เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย มีพื้นฐานตระกูลที่ดี และโด่งดังมีชื่อเสียงในเรื่องการทำธุรกิจ ได้ชื่อว่าเป็น”เจ้าพ่อวงการอสังหาฯ”และเมื่อกระโดดเข้าสู่การเมือง ภายใต้สีเสื้อเพื่อไทย
ทีมการเมืองของเพื่อไทย ก็สนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่คงยังไม่พอ เห็นได้จาก การประกาศแต่งตั้ง ที่ปรึกษาอีก 9 คนล่าสุด ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่นักการเมือง แต่มาจากแวดวงธุรกิจ โดยมี “กิตติรัตน์ ณ ระนอง หรือ เสี่ยโต้ง” เจ้าของวลี “โกหกสีขาว” ในยุค “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นั่งเป็นประธาน มีความเจนจัดการเมืองพอตัว เพราะเคยเป็นรองนายกฯ เป็นรัฐมนตรีคลัง และรัฐมนตรีพาณิชย์ มาแล้ว
แถมประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจก็โชกโชน เคยเป็นกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือ ก.ล.ต., เป็นอาจารย์สอนในระดับอุดมศึกษาฝ่ายวิชาการของสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, และอธิการบดีมหาวิทยาลัยชินวัตร รวมถึงยังเป็นอดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทยทั้งชุดซีเกมส์ และชุดใหญ่ จึงนับว่าเหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้ากุนซือของ “เสี่ยนิด” ที่ต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และหลักดันในหลายๆนโยบายเป็นอย่างมาก
ส่วนอีก 8 คนที่เหลือ “เทวัญ ลิปตพัลลภ” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล และเป็นน้องชายของ “สุวัจน์” ที่เคยร่วมงานกับเพื่อไทย มาตั้งแต่ครั้งเป็นไทยรักไทยรวมถึงยังเป็นอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในยุค”ลุงตู่” ด้วยเช่นกัน
คนที่ 2 “พิชัย ชุณหวชิร” มีดีกรีเป็นประธานกรรมการ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ลำดับ 3 “ศุภนิจ จัยวัฒน์" ประธานกรรมการบริษัท อาโนส์ กรุ๊ป 2020 จำกัด และเป็นคณะกรรมการบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) คนสนิท “ของเศรษฐา”
คนที่ 4 “บิ๊กเอ-พิมล ศรีวิกรม์” อดีต ส.ส.และเป็นอดีต กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเป็น นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย, กรรมการโรงเรียนศรีวิกรม์, และประธานที่ปรึกษานโยบายด้านกีฬา พรรคเพื่อไทย,
อันดบ 5 “พิชิต ชื่นบาน” หัวหน้าทีมทนายความของตระกูลชินวัตร ซึ่งก่อนหน้านี้มีชื่อลุ้นนั่งรัฐมนตรี แต่ตอนหลังประกาศถอนตัว เจ้าของฉายา “ทนายถุงขนม” เพราะถูกศาลสั่งให้จำคุกข้อหาละเมิดอำนาจศาลกรณีถุงขนม 2 ล้านบาท
คนที่ 6 “ชลธิศ สุรัสวดี” คณะทำงานนโยบายที่ดินและสิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทย เคยเป็นอดีตอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นหลานชายนายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกฯ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์
อันดับ 7 “ชัย วัชรงค์” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นนายสัตวแพทย์ หรือหมอชัย เป็นนักวิชาการด้านการเกษตรสมัยใหม่ คณะกรรมการด้านเศรษฐกิจและการเกษตร พรรคเพื่อไทย และเป็นผู้สมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 91
ส่วนคนสุดท้าย “สุรยุทธ์ ทวีกุลวัฒน์” ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน “บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์” และผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 78 ของพรรคเพื่อไทยนั่นเอง จะเห็นได้ว่า
ทั้ง 9 คน มีเพียง “เทวัญ” เพียงคนเดียว ที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล ที่เหลือ ล้วนเป็นคนใกล้ชิด”เศรษฐา” และเป็นคนที่ทำงานให้พรรคเพื่อไทยมาโดยตลอดแทบทั้งสิ้น
ที่มา : https://www.sanook.com/news/9024198/
ทีมการเมืองของเพื่อไทย ก็สนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่คงยังไม่พอ เห็นได้จาก การประกาศแต่งตั้ง ที่ปรึกษาอีก 9 คนล่าสุด ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่นักการเมือง แต่มาจากแวดวงธุรกิจ โดยมี “กิตติรัตน์ ณ ระนอง หรือ เสี่ยโต้ง” เจ้าของวลี “โกหกสีขาว” ในยุค “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นั่งเป็นประธาน มีความเจนจัดการเมืองพอตัว เพราะเคยเป็นรองนายกฯ เป็นรัฐมนตรีคลัง และรัฐมนตรีพาณิชย์ มาแล้ว
แถมประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจก็โชกโชน เคยเป็นกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือ ก.ล.ต., เป็นอาจารย์สอนในระดับอุดมศึกษาฝ่ายวิชาการของสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, และอธิการบดีมหาวิทยาลัยชินวัตร รวมถึงยังเป็นอดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทยทั้งชุดซีเกมส์ และชุดใหญ่ จึงนับว่าเหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้ากุนซือของ “เสี่ยนิด” ที่ต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และหลักดันในหลายๆนโยบายเป็นอย่างมาก
ส่วนอีก 8 คนที่เหลือ “เทวัญ ลิปตพัลลภ” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล และเป็นน้องชายของ “สุวัจน์” ที่เคยร่วมงานกับเพื่อไทย มาตั้งแต่ครั้งเป็นไทยรักไทยรวมถึงยังเป็นอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในยุค”ลุงตู่” ด้วยเช่นกัน
คนที่ 2 “พิชัย ชุณหวชิร” มีดีกรีเป็นประธานกรรมการ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ลำดับ 3 “ศุภนิจ จัยวัฒน์" ประธานกรรมการบริษัท อาโนส์ กรุ๊ป 2020 จำกัด และเป็นคณะกรรมการบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) คนสนิท “ของเศรษฐา”
คนที่ 4 “บิ๊กเอ-พิมล ศรีวิกรม์” อดีต ส.ส.และเป็นอดีต กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเป็น นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย, กรรมการโรงเรียนศรีวิกรม์, และประธานที่ปรึกษานโยบายด้านกีฬา พรรคเพื่อไทย,
อันดบ 5 “พิชิต ชื่นบาน” หัวหน้าทีมทนายความของตระกูลชินวัตร ซึ่งก่อนหน้านี้มีชื่อลุ้นนั่งรัฐมนตรี แต่ตอนหลังประกาศถอนตัว เจ้าของฉายา “ทนายถุงขนม” เพราะถูกศาลสั่งให้จำคุกข้อหาละเมิดอำนาจศาลกรณีถุงขนม 2 ล้านบาท
คนที่ 6 “ชลธิศ สุรัสวดี” คณะทำงานนโยบายที่ดินและสิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทย เคยเป็นอดีตอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นหลานชายนายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกฯ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์
อันดับ 7 “ชัย วัชรงค์” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นนายสัตวแพทย์ หรือหมอชัย เป็นนักวิชาการด้านการเกษตรสมัยใหม่ คณะกรรมการด้านเศรษฐกิจและการเกษตร พรรคเพื่อไทย และเป็นผู้สมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 91
ส่วนคนสุดท้าย “สุรยุทธ์ ทวีกุลวัฒน์” ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน “บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์” และผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 78 ของพรรคเพื่อไทยนั่นเอง จะเห็นได้ว่า
ทั้ง 9 คน มีเพียง “เทวัญ” เพียงคนเดียว ที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล ที่เหลือ ล้วนเป็นคนใกล้ชิด”เศรษฐา” และเป็นคนที่ทำงานให้พรรคเพื่อไทยมาโดยตลอดแทบทั้งสิ้น
ที่มา : https://www.sanook.com/news/9024198/