จัดไปหุ้น “เซฟโซน” กลุ่ม Logistics & Shipping หลังบาทอ่อนทะลุ 36 บาท/ดอลลาร์

Mr.Data

ความเคลื่อนไหวค่าเงินบาทในวันที่ 21 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเทียบดอลลาร์สหรัฐ โดยในช่วงเช้าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 36.25 บาท/ดอลลาร์ ต่ำสุดในรอบกว่า 10 เดือน เทียบวันที่ 20 กันยายน ปิดตลาดที่ระดับ 36.06 บาท/ดอลลาร์



ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าเทียบกับเงินสกุลหลัก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย ระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวันที่ 20 กันยายน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 

อย่างไรก็ตาม เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ เนื่องจากเฟดยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจการต่อสู้กับเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ คณะกรรมการ FOMC ยังได้เปิดเผยรายงานสรุปการคาดการณ์เศรษฐกิจ (Summary Economic Projections – SEP) และการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่กรอบ 5.50%-5.75% ภายในสิ้นปีนี้ และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งสู่ระดับ 5.1% ภายในช่วงสิ้นปี 2567 และแตะ 3.9% ภายในช่วงสิ้นปี 2568

***บาทอ่อนกดดัน Fund Flow 

“ค่าเงินบาทที่ล่าสุดปรับตัวอ่อนค่าทำสถิติใหม่ ทะลุระดับ 36.0 บาท/ดอลลาร์เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นสกุลเงินที่อ่อนค่ามากสุดในเอเชีย ทั้งในรอบ 1 วัน, 1 สัปดาห์,และ 1 เดือนที่ผ่านมา ตราบใดที่เงินบาทยังหา Turning point ไม่เจอ (ซึ่งเราเชื่อว่ายากในสภาวะที่ราคาน้ำมันอยู่สูงเช่นนี้) คาดว่าโอกาสที่ Fund flow จะไหลเข้ามาในตลาดทุนไทยนั้นยังเป็นเรื่องที่ยากอยู่” บทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนี้ตี้ จำกัด ระบุ

***แนะลงทุนหุ้น Logistics & Shipping

สำหรับในเชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนนีตี้ แนะนำให้ชะลอการลงทุนต่อไป หากจำเป็นต้องลงทุน ยังคงเน้น Selective ไปยังกลุ่มที่ปลอดภัยอย่างเช่น กลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจจีนที่มีสัญญาณที่ดีขึ้นต่อเนื่องอย่างกลุ่ม Logistics & Shipping อาทิ III, LEO, SJWD, WICE, PSL, RCL 

ส่วนหุ้นเด่นประจำสัปดาห์ของเรายังคงได้แก่ RCL, BLA, COM7 ซึ่งเมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นเฉลี่ยราว 1.7% เทียบกับ SET ที่ปรับลง 0.3%

***LEO เงินสดเต็มหน้าตัก พร้อมลุย 

ขณะที่ นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (LEO) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีเงินสดในมือ 700-800 ล้านบาท  พร้อมเพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ และขยายฐานรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่ Non-Freight ให้เพิ่มเป็น 30%

***จับมือพันธมิตรลุย EV Truck

นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส Q4/66 คาดว่าจะได้ข้อสรุปดีล M&A ธุรกิจโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ และการร่วมมือกับพันธมิตรซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียน ในการให้บริการ “EV Truck”  เพื่อลดCarbon Footprint ลดการใช้พลังงานที่ก่อมลพิษ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LEO กล่าวอีกว่า บริษัทฯเตรียมเปิดตัว Self-Storage แห่งที่ 3 ในไตรมาส 4/66 โดยคาดว่าในปี 2567 จะเริ่มเห็นผลดีของการเข้าลงทุนดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการเติบโตอย่างก้าวกระโดด