บมจ. พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น (PCC) มั่นใจรายได้ปีนี้โตต่อเนื่อง จากปีก่อนที่มีรายได้ 4,859.98 ล้านบาท หลังงวด 6 เดือนแรกกวาดรายได้รวมแล้ว 2,240.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.74% ด้านซีอีโอ “กิตติ สัมฤทธิ์” เผยปัจจุบันมี Backlog ในมือแน่นกว่า 4.5 พันล้านบาท พร้อมมองภาพรวมอุตสาหกรรมไฟฟ้าสมาร์ทกริดโต สนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯได้อีกในอนาคต
นายกิตติ สัมฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PCC) เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดว่ารายได้ปีนี้น่าจะเติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 4,859.98 ล้านบาท สะท้อนจากรายได้รวม 6 เดือนแรกทำได้อยู่ที่ 2,240.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 513.67 ล้านบาท หรือคิดเป็นเติบโต 29.74% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,726.98 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 167.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.43 ล้านบาท หรือ 24.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 134.36 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯยังเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) แล้ว 4.5 พันล้านบาท และอยู่ระหว่างรอประกาศผลการประมูลในไตรมาส 3 และ 4 อีกจำนวนหนึ่ง อีกทั้งมีคำสั่งซื้อระหว่างไตรมาสเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นายกิตติ กล่าวว่า บริษัทฯยังมีโอกาสการเติบโตอีกมาก จากอุตสาหกรรมไฟฟ้าระบบ Smart Grid หรือ ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่นำเทคโนโลยีหลากหลายประเภทเข้ามาทำงานร่วมกัน ซึ่งจะเห็นว่าในปัจจุบันจำนวนรถไฟฟ้า (EV) และสถานีชาร์จ (Charging Station) รวมถึงการลงทุน Solar cell จากบ้านเรือนที่เพิ่มมากขึ้น ถือเป็นโอกาสของบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตอีกมากในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 บริษัทฯมีรายได้รวม 1,188.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.96% เทียบจากช่วงปีก่อนที่มีรายได้รวม 943.21 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 84.99ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.30% เทียบจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 61.90 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการขายกลุ่มสินค้าหม้อแปลง เครื่องมือวัดแรงดันและกระแส กลุ่มสินค้าปรับแรงดัน และป้องกันกระแสและแรงดันเกินพิกัด สวิตช์ตัดตอน และอุปกรณ์ฉนวน ในระบบจำหน่าย และกลุ่มโคมไฟแอลอีดีให้กับกลุ่มลูกค้าภาครัฐ และเอกชนเพิ่มขึ้น และจากงานโครงการจัดหาพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ Hardware และ Software ระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟ และสัญญาจ้างจัดหาพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ Feeder Device Interface (FDI) และอุปกรณ์วิทยุสื่อสาร และจากงานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูง และจากงานปรับปรุงคุณภาพเครื่องบดถ่านหินของโรงไฟฟ้า
นายกิตติ สัมฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PCC) เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดว่ารายได้ปีนี้น่าจะเติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 4,859.98 ล้านบาท สะท้อนจากรายได้รวม 6 เดือนแรกทำได้อยู่ที่ 2,240.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 513.67 ล้านบาท หรือคิดเป็นเติบโต 29.74% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,726.98 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 167.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.43 ล้านบาท หรือ 24.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 134.36 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯยังเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) แล้ว 4.5 พันล้านบาท และอยู่ระหว่างรอประกาศผลการประมูลในไตรมาส 3 และ 4 อีกจำนวนหนึ่ง อีกทั้งมีคำสั่งซื้อระหว่างไตรมาสเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นายกิตติ กล่าวว่า บริษัทฯยังมีโอกาสการเติบโตอีกมาก จากอุตสาหกรรมไฟฟ้าระบบ Smart Grid หรือ ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่นำเทคโนโลยีหลากหลายประเภทเข้ามาทำงานร่วมกัน ซึ่งจะเห็นว่าในปัจจุบันจำนวนรถไฟฟ้า (EV) และสถานีชาร์จ (Charging Station) รวมถึงการลงทุน Solar cell จากบ้านเรือนที่เพิ่มมากขึ้น ถือเป็นโอกาสของบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตอีกมากในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 บริษัทฯมีรายได้รวม 1,188.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.96% เทียบจากช่วงปีก่อนที่มีรายได้รวม 943.21 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 84.99ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.30% เทียบจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 61.90 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการขายกลุ่มสินค้าหม้อแปลง เครื่องมือวัดแรงดันและกระแส กลุ่มสินค้าปรับแรงดัน และป้องกันกระแสและแรงดันเกินพิกัด สวิตช์ตัดตอน และอุปกรณ์ฉนวน ในระบบจำหน่าย และกลุ่มโคมไฟแอลอีดีให้กับกลุ่มลูกค้าภาครัฐ และเอกชนเพิ่มขึ้น และจากงานโครงการจัดหาพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ Hardware และ Software ระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟ และสัญญาจ้างจัดหาพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ Feeder Device Interface (FDI) และอุปกรณ์วิทยุสื่อสาร และจากงานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูง และจากงานปรับปรุงคุณภาพเครื่องบดถ่านหินของโรงไฟฟ้า