Wealth Sharing
กรุงศรี คอนซูมเมอร์ตั้งเป้าปี 66 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 3.5แสนลบ สินเชื่อใหม่โต 9.7 หมื่นลบ.
09 กุมภาพันธ์ 2566
กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งเป้าปี 66 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรแตะ 350,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่โต 97,000 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการปี 65 เติบโตแข็งแกร่ง ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต 17% รับเศรษฐกิจฟื้น เตรียมจัดทัพโปรโมชันสุดพิเศษเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตร
นางสาวณญาณี เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส กล่าวว่า “ในปี 2565 ที่ผ่านมา ผลประกอบการของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เติบโตเป็นที่น่าพอใจ ดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ เป็นผลมาจากสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายลง รวมถึงความสำเร็จในการปรับกลยุทธ์การตลาดของบริษัทให้ตอบรับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนไป
โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 333,000 ล้านบาท เติบโต 17% ยอดสินเชื่อใหม่ 87,000 ล้านบาท เติบโต 13% เทียบกับปีก่อน สำหรับอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับที่ดีและลดลงเมื่อเทียบกับปี 2564 อยู่ที่ระดับ 1% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.5% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ นับว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจ”
จากข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ในปี 2565 หมวดที่เติบโตสูง ได้แก่ 1. สายการบิน (+329%), 2. ตัวแทนท่องเที่ยว (+186%), 3. สถานเสริมความงาม (+93%), 4. รถเช่า (+81%), 5. โรงแรม (+81%), 6. ร้านอาหารและเครื่องดื่ม (+66%) แสดงให้เห็นว่ายอดการใช้จ่ายในหมวดที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและการบริโภค ไม่ว่าจะเป็น การซื้อตั๋วเครื่องบิน แพ็คเกจท่องเที่ยว โรงแรม รถเช่า รวมถึง สถานเสริมความงามและลดน้ำหนัก เติบโตสูงมาก จากความต้องการท่องเที่ยวและบริโภคเพื่อชดเชยในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา
“ทั้งนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ คาดว่า เศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปีนี้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากปัจจัยสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ “ช้อปดีมีคืน” ทั้งนี้ ในช่วงปีใหม่ถึงตรุษจีนในเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทฯ เห็นการใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโตขึ้น มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ในปีนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จึงเตรียมจัดทัพโปรโมชันสุดพิเศษ ทั้ง กิน ช้อป เที่ยว เพื่อเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตรอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ 15 มกราคม - 30 เมษายน 2566 เป็นต้น”
“ทั้งนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตร 350,000 ล้านบาท และยอดสินเชื่อใหม่ 97,000 ล้านบาท ภายในปี 2566” นางสาวณญาณีกล่าว
นางสาวณญาณี เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส กล่าวว่า “ในปี 2565 ที่ผ่านมา ผลประกอบการของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เติบโตเป็นที่น่าพอใจ ดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ เป็นผลมาจากสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายลง รวมถึงความสำเร็จในการปรับกลยุทธ์การตลาดของบริษัทให้ตอบรับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนไป
โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 333,000 ล้านบาท เติบโต 17% ยอดสินเชื่อใหม่ 87,000 ล้านบาท เติบโต 13% เทียบกับปีก่อน สำหรับอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับที่ดีและลดลงเมื่อเทียบกับปี 2564 อยู่ที่ระดับ 1% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.5% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ นับว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจ”
จากข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ในปี 2565 หมวดที่เติบโตสูง ได้แก่ 1. สายการบิน (+329%), 2. ตัวแทนท่องเที่ยว (+186%), 3. สถานเสริมความงาม (+93%), 4. รถเช่า (+81%), 5. โรงแรม (+81%), 6. ร้านอาหารและเครื่องดื่ม (+66%) แสดงให้เห็นว่ายอดการใช้จ่ายในหมวดที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและการบริโภค ไม่ว่าจะเป็น การซื้อตั๋วเครื่องบิน แพ็คเกจท่องเที่ยว โรงแรม รถเช่า รวมถึง สถานเสริมความงามและลดน้ำหนัก เติบโตสูงมาก จากความต้องการท่องเที่ยวและบริโภคเพื่อชดเชยในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา
“ทั้งนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ คาดว่า เศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปีนี้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากปัจจัยสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ “ช้อปดีมีคืน” ทั้งนี้ ในช่วงปีใหม่ถึงตรุษจีนในเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทฯ เห็นการใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโตขึ้น มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ในปีนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จึงเตรียมจัดทัพโปรโมชันสุดพิเศษ ทั้ง กิน ช้อป เที่ยว เพื่อเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตรอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ 15 มกราคม - 30 เมษายน 2566 เป็นต้น”
“ทั้งนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตร 350,000 ล้านบาท และยอดสินเชื่อใหม่ 97,000 ล้านบาท ภายในปี 2566” นางสาวณญาณีกล่าว