นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IIG เปิดเผยในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 465 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.57 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยหลักเป็นผลจากรายได้จากการอนุญาตให้เช่าใช้ระบบซอฟต์แวร์นั้น มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการอนุญาตให้เช่าใช้ระบบซอฟต์แวร์ CRM Salesforce (Subscription) เพิ่มขึ้น 22.7 % และ ระบบซอฟต์แวร์ Cloud ERP Oracle ปรับตัวเพิ่มขึ้น 31.9% จากการขยายฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวขององค์กรธุรกิจในประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านซอฟต์แวร์องค์กร (Enterprise Software) มากขึ้น เพื่อเร่งสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในยุคดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม รายได้การให้บริการออกแบบ ติดตั้ง พัฒนาระบบ การให้บริการสนับสนุน และดูแลระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) และระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) ลดลง จากความท้าทายในการดำเนินงานในโครงการขนาดใหญ่ 2 โครงการ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ส่งมอบงานเรียบร้อยแล้ว 1 โครงการ และอีก 1 โครงการบริษัทฯ ที่คาดว่าจะสามารถส่งมอบงานได้ภายในสิ้นปี 2566
นอกจากนี้ การควบรวมกิจการของบริษัท แลนซิ่ง บิสสิเนส ซิสเต็มส์ จำกัด หรือ Lansing เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทมีรายได้จากธุรกิจให้บริการจัดหาบุคลากรในส่วนงานสารสนเทศ ส่งผลรายได้ที่เกิดประจำของบริษัทฯ เติบโตแข็งแกร่งขึ้น โดย1H/66 บริษัทฯ มีรายได้ที่เกิดขึ้นประจำ 339.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 159.58 ล้านบาท คิดเป็น 88.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ประจำอยู่ที่ 179.62 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการเติบโตในธุรกิจ InsurTech นั้น มีแนวโน้มที่สดใส หลังจากการเปิดตัวบริษัท ไอแอนด์ไอ เวนเจอร์ จำกัด หรือ “iiV” บริษัทย่อยในเครือ พร้อมผลิตภัณฑ์ “Moverse” ดิจิทัลโซลูชันสำหรับธุรกิจประกันภัยรถยนต์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้รับความสนใจทดลองใช้ผลิตภัณฑ์จากธุรกิจประกันและโบรกเกอร์ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น และมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในปีนี้ ตาม Roadmap การพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านดิจิทัลอินชัวรันส์แบบครบวงจรที่ได้วางไว้
ด้านแผนการลงทุน M&A นอกเหนือจากแผนร่วมลงทุนตั้งบริษัท Joint Venture กับยักษ์ใหญ่วงการเทคโนโลยีในเวียดนาม VMO Holdings ภายในสิ้นปี 2566 นี้แล้ว บริษัทฯ ยังมีแผนลงทุนในเวียดนามอีกเช่นกัน ซึ่งอยู่ในระหว่างการเตรียมการ โดยมั่นใจว่าลงทุนในเวียดนามครั้งนี้ จะเป็น Springboard ที่ทำให้ iiG เติบโตอย่างมาก อีกทั้ง บริษัทฯ ยังมีแผนการลงทุนในประเทศที่จะเป็นจิกซอว์สำคัญ เพื่อเสริมการให้บริการด้าน Digital Transformation แบบครบวงจรแก่ลูกค้าองค์กรธุรกิจในประเทศไทย
นายสมชายกล่าวต่อว่า “ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับงานโครงการใหม่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 และสำหรับในปี 2566 นี้ บริษัทฯ คาดการณ์ว่ายังคงเติบโตต่อเนื่อง มีรายได้ทั้งปีเติบโตกว่า 25% หรือประมาณ 1,200 ล้านบาท จากการเติบโตของธุรกิจเดิมของบริษัท (Organic Growth) ในกลุ่ม CRM และ ERP อีกทั้งรายได้เสริมจากธุรกิจ MarTech ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี รวมถึงรายได้ที่หนุนเพิ่มจาก Lansing นอกจากนี้ ในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ที่ 2,000 ล้านบาท จากรายได้ที่หนุนเพิ่มจากธุรกิจ InsurTech , HealthTech และธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคตทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่บริษัทฯ และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น”
อย่างไรก็ตาม รายได้การให้บริการออกแบบ ติดตั้ง พัฒนาระบบ การให้บริการสนับสนุน และดูแลระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) และระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) ลดลง จากความท้าทายในการดำเนินงานในโครงการขนาดใหญ่ 2 โครงการ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ส่งมอบงานเรียบร้อยแล้ว 1 โครงการ และอีก 1 โครงการบริษัทฯ ที่คาดว่าจะสามารถส่งมอบงานได้ภายในสิ้นปี 2566
นอกจากนี้ การควบรวมกิจการของบริษัท แลนซิ่ง บิสสิเนส ซิสเต็มส์ จำกัด หรือ Lansing เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทมีรายได้จากธุรกิจให้บริการจัดหาบุคลากรในส่วนงานสารสนเทศ ส่งผลรายได้ที่เกิดประจำของบริษัทฯ เติบโตแข็งแกร่งขึ้น โดย1H/66 บริษัทฯ มีรายได้ที่เกิดขึ้นประจำ 339.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 159.58 ล้านบาท คิดเป็น 88.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ประจำอยู่ที่ 179.62 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการเติบโตในธุรกิจ InsurTech นั้น มีแนวโน้มที่สดใส หลังจากการเปิดตัวบริษัท ไอแอนด์ไอ เวนเจอร์ จำกัด หรือ “iiV” บริษัทย่อยในเครือ พร้อมผลิตภัณฑ์ “Moverse” ดิจิทัลโซลูชันสำหรับธุรกิจประกันภัยรถยนต์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้รับความสนใจทดลองใช้ผลิตภัณฑ์จากธุรกิจประกันและโบรกเกอร์ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น และมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในปีนี้ ตาม Roadmap การพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านดิจิทัลอินชัวรันส์แบบครบวงจรที่ได้วางไว้
ด้านแผนการลงทุน M&A นอกเหนือจากแผนร่วมลงทุนตั้งบริษัท Joint Venture กับยักษ์ใหญ่วงการเทคโนโลยีในเวียดนาม VMO Holdings ภายในสิ้นปี 2566 นี้แล้ว บริษัทฯ ยังมีแผนลงทุนในเวียดนามอีกเช่นกัน ซึ่งอยู่ในระหว่างการเตรียมการ โดยมั่นใจว่าลงทุนในเวียดนามครั้งนี้ จะเป็น Springboard ที่ทำให้ iiG เติบโตอย่างมาก อีกทั้ง บริษัทฯ ยังมีแผนการลงทุนในประเทศที่จะเป็นจิกซอว์สำคัญ เพื่อเสริมการให้บริการด้าน Digital Transformation แบบครบวงจรแก่ลูกค้าองค์กรธุรกิจในประเทศไทย
นายสมชายกล่าวต่อว่า “ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับงานโครงการใหม่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 และสำหรับในปี 2566 นี้ บริษัทฯ คาดการณ์ว่ายังคงเติบโตต่อเนื่อง มีรายได้ทั้งปีเติบโตกว่า 25% หรือประมาณ 1,200 ล้านบาท จากการเติบโตของธุรกิจเดิมของบริษัท (Organic Growth) ในกลุ่ม CRM และ ERP อีกทั้งรายได้เสริมจากธุรกิจ MarTech ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี รวมถึงรายได้ที่หนุนเพิ่มจาก Lansing นอกจากนี้ ในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ที่ 2,000 ล้านบาท จากรายได้ที่หนุนเพิ่มจากธุรกิจ InsurTech , HealthTech และธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคตทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่บริษัทฯ และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น”