จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : WINMED ปรับกลยุทธ์ลุยงานสปสช. หนุนรายได้เติบโตยั่งยืน ปี 66 แตะ 30%
13 กันยายน 2566
รัฐบาลสนับสนุนและยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ของไทยอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม กระตุ้นยอดการใช้อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ส่งผลดีต่อรายได้ของบมจ.วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (WINMED) ซึ่งผู้บริหารมั่นใจปี 66 รายได้โตแตะ 30% สร้างสถิติสูงสุดใหม่
กรมการแพทย์ตั้งเป้าหมายปี 2566 เรื่องหลักที่ต้องดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ได้แก่
1. ระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine)โรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ทุกแห่งมีระบบ DMS Telemedicine ยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ในการนำส่งบริการจากโรงพยาบาลไปถึงบ้านของประชาชน เพิ่มในแผนกผู้ป่วยนอกและคลินิกเฉพาะทางและมี Model ขยายไปสู่เขตสุขภาพที่สนใจ
2.ผู้สูงอายุเข้าถึงระบบการดูแลสุขภาพอย่างทั่วถึง ครบวงจรไร้รอยต่อโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์มีคลินิกผู้สูงอายุ จัดทำมาตรฐานและส่งเสริมการจัดตั้งคลินิกผู้สูงอายุในโรงพยาบาลภูมิภาค
3. กัญชาทางการแพทย์ มีการศึกษาวิจัยพัฒนาขยายผลการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์สู่บริการทางการแพทย์ในหลากหลายกลุ่มโรค จัดทำแนวทางการให้บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์แบบบูรณาการเพื่อเอื้อให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการกัญชาทางการแพทย์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
4. Model ระบบบริการทางการแพทย์ที่เชื่อมโยงอย่างครบวงจร ไร้รอยต่อ มีการสร้าง model สำหรับเขตสุขภาพนำไปเป็นต้นแบบ
ทั้งนี้กรมการแพทย์มีเป้าหมายสำคัญ คือประชาชนต้องได้รับบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานวิชาชีพอย่างเสมอภาค ทั่วถึงและ เท่าเทียม
ต้องยอมรับว่าการแพทย์ของไทยมีการพัฒนาและได้รับการยอมรับทั้งจากคนไทยและต่างชาติ ซึ่งการยกระดับและการรักษาที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่จะต้องมีการใช้เพิ่มขึ้น สนับสนุนการเติบโตของรายได้ บมจ.วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (WINMED) ฐานะผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องและชุดอุปกรณ์ สำหรับการเก็บ การตรวจวิเคราะห์ วินิจฉัย และการบำบัดรักษาทางการแพทย์
และล่าสุดบริษัทชนะการประมูลงานจากโรงพยาบาลศิริราช กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จำนวน 2โครงการ มูลค่ารวม 30 ล้านบาท โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “นันทิยะ ดารกานนท์” ระบุ งานที่บริษัทฯชนะการประมูลทั้ง 2 โครงการของภาครัฐ ประกอบด้วย
1.ชุดกรองเม็ดเลือดขาวออกจากเม็ดเลือดแดง มูลค่า 15 ล้านบาท ให้กับ โรงพยาบาลศิริราช
2.ชุดเจาะเก็บพลาสมา มูลค่า 15 ล้านบาทของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย
สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านจำหน่ายเครื่องมือและชุดอุปกรณ์ สำหรับการเก็บ การตรวจวิเคราะห์ วินิจฉัย และการบำบัดรักษาทางการแพทย์ ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากองค์กรขนาดใหญ่ และเป็นที่ยอมรับ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะสามารถเข้าไปแข่งขันการประมูลอุปกรณ์ทางการแพทย์ในอีกหลายหน่วยงาน ซึ่งจะทำให้บริษัทฯศักยภาพสร้างรายได้มากขึ้นในอนาคต
สำหรับแนวโน้มธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากยอดขายสินค้าจากธุรกิจเดิมปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการได้รับการสนับสนุนของโครงการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก รวมทั้งรายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีของเซลล์และโมเลกุลที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการสั่งซื้อน้ำยาเพื่อใช้ในห้องปฏิบัติการ กลุ่มผลิตภัณฑ์ธนาคารโลหิตและความปลอดภัยของโลหิต มีความต้องการใช้โลหิตและเกล็ดโลหิตของโรงพยาบาลเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นที่ชัดเจนหลังโควิด-19คลี่คลาย ทำให้งานด้านการทางการแพทย์ การศึกษาและวิจัย เริ่มมีการสั่งสินค้าและบริการมากขึ้นกว่าเท่าตัวโดยบริษัทฯ ยังเดินหน้าต่อยอดกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการเติบโต ได้แก่ แผนเพิ่มหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่เป็น10หน่วย สำหรับให้บริการในปี2567
ขณะที่แผนการดำเนินงานในปี 2566 นอกจากขยายการลงทุนแล้ว บริษัทฯมีการปรับกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตมากขึ้น จากการได้รับการสนับสนุนจากโครงการสปสช.ในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ส่งผลให้มีผู้ใช้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ซึ่งจะช่วยสนับสนุนยอดขายให้มากขึ้น ผลักดันรายได้ในปีนี้เติบโต 30% ตามเป้าหมายที่วางไว้ และสามารถสร้างสถิติสูงสุดใหม่