Wealth Sharing

Krungthai COMPASS คาดตลาดผู้บริโภคกลุ่มผู้สูงวัย แตะ 2.6 ล้านลบ.ในปี 2573-ชี้ 5 เทรนด์ธุรกิจมาแรง


19 กันยายน 2566
ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS  ประเมินตลาดผู้บริโภคกลุ่มสูงวัย หรือ  Silver Gen เติบโตสูง เฉลี่ยปีละ 4.4%  มีแนวโน้มแตะ 2.6 ล้านล้านบาท  คิดเป็น 12% ของเศรษฐกิจไทยในอีก 7 ปีข้างหน้า  แนะผู้ประกอบการเตรียมพร้อมรับมือ และสร้างโอกาสทางธุรกิจ ชี้  “5 เทรนด์ธุรกิจมาแรง” ตอบโจทย์ Silver Gen  ทั้ง อาหาร ท่องเที่ยว การดูแลสุขภาพ ที่อยู่อาศัย และบริการการเงินเพื่อผู้สูงอายุ

Krungthai COMPASS คาดตลาดผู้บริโภคกลุ่มผู้สูงวัย.jpg

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย(KTB)  กล่าวว่า  สังคมสูงวัย  เป็นโจทย์ใหญ่ของรัฐบาล กดดันฐานะทางการคลังของประเทศ จากภาระค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการ และด้านสาธารณสุขที่เพิ่มขึ้น  โดยเฉพาะรายจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่สูงถึง 9 หมื่นล้านบาท ในปีงบประมาณ 2567  เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่ใช้งบ 6 หมื่นล้านบาท  และอาจเพิ่มขึ้นแตะ 1.3 แสนล้านบาท ในปี 2572  หรือ เพิ่มขึ้น 44% จากงบปี 2567  นอกจากนี้  ยังกระทบกำลังแรงงานที่มีแนวโน้มลดลง อาจส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของประชากรสูงอายุ ทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจใหม่เรียกว่า “เศรษฐกิจสูงวัย “ หรือ “Silver Economy” ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 26.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 880-900 ล้านล้านบาท คิดเป็น 26.6% ของมูลค่าเศรษฐกิจทั่วโลก  ขณะที่มูลค่าตลาดผู้บริโภคกลุ่มผู้สูงวัย หรือ  Silver Gen ของไทย มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยปีละ 4.4% และคาดว่าจะแตะระดับ 2.6 ล้านล้านบาท คิดเป็น12% ของมูลค่าเศรษฐกิจไทย  ในปี 2573  หรืออีก 7 ปีข้างหน้า  นับเป็นความท้าทายสำคัญของภาคธุรกิจไทยในการเตรียมความพร้อมรับมือและคว้าโอกาสจากกลุ่ม Silver Gen  ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่น่าสนใจ เพราะมีศักยภาพด้านการเงิน พร้อมจับจ่ายใช้สอย

น.ส. วีระยา ทองเสือ นักวิเคราะห์  ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS  ธนาคารกรุงไทย  กล่าวว่า จากการที่ ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด (Super-Aged Society) โดยมีสัดส่วนประชากรที่อายุ 65 ปีขึ้นไปเกินกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ภายในระยะ 5-6 ปีข้างหน้า และแนวโน้มค่าใช้จ่ายของกลุ่ม Silver Gen ที่เพิ่มขึ้น  จึงมองว่า  5 เทรนด์ธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง  คือ 1.อาหารสำหรับผู้สูงอายุ เช่น  ธุรกิจผลิตอาหารและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร  2. การท่องเที่ยวสำหรับผู้สูงอายุ ทั้งบริการนำเที่ยว และโรงแรม  3. การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน 4. ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ และ 5.บริการทางการเงินเพื่อผู้สูงอายุ ทั้งการให้คำปรึกษาและผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ ทั้ง SME และธุรกิจขนาดใหญ่ ที่จะสร้างโอกาสเติบโนจากกลุ่มธุรกิจเหล่านี้

สำหรับภาครัฐบาล จำเป็นต้องดำเนินนโยบายที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงในการขาดแคลนแรงงาน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยศึกษาตัวอย่างของรัฐบาลต่างประเทศมาประยุกต์ให้เข้ากับบริบทของประเทศไทย   ซึ่งมีแนวทาง ดังนี้ 

1.กระตุ้นให้ประชาชนมีลูกเพื่อแก้ปัญหาอัตราการเกิดต่ำและปรับเปลี่ยนโครงสร้างอายุประชากรในระยะยาว ผ่านการเพิ่มเงินอุดหนุนและสวัสดิการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการมีบุตร

2. ขยายอายุเกษียณและสนับสนุนการจ้างงานผู้สูงอายุ เพื่อให้มีกำลังแรงงานในระบบเศรษฐกิจต่อไป เช่น ญี่ปุ่นปรับอายุเกษียณอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2564 กำหนดอายุเกษียณเป็น 70 ปี 

3. ยกระดับสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุผ่านกองทุนประกันสังคม ประกันสุขภาพ และระบบบำนาญ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนกลุ่ม Silver Gen