิงกลยุทธ์การลงทุนแนะทยอยลดพอร์ตเช่นเดิม ส่วนหุ้น Trading แนะกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT AWC CENTEL MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM)
PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 180.00 บาท)
ไตรมาส 3/23 ยังเป็นบวกจากแนวโน้มปริมาณขายที่ปรับดีขึ้น โดยผู้บริหารให้แนวทางไว้ที่ 470kBOED (+6% QoQ) ขณะที่ราคาขายก็มีโอกาสปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบที่ขึ้นไปแตะ US$84/บาร์เรลในเดือน ก.ค. หรือขึ้นไปกว่า US$6.0/บาร์เรลจากค่าเฉลี่ยในไตรมาส 2/23 ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นช่วงล่าสุดเป็นผลจากการที่ OPEC+ ขยายกรอบการลดปริมาณผลิตไปถึงเดือน ส.ค
SPRC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 10.90 บาท)
มองว่ากำไรไตรมาส 2/23 จะเป็นจุดต่ำสุดของปีและจะพลิกฟื้นในไตรมาส 3/23 หลังจากที่ค่าการกลั่นสิงคโปร์แตะจุดสูงสุดของปีที่ US$11.4/บาร์เรล ไปเมื่อต้นเดือน ส.ค. เทียบกับค่าเฉลี่ยไตรมาส 2/23 ที่ US$4.0/บาร์เรล