รายงานพิเศษ : MEB ผู้นำ วรรณกรรมออนไลน์(E-Book) ฐานะแข็งแกร่ง “ไร้หนี้ที่มีดอกเบี้ย”

การระบาดของโควิด19 ถือเป็นจุดเริ่มต้นสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการกระตุ้นให้คนไทยต้องหันมาใช้ระบบดิจิทัลมากขึ้น  โดย ttb analytics  คาดว่ามูลค่าตลาดธุรกิจดิจิทัลในภาพรวมปี 2565 อยู่ที่ประมาณ  4.5 แสนล้านบาท  และปี 2566  คาดว่าในปี 2566 นี้ ธุรกิจบริการดิจิทัลยังมีแนวโน้มเติบโต 24% มูลค่าอยู่ที่ 5.6 แสนล้านบาท จากการที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มพัฒนาเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลมากขึ้น



โดยในกลุ่มวรรณกรรมออนไลน์  ซึ่งนอกจากโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเตอร์เน็ตที่เป็นปัจจัยบวก ยังได้รับผลดีจาก ราคา Smart Phone และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับลดลงมาก ทำให้ง่ายต่อเข้าถึง  และการเกิดการระบาดของ COVID-19 จึงส่งเสริมกิจกรรมออนไลน์หลายกิจกรรมให้ได้รับความนิยมมากขึ้น รวมถึงการอ่านหนังสือออนไลน์ 

และเมื่อกล่าวถึงวรรณกรรมออนไลน์ต้องนึกถึง  บมจ.เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) ในฐานะผู้นำ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งเมื่อพิจารณาจากรายได้รวม มีสมาชิกผู้เข้าใช้บริการมากกว่า  8,000,000บัญชี และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  จากการให้บริการที่เหนือชั้น ความปลอดภัยในการใช้งาน และระบบที่มีความเสถียร ซึ่งสามารถสร้างความพึงพอใจและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการและเจ้าของผลงานได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งอยู่ในอุตสาหกรรมวรรณกรรมออนไลน์ ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูงจากการเติบโตของพฤติกรรมผู้บริโภคในการใช้อินเทอร์เน็ตและSocial Media  นอกจากนี้ยังมีวรรณกรรมเพื่อนักอ่านมากกว่า 1,000,000 เรื่อง 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MEB  “รวิวร มะหะสิทธิ์”   ระบุว่า โครงสร้างรายได้จากการขายปี 2021 ของบริษัทมาจาก 3 ส่วนหลัก คือ

1)การจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) คิดเป็น 95%ของยอดขาย ซึ่งรวมรายได้จากการขายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์บนแพลตฟอร์ม meb ,Hytexts และ Hibrary 

2) แพลตฟอร์ม readAwrite คิดเป็น 3%ของรายได้จากการขายและบริการ 

3) ธุรกิจอื่นๆ คิดเป็น 2%ของรายได้จากการขายและบริการ เช่น E-Buffet , Audio book และ E-Reader เป็นต้น

ซึ่งบริษัทจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)  วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ในหมวดธุรกิจบริการโดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 75,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 25.17 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด  

สำหรับวัตถุประสงค์ในการใช้เงินระดมทุนครั้งนี้
1.เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจที่อยู่ในแพลตฟอร์มปัจจุบัน (meb readAwriteและHytexts)โดยการเพิ่มเนื้อหาวรรณกรรมออนไลน์ ประเภทนิยายและไม่ใช่นิยาย

2.เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบันไปยังต่างประเทศ โดยเน้นการใช้ภาษาท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ ไปพร้อมกับซื้อลิขสิทธิ์วรรณกรรมภาษาไทย แปลเป็นภาษาอังกฤษ 

3.เพื่อใช้ในการปรับปรุงพัฒนาแพลตฟอร์มปัจจุบันให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ และจากแผนการใช้เงินดังกล่าว บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างน้อยปีละ1ครั้ง ในอัตรารวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ40ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมของบริษัทฯ ภายหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ

“ฐานะทางการเงินของ MEB ทีมีความแข็งแกร่ง และเป็นแพลตฟอร์มสำหรับอ่านวรรณกรรมออนไลน์ระดับแนวหน้าของประเทศ ทีมผู้บริหารมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมวรรณกรรมออนไลน์ทั้งต้นน้ำตลอดจนปลายน้ำ ดำเนินงานโดยไร้ภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ย  ทำให้สามารถเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ รองรับความต้องการผู้บริโภคได้อีกมาก”