Wealth Sharing
KBank ทุ่ม 3.5 พันลบ.ส่ง กสิกร อินเวสเจอร์ ถือหุ้น JAM 9.9% ลุยธุรกิจซื้อหนี้
09 กุมภาพันธ์ 2566
JMT เปิดดีลใหญ่ต้นปี KInvesture บริษัทย่อยของ KBank เข้าถือหุ้น JAM 9.9% ด้วยเงินลงทุนกว่า 3,500 ล้านบาท เพิ่มศักยภาพบริษัทบริหารสินทรัพย์การเข้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ ตอกย้ำ บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ผู้นำกลุ่มบริษัทบริหารสินทรัพย์ เบอร์ 1 ของประเทศ
นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารร่วมกับบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด (JAM) ซึ่งเป็นบริษัทลูกในกลุ่มบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) (JMT) จัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด (JK AMC) บริษัทร่วมทุนแห่งแรกในไทย ระหว่างธนาคารพาณิชย์และบริษัทบริหารสินทรัพย์ตามนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์โควิดนั้น
ธนาคารเห็นศักยภาพของ JAM จากความร่วมมือดังกล่าว โดยเห็นว่า JAM มี In-house เทคโนโลยีและบุคลากรที่มีความชำนาญในการปฏิบัติงาน ซึ่งเกิดจากประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมายาวนาน รวมทั้งเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจของ JAM มาโดยตลอด จึงตัดสินใจเข้าลงทุนในครั้งนี้
โดย บริษัท กสิกร อินเวสเจอร์ จำกัด (KInvesture) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของธนาคารกสิกรไทย เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด (JAM) คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 9.9% ด้วยเงินลงทุนกว่า 3,500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการเติบโตของ JAM ในอนาคต
นายปิยะ พงษ์อัชฌา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจ มาร์ท (JMART) และประธานกรรมการบริหาร บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) เปิดเผยว่า จากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดี ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด และความไม่แน่นอนต่างๆ ที่เกิดกับเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจประเทศไทย แนวโน้มหนี้เสียยังคงเร่งตัวสูงขึ้น ทำให้ บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด (JAM) และ บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด (JK AMC) มีโอกาสใช้เงินทุนในการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินอื่นๆ มาบริหาร
โดยเป้าหมายหลักของทั้ง 2 บริษัทเพื่อส่งลูกหนี้กลับเข้าสู่ระบบการเงินอีกครั้ง ผ่านการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้ลูกหนี้สามารถชำระคืนหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ข้อมูลวิเคราะห์ประกอบการนำเสนอเงื่อนไขการชำระหนี้ ใช้เทคโนโลยีพัฒนาแอปพลิเคชันอำนวยความสะดวกลูกหนี้ในการเลือกผ่อนชำระตามความสามารถของตนเอง และอำนวยความสะดวกในการชำระเงินผ่านแอป โดยคาดหวังว่าช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศได้
นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทย่อยของธนาคารกสิกรไทย ได้เข้าลงทุนถือหุ้นสามัญใน JAM สะท้อนความแข็งแกร่งในการบริหารงาน ความเชี่ยวชาญ และศักยภาพการเติบโตของกลุ่มบริษัท รวมถึงเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ซื้อทรัพย์ NPA ทั่วประเทศ ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่า กลุ่มบริษัท JMT จะก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ภายในปี 2568
นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารร่วมกับบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด (JAM) ซึ่งเป็นบริษัทลูกในกลุ่มบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) (JMT) จัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด (JK AMC) บริษัทร่วมทุนแห่งแรกในไทย ระหว่างธนาคารพาณิชย์และบริษัทบริหารสินทรัพย์ตามนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์โควิดนั้น
ธนาคารเห็นศักยภาพของ JAM จากความร่วมมือดังกล่าว โดยเห็นว่า JAM มี In-house เทคโนโลยีและบุคลากรที่มีความชำนาญในการปฏิบัติงาน ซึ่งเกิดจากประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมายาวนาน รวมทั้งเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจของ JAM มาโดยตลอด จึงตัดสินใจเข้าลงทุนในครั้งนี้
โดย บริษัท กสิกร อินเวสเจอร์ จำกัด (KInvesture) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของธนาคารกสิกรไทย เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด (JAM) คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 9.9% ด้วยเงินลงทุนกว่า 3,500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการเติบโตของ JAM ในอนาคต
นายปิยะ พงษ์อัชฌา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจ มาร์ท (JMART) และประธานกรรมการบริหาร บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) เปิดเผยว่า จากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดี ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด และความไม่แน่นอนต่างๆ ที่เกิดกับเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจประเทศไทย แนวโน้มหนี้เสียยังคงเร่งตัวสูงขึ้น ทำให้ บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด (JAM) และ บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด (JK AMC) มีโอกาสใช้เงินทุนในการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินอื่นๆ มาบริหาร
โดยเป้าหมายหลักของทั้ง 2 บริษัทเพื่อส่งลูกหนี้กลับเข้าสู่ระบบการเงินอีกครั้ง ผ่านการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้ลูกหนี้สามารถชำระคืนหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ข้อมูลวิเคราะห์ประกอบการนำเสนอเงื่อนไขการชำระหนี้ ใช้เทคโนโลยีพัฒนาแอปพลิเคชันอำนวยความสะดวกลูกหนี้ในการเลือกผ่อนชำระตามความสามารถของตนเอง และอำนวยความสะดวกในการชำระเงินผ่านแอป โดยคาดหวังว่าช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศได้
นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทย่อยของธนาคารกสิกรไทย ได้เข้าลงทุนถือหุ้นสามัญใน JAM สะท้อนความแข็งแกร่งในการบริหารงาน ความเชี่ยวชาญ และศักยภาพการเติบโตของกลุ่มบริษัท รวมถึงเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ซื้อทรัพย์ NPA ทั่วประเทศ ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่า กลุ่มบริษัท JMT จะก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ภายในปี 2568