จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : PTG รับอานิสงส์ยอดใช้น้ำมัน กลับสู่ภาวะปกติก่อนโควิดระบาด
11 กันยายน 2566
ความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวดีขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ กรมธุรกิจพลังงานยอดการใช้เฉลี่ยกลับสู่ภาวะปกติเท่ากับก่อนการระบาดของโควิด กระตุ้นยอดขาย บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ซึ่งผู้บริหารมั่นใจครึ่งปีหลังผลงานเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา
กรมธุรกิจพลังงาน ระบุภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีแรกของปี66 เฉลี่ยอยู่ที่ 156.74 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.7% และคาดว่าภาพรวมทั้งปีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
โดยการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน ครึ่งปีแรกเฉลี่ยอยู่ที่ 31.96 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.9% ส่วนน้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 72.30 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.7% จากปัจจัยด้านราคา
และคาดการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีหลัง จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการปรับตัวของธุรกิจที่พึ่งพาการขนส่งมากขึ้น โดยน้ำมันกลุ่มเบนซินปรับเพิ่มขึ้น 1.2% น้ำมันดีเซลปรับลดลง 1.9% น้ำมัน JET A1 ปรับเพิ่มขึ้น 30.6% และ LPG เพิ่มขึ้น 5.7%
นอกจากนี้ กรมฯ คาดว่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยปี 66 ในภาพรวมยกเว้นน้ำมัน JET A1 จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติหลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 เนื่องจากธุรกิจการบินอยู่ระหว่างการฟื้นฟู และการเติบโตของเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดการเดินทางไกล
สอดคล้องกับทิศทางธุรกิจของบมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) “พิทักษ์ รัชกิจประการ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ มั่นใจแนวโน้มครึ่งปีหลังผลประกอบการจะดีขึ้น และเชื่อว่าไตรมาส 2 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี ขณะที่ยอดขาย ทั้งปริมาณน้ำมัน และธุรกิจ Non-Oil ยังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และคาดว่าค่าการตลาด ที่ฉุดผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 น่าจะอยู่ในระดับที่ดีกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะการมีนโยบายหรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ออกมา
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีเป้าหมายขยายสถานีบริการน้ำมันครึ่งปีหลังอีก 40 สถานี เป็น 2,206 สถานี และตั้งเป้ายอดขายน้ำมันเพิ่มขึ้นจากเดิมที่วางเป้าไว้ 8-12% เป็น 10-15% หลังครึ่งปีแรกเติบโต 14.3% ส่วนธุรกิจNon-Oil ตั้งเป้าเติบโต 75-85% ซึ่งในครึ่งปีแรก ทำได้ 63.1% โดยคาดว่า ธุรกิจก๊าซ LPG และธุรกิจกาแฟ น่าจะเติบโตได้อย่างมีนัย แม้จะปรับลดเป้าหมายขยายสาขากาแฟพันธุ์ไทย เหลือ 1,200 สาขา
ภาพรวมส่วนแบ่งการตลาดในส่วนของสถานีบริการน้ำมัน ในไตรมาส 2/66 PTG มีส่วนแบ่งการตลาด 19.5% หรือ 7,285 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 19.2% และคาดว่าในไตรมาส 4 น่าจะมีโอกาสขยับเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 20%
ทั้งนี้ในปัจจุบัน PTG มีสถานีบริการน้ำมัน 2,166 สาขา แบ่งเป็น สถานีบริการฯ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทฯ (COCO) จำนวน 1,819 สถานี และสถานีบริการฯ ที่เป็นของผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิ์จากบริษัทฯ (DODO) จำนวน 347 สถานี
ด้านนายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ PTG รุกตลาดด้าน Non-Oil มีการขยายสาขาเป็นจำนวนมาก
PTG ยังเร่งรุกธุรกิจด้าน Non-Oil มากขึ้น เพื่อบริหารความเสี่ยงด้านกลไกราคาน้ำมัน และมีการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ในภาคของอนาคต เช่น ธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะเพื่อชุมชน ซึ่งขณะนี้ได้รับสัญญาซื้อขายไฟเรียบร้อยแล้วและอยู่ในช่วงเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้าง คาดว่าอีก 2 ปีข้างหน้าจะช่วยสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับบริษัท
นอกจากนี้ ยังศึกษาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของผู้ถือบัตรสมาชิก ในธุรกิจการดูแลรักษารถยนต์ ธุรกิจไฟแนนซ์ และธุรกิจประกันภัย
กรมธุรกิจพลังงาน ระบุภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีแรกของปี66 เฉลี่ยอยู่ที่ 156.74 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.7% และคาดว่าภาพรวมทั้งปีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
โดยการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน ครึ่งปีแรกเฉลี่ยอยู่ที่ 31.96 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.9% ส่วนน้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 72.30 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.7% จากปัจจัยด้านราคา
และคาดการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีหลัง จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการปรับตัวของธุรกิจที่พึ่งพาการขนส่งมากขึ้น โดยน้ำมันกลุ่มเบนซินปรับเพิ่มขึ้น 1.2% น้ำมันดีเซลปรับลดลง 1.9% น้ำมัน JET A1 ปรับเพิ่มขึ้น 30.6% และ LPG เพิ่มขึ้น 5.7%
นอกจากนี้ กรมฯ คาดว่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยปี 66 ในภาพรวมยกเว้นน้ำมัน JET A1 จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติหลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 เนื่องจากธุรกิจการบินอยู่ระหว่างการฟื้นฟู และการเติบโตของเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดการเดินทางไกล
สอดคล้องกับทิศทางธุรกิจของบมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) “พิทักษ์ รัชกิจประการ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ มั่นใจแนวโน้มครึ่งปีหลังผลประกอบการจะดีขึ้น และเชื่อว่าไตรมาส 2 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี ขณะที่ยอดขาย ทั้งปริมาณน้ำมัน และธุรกิจ Non-Oil ยังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และคาดว่าค่าการตลาด ที่ฉุดผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 น่าจะอยู่ในระดับที่ดีกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะการมีนโยบายหรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ออกมา
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีเป้าหมายขยายสถานีบริการน้ำมันครึ่งปีหลังอีก 40 สถานี เป็น 2,206 สถานี และตั้งเป้ายอดขายน้ำมันเพิ่มขึ้นจากเดิมที่วางเป้าไว้ 8-12% เป็น 10-15% หลังครึ่งปีแรกเติบโต 14.3% ส่วนธุรกิจNon-Oil ตั้งเป้าเติบโต 75-85% ซึ่งในครึ่งปีแรก ทำได้ 63.1% โดยคาดว่า ธุรกิจก๊าซ LPG และธุรกิจกาแฟ น่าจะเติบโตได้อย่างมีนัย แม้จะปรับลดเป้าหมายขยายสาขากาแฟพันธุ์ไทย เหลือ 1,200 สาขา
ภาพรวมส่วนแบ่งการตลาดในส่วนของสถานีบริการน้ำมัน ในไตรมาส 2/66 PTG มีส่วนแบ่งการตลาด 19.5% หรือ 7,285 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 19.2% และคาดว่าในไตรมาส 4 น่าจะมีโอกาสขยับเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 20%
ทั้งนี้ในปัจจุบัน PTG มีสถานีบริการน้ำมัน 2,166 สาขา แบ่งเป็น สถานีบริการฯ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทฯ (COCO) จำนวน 1,819 สถานี และสถานีบริการฯ ที่เป็นของผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิ์จากบริษัทฯ (DODO) จำนวน 347 สถานี
ด้านนายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ PTG รุกตลาดด้าน Non-Oil มีการขยายสาขาเป็นจำนวนมาก
PTG ยังเร่งรุกธุรกิจด้าน Non-Oil มากขึ้น เพื่อบริหารความเสี่ยงด้านกลไกราคาน้ำมัน และมีการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ในภาคของอนาคต เช่น ธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะเพื่อชุมชน ซึ่งขณะนี้ได้รับสัญญาซื้อขายไฟเรียบร้อยแล้วและอยู่ในช่วงเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้าง คาดว่าอีก 2 ปีข้างหน้าจะช่วยสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับบริษัท
นอกจากนี้ ยังศึกษาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของผู้ถือบัตรสมาชิก ในธุรกิจการดูแลรักษารถยนต์ ธุรกิจไฟแนนซ์ และธุรกิจประกันภัย