เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 21-09-23

21 กันยายน 2566

เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 21-09-23

21-09-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ

***ว๊าวววว...แบบนี้เรียกว่าเริ่ดดดดดดดดด เจ๊จิ๋มปรบมือรัวๆๆๆ ให้กับ "ป๋ายุทธ" บิ๊กบอส EP ก้อคุณป๋าเค้าโชว์ฟอร์มสุดยอดดดด!!!นำเงินสดกว่า 760 ล้านบาท ชำระคืนหุ้นกู้พร้อมดอกเบี้ยที่ครบกำหนดไถ่ถอน 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ป๋าบอกว่า “ปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ได้ชำระคืนเงินหุ้นกู้รุ่น EP239A ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 17 กันยายนนี้แล้ว ทั้งนี้หุ้นกู้ทุกรุ่นที่ออกโดย EP ที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถจ่ายดอกเบี้ย และไถ่ถอนได้ตามกำหนด ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพการบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงินได้เป็นอย่างดี”

***จากนั้นก้อมีข่าวดีมาบอกต่อแฟนคลับทันที โดย EP เตรียมออกหุ้นกู้ใหม่ 2 ชุด เมูลค่าไม่เกิน 770 ล้านบาท และมีหุ้นกู้สำรอง (Greenshoe) อีก 500 ล้านบาท เสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ ช่วงวันที่ 22-26 ก.ย.นี้ อัตราผลตอบแทน 6.25-6.7% สนใจติดต่อด่วน!!!

***ส่วนความคืบหน้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม 160 เมกะวัตต์ ที่เวียดนาม ขณะนี้ได้ดำเนินการเชื่อมสายส่งของโครงการ HL3,4 รวม 60 เมกะวัตต์ เข้ากับสถานีไฟฟ้าย่อย Lao Bao และของโครงการ Gia Lai รวม 100 เมกะวัตต์ เข้ากับสถานีไฟฟ้าย่อย Dien Hong / Chu Se ของการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ได้เริ่มทำการทดลองเดินเครื่อง ทดสอบระบบการจ่ายไฟฟ้า ตามข้อกำหนดของ EVN แล้ว คาดว่าปลายเดือนนี้จะทยอย COD จากนั้นจะรับรู้รายได้ในทันทีอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2586 จึงมั่นใจว่ารายได้รวมปีนี้ของ EP จะเติบโตกว่า 50% ตามเป้าหมายที่วางไว้

***ส่วน PJW ปีนี้ปักหมุดปี 66 รายได้โต 10% ตามนัด งานนี้ "วิวรรธน์ เหมมณฑารพ" บอกว่าแนวโน้มผลการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง หลังรัฐบาลชุดใหม่ประกาศนโยบาย “ฟรีวีซ่า” ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นผลดีต่อภาคธุรกิจโรงแรม และรีสอร์ท รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวชัดเจน ส่งผลบวกต่อสินค้าหลักของ PJW ในกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งน้ำมันหล่อลื่นและนมเปรี้ยว กลับมาเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงยอดขายชิ้นส่วนยานยนต์ที่จะเพิ่มขึ้นจากการที่นิวโมเดลเข้ามามากขึ้น

***คุณวรรธน์บอกว่าปีนี้ PJW วางงบลงทุนไว้ราว 300 ล้านบาท แบ่งการลงทุนเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.ธุรกิจลอนดรี้ 2.ลงทุนในไลน์ผลิตในกลุ่ม 3.ลงทุนระบบออโตเมชั่น และในปัจจุบันมี Backlog จากกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ต่อเนื่องไปถึงปี 2568 แล้ว นอกจากนี้ ยังคงเดินหน้าที่จะเพิ่มช่องทางสร้างรายได้จากการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้าง New S-Curve ผลักดันการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดในอนาคต

***เดินหน้าขยายธุรกิจไม่ได้หยุดหย่อนสำหรับ PRM ล่าสุด! เดินหน้าขยายกองเรือ เตรียมรับมอบเรือขนส่งปิโตรเคมีเพิ่ม 1 ลำ ในเดือนตุลาฯนี้ รองรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการลงทุนขยายกำลังการผลิตของกลุ่มโรงกลั่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ปีนี้ PRM ลงทุนเรือในกลุ่มนี้แล้วจำนวน 2 ลำ โดยลำแรกเริ่มเข้าให้บริการแล้วตั้งแต่เดือนเม.ย.66 และกำลังดำเนินการซื้อเรือขนส่งปิโตรเคมีขนาด 11,000 DWT อีก 1 ลำ จะส่งมอบเรือในเดือนตุลาฯนี้)

***ทางด้าน "วิริทธิ์พล จุไรสินธุ์" บอสของ PRM ย้ำแผนกลยุทธ์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ว่าจะเน้นธุรกิจเรือขนส่งปิโตรเคมี และเรือกลุ่ม Offshore Support เนื่องจากความต้องการเรือกลุ่มนี้อยู่ในช่วงขยายตัว พร้อมกันนี้ยังมองโอกาสซื้อเรือเพิ่มอีก มั่นใจว่าจะสนับสนุนรายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ตามแผนงานที่วางไว้

***ไม่ยอมหลุดเทรนด์ SA ประกาศประกาศเข้าร่วมโครงการ Care the Bear กับตลท. พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการลดโลกร้อน ขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพราะการปรับตัวคือปัจจัยสำคัญสู่ความยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯ "ธุรกิจสีเขียว" หรือ Green project คือมีเป้าหมายการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุด

***SA เค้าจริงจังกับเรื่องนี้จริงๆ เพื่อโลกสีเขียวอย่างยั่งยืนมีรางวัล Green Certificate การันตีมากมาย อาทิ EDGE Champion มาตรฐานการรับรองอาคารระดับโลก จากสถาบัน IFC (International Finance Corporation : IFC) สถาบันการเงินในเครือของธนาคารโลก (The World Bank Group) และประกาศนียบัตร “ESG100 Company ปี 2566” จากสถาบันไทยพัฒน์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจในประเทศไทย อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมมือกันรักษาสภาพแวดล้อม ก่อนจะสายเกินไป เพื่อลูกหลานของเราในอนาคต #SiameseAssetxCareTheBear

***ผู้บริหารหญิงหนึ่งเดียวของวันนี้ "ดร.พรลภัส ณ ลำพูน" เป็นอีกหนึ่งคนที่ขยันทำงานสุดๆ ไม่ได้หยุดหย่อนเลยเหอะ!!! เป็นความโชคดีของผู้ถือหุ้น IND ประเมินทิศทางธุรกิจในช่วงไตรมาส 3-4/66 ว่ายังคงมีศักยภาพในการเติบโตและขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดีตามแนวโน้ม
อุตสาหกรรมการก่อสร้างของภาครัฐและเอกชนที่ฟื้นตัว ปัจจัยหลักมาจากการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ,โครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ ทำให้เห็นสัญญาณบวกที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทฯ ที่มีโอกาสเข้าร่วมประมูลโครงการออกแบบ และก่อสร้างใหม่ๆ เพิ่มอีกหลายโครงการ

***ผู้บริหารสวย-เก่งของ IND บอกว่าปัจจุบันมี Backlog ที่จะทยอยรับรู้รายได้มูลค่ารวมประมาณ 1,863.66 ล้านบาท(ณ วันที่ 31 ส.ค.66) ให้มั่นใจช่วยสนับสนุนให้รายได้และกำไรสุทธิทั้งปีจะเติบโตอยู่ในทิศทางบวกได้ พร้อมกันนี้มีแผนเข้าร่วมประมูลงานในลักษณะ EPCI เพื่อต่อยอดธุรกิจก่อสร้าง รวมถึงขยายสู่กลุ่มประเทศ CLMV เพื่อขยายโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ และสร้างจุดแข็ง สร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันทางธุรกิจให้กับบริษัทฯ "อยากให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนเชื่อมั่นในทีมผู้บริหารว่ายังคงมุ่งมั่นในการบริหารธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามแผนธุรกิจที่ได้วางไว้ เพื่อให้ผลการดำเนินงานมีความแข็งแกร่งและสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต"