รายงานพิเศษ : อุตฯยานยนต์ EV ใน EEC หนุนไทย ขึ้นแท่น Regional hub “ผลิตและส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า”

SCB EIC วิเคราะห์การเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ EV ในพื้นที่ EEC ช่วยสนับสนุนให้ไทยไปสู่การเป็น Regional hub ด้านการผลิตและส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า หนุนธุรกิจ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ฐานะผู้นำผลิตแบตเตอรี่ของไทย ดันรายได้บริษัทปีนี้ทะลุ 40,000 ล้านบาท



ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC)  ระบุว่า ไทยมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์โลกจากการเป็นฐานการผลิตและประกอบรถยนต์รายใหญ่ที่มีกำลังการผลิตประมาณปีละ 2 ล้านคัน หรือราว 2% ของการผลิตทั่วโลก โดยในช่วงที่ผ่านมา อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเติบโตขึ้นจากการผลิตยานยนต์สันดาป เพื่อป้อนค่ายรถญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งโรงงานและใช้ไทยเป็นหนึ่งในซับพลายเออร์หลัก 

อย่างไรก็ตาม กระแสยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นต่อเนื่อง ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยปัจจุบันแผนพัฒนาอุตสาหกรรมมีเป้าหมายหลักคือ ผลักดันและต่อยอดให้ไทยสามารถก้าวไปสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ EV ที่สำคัญของโลก
 
SCB EIC มองว่า อานิสงส์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ EV ในพื้นที่ EEC จะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้ไทยสามารถก้าวไปสู่การเป็น Regional hub ด้านการผลิตและส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าได้แต่ก็ยังมีความท้าทายอีกไม่น้อยที่ต้องเร่งพัฒนาควบคู่กันไป 

โดยคาดว่ากำลังกำลังการผลิตรถยนต์ EV ของไทยจะอยู่ที่ราว 3.5 แสนภายในปี 2025 (ขยายตัวกว่า 300% จากปี 2022) และจะเพิ่มขึ้นอีกเป็น 5 แสนคันในปี 2027  ยิ่งไปกว่านั้น จากการศึกษาผลกระทบต่อเศรษฐกิจชี้ว่า ทุก ๆ 1 แสนคันของการผลิตรถยนต์ EV ภายในประเทศ จะทำให้ GDP ไทยเติบโตเพิ่มขึ้นราว 0.2% ซึ่งนอกเหนือไปจากการออกนโยบาย เพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติแล้ว เรายังจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาฝีมือแรงงาน รวมถึงเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานและระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศร่วมด้วย เพื่อให้ทุกข้อต่อการผลิตสามารถเกิดขึ้นในท้องถิ่นและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับระบบเศรษฐกิจไทยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

สำหรับรถยนต์ EV  ชิ้นส่วนที่สำคัญได้แก่ พลังงานแบตเตอรี่  ซึ่งบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่รถ EV ชั้นนำของไทย ได้แก่  บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ดังนั้นเมื่อรถยนต์EV มีความต้องการมากขึ้น  จะสนับสนุนการผลิตแบตเตอรี่ให้ขยายตัวตามไปด้วย 

“อมร ทรัพย์ทวีกุล” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  EA  มั่นใจรายได้ของบริษัทปีนี้จะ ทะลุ 40,000 ล้านบาท เติบโต 45% จากปีก่อนที่มีรายได้ 27,546 ล้านบาท  มาจากด้านธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ที่น่าจะส่งมอบได้กว่า 4,000 คัน ทั้งรถบัสไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า และกระบะไฟฟ้า เป็นต้น

ขณะที่ปีนี้บริษัทยังเดินหน้าขยายโรงงานแบตเตอรี่จากปัจจุบัน 1 GWh เป็น 4 GWh ด้วยงบลงทุนราว 6,000 ล้านบาท และยังเดินหน้าเปลี่ยนแผงโซลาร์  ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพ การผลิตไฟฟ้าได้ดีขึ้นด้วยงบลงทุนราว 2,000 ล้านบาท  นอกจากนี้บริษัทยังจะมีรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิต