เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 25-09-23
25-09-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***สัปดาห์ที่ผ่านมาดาวโจนส์ปิดที่ 33,963.84 จุด ลดลง 106.58 จุด หรือ -0.31%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,320.06 จุด ลดลง 9.94 จุด หรือ -0.23% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,211.81 จุด ลดลง 12.18 จุด หรือ -0.09%
***รายงานข่าวระบุว่าเป็นผลจากที่นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี และแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ โดยเจ้าหน้าที่เฟด โดยนางมิเชล โบว์แมน ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกบอร์ดผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งถ้อยแถลงของนางโบว์แมน สอดคล้องกับนางซูซาน คอลลินส์ ประธานเฟด สาขาบอสตัน ซึ่งกล่าวสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากเงินเฟ้อยังไม่ชะลอตัวลง
***ส่วนตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ กูรูประเมินว่ามีแนวรับที่ 1,505 และ 1,485 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,550 และ 1,560 จุด โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกนง. (27 ก.ย.) ตัวเลขส่งออกเดือนส.ค. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และประเด็นเรื่องการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนส.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/66 (final) รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ กำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ของจีน และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน
***เด๋วตกเทรนด์เอเชี่ยนเกมเนาะ..ขอแวะซักนิด เซียนหุ้นประเมินว่าหุ้นรับประโยชน์คือ PLANB จะมีรายได้จากสื่อโปรโมทเอเชี่ยนเกมส์ราว 200 ลบ. ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และนายกฯ เปิดเผยว่าสัปดาห์หน้าจะมีแถลงโครงการ 1 รัฐวิสาหกิจ 1 ประเภทกีฬา..มองกีฬาเป็น Positive policy support บวก PLANB, WARRIX, CRC
***อีกเรื่องคือเงินบาท ช่วงนี้อ่อนค่าหนัก! กูรูในวงการบอกว่า
-ก่อนหน้านี้ตลาดมีการปรับสถานะล่วงหน้าในตลาดตราสารหนี้เนื่องจากรัฐบาลไทยมีแนวโน้มออกตราสารหนี้เพื่อใช้สนับสนุนนโยบายต่างๆ ที่กำหนดไว้เพิ่มขึ้นทำให้ผลตอบแทน Bond Yield ระยะยาวปรับตัวขึ้น
-แต่รายงานการประมูลตราสารหนี้ภาครัฐอายุ 10 ปีมูลค่า 2.3 หมื่นล้าน ล่าสุดช่วงเช้าวานนี้พบว่า Bidding Yield อยู่ที่ระดับ 3.2337% มีอัตรา Bid to Coverage อยู่ที่ระดับ 1.81x ขณะที่หากเทียบกับการประมูลรอบก่อนเมื่อ 23 ส.ค. มูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท Bidding Yield ระดับ 2.7738% และอัตรา Bid to Coverage ระดับ 1.14x จุด สะท้อนว่า Yield ที่สูงขึ้นในรอบนี้ดึงดูดความต้องการพันธบัตรไทยมากขึ้น
-ดังนั้นคาดแนวโน้มการประมูลช่วงถัดไป Bond yield 10ปีไทย ไม่น่าจะสูงขึ้นไปกว่านี้คาดว่าค่าเงินจะมีเสถียรภาพขึ้น(ไม่อ่อนค่ากว่านี้ไป
อีก 2-3สัปดาห์มองจิตวิทยาบวกต่อ SET INDEX ของพวกเรา
***PCC งานเข้าไม่หยุด!!! เพิ่มมาอีกหนึ่งโปรเจ็ก "โครงการระบบป้องกันและควบคุม พร้อมติดตั้ง สำหรับสถานีย่อยนานา สถานีย่อยโยธี และสถานีย่อยแจงร้อน" ของ กฟน. มูลค่ารวม 85.05 ลบ. ดัน Backlog โตแกร่งแตะ 4.5 พันล้านบาท ด้านซีอีโอ “กิตติ สัมฤทธิ์” มั่นใจรายได้ปีนี้โตทะลุเป้า พร้อมประกาศเดินหน้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
***มาที่เรื่องเจ๋งๆ ของ WP มั่ง!!!ล่าสุดบอร์ดลงมติให้เปิดโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) โดยจะซื้อหุ้นคืนสูงสุดไม่เกิน 15,555,000 หุ้น คิดเป็น 3% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด คิดเป็นวงเงินซื้อคืนสูงสุดไม่เกิน 60 ล้านบาท กำหนดระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 8 มีนาคม 2567
***"ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง"บิ๊กบอสสวย+เก่งของ WP บอกว่า “การเปิดโครงการซื้อหุ้นคืน เพื่อบริหารสภาพคล่องส่วนเกิน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพิ่มอัตราส่วนผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (ROE) และกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) บริษัทฯจึงตัดสินใจเข้าโครงการซื้อหุ้นคืน ซึ่งจะทำให้อัตราส่วนทางการเงินดีขึ้น ยังเป็นการแสดงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง รวมถึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนโดยจะใช้แหล่งเงินทุนจากสภาพคล่องส่วนเกิน ไม่กระทบกับฐานะทางการเงินแต่อย่างใด”
***อีกหนึ่งผู้บริหารสวย-เก่งที่ยืนอยู่แถวหหน้าในวงการตลาดทุนคือ "มรกต กุลธรรมโยธิน" แห่ง INET ออกมาแย้มๆ ถึงแนวโน้มผลงานในไตรมาส 3/66 ว่ามีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้จากการขายและให้บริการ จำนวน 509.28 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 44.48 ล้านบาท
***“INET คาดว่าผลงานในไตรมาส 3 นี้ยังมีการเติบโตที่ดี เนื่องจากภาครัฐมีนโยบายที่ชัดเจน ประกอบกับ INET มีการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเอง แทนการใช้เทคโนโลยีของต่างประเทศ รวมถึงโครงการโซลาร์ฟาร์ม เฟส 1 จังหวัดสระบุรี กำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์ เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าของศูนย์ Data คาดว่า จะสามารถ COD ภายในปีนี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลผลงานของไตรมาส 3 สามารถเติบโตได้ดี ทั้งในแง่ QoQ และ YoY และมั่นใจว่า จะสามารถสนับสนุนผลงานโดยรวมในปีนี้ให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้”
***เพิ่มเติมให้กับแฟนคลับของเจ๊จิ๋มเพื่อเป็นข้อมูล..ภาพรวมงวด 6 เดือนปีนี้ของ INET มีกำไรสุทธิ 74.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 49.68 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและให้บริการ 1,000.16 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและให้บริการ 973.56 ล้านบาท
25-09-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***สัปดาห์ที่ผ่านมาดาวโจนส์ปิดที่ 33,963.84 จุด ลดลง 106.58 จุด หรือ -0.31%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,320.06 จุด ลดลง 9.94 จุด หรือ -0.23% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,211.81 จุด ลดลง 12.18 จุด หรือ -0.09%
***รายงานข่าวระบุว่าเป็นผลจากที่นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี และแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ โดยเจ้าหน้าที่เฟด โดยนางมิเชล โบว์แมน ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกบอร์ดผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งถ้อยแถลงของนางโบว์แมน สอดคล้องกับนางซูซาน คอลลินส์ ประธานเฟด สาขาบอสตัน ซึ่งกล่าวสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากเงินเฟ้อยังไม่ชะลอตัวลง
***ส่วนตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ กูรูประเมินว่ามีแนวรับที่ 1,505 และ 1,485 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,550 และ 1,560 จุด โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกนง. (27 ก.ย.) ตัวเลขส่งออกเดือนส.ค. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และประเด็นเรื่องการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนส.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/66 (final) รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ กำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ของจีน และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน
***เด๋วตกเทรนด์เอเชี่ยนเกมเนาะ..ขอแวะซักนิด เซียนหุ้นประเมินว่าหุ้นรับประโยชน์คือ PLANB จะมีรายได้จากสื่อโปรโมทเอเชี่ยนเกมส์ราว 200 ลบ. ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และนายกฯ เปิดเผยว่าสัปดาห์หน้าจะมีแถลงโครงการ 1 รัฐวิสาหกิจ 1 ประเภทกีฬา..มองกีฬาเป็น Positive policy support บวก PLANB, WARRIX, CRC
***อีกเรื่องคือเงินบาท ช่วงนี้อ่อนค่าหนัก! กูรูในวงการบอกว่า
-ก่อนหน้านี้ตลาดมีการปรับสถานะล่วงหน้าในตลาดตราสารหนี้เนื่องจากรัฐบาลไทยมีแนวโน้มออกตราสารหนี้เพื่อใช้สนับสนุนนโยบายต่างๆ ที่กำหนดไว้เพิ่มขึ้นทำให้ผลตอบแทน Bond Yield ระยะยาวปรับตัวขึ้น
-แต่รายงานการประมูลตราสารหนี้ภาครัฐอายุ 10 ปีมูลค่า 2.3 หมื่นล้าน ล่าสุดช่วงเช้าวานนี้พบว่า Bidding Yield อยู่ที่ระดับ 3.2337% มีอัตรา Bid to Coverage อยู่ที่ระดับ 1.81x ขณะที่หากเทียบกับการประมูลรอบก่อนเมื่อ 23 ส.ค. มูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท Bidding Yield ระดับ 2.7738% และอัตรา Bid to Coverage ระดับ 1.14x จุด สะท้อนว่า Yield ที่สูงขึ้นในรอบนี้ดึงดูดความต้องการพันธบัตรไทยมากขึ้น
-ดังนั้นคาดแนวโน้มการประมูลช่วงถัดไป Bond yield 10ปีไทย ไม่น่าจะสูงขึ้นไปกว่านี้คาดว่าค่าเงินจะมีเสถียรภาพขึ้น(ไม่อ่อนค่ากว่านี้ไป
อีก 2-3สัปดาห์มองจิตวิทยาบวกต่อ SET INDEX ของพวกเรา
***PCC งานเข้าไม่หยุด!!! เพิ่มมาอีกหนึ่งโปรเจ็ก "โครงการระบบป้องกันและควบคุม พร้อมติดตั้ง สำหรับสถานีย่อยนานา สถานีย่อยโยธี และสถานีย่อยแจงร้อน" ของ กฟน. มูลค่ารวม 85.05 ลบ. ดัน Backlog โตแกร่งแตะ 4.5 พันล้านบาท ด้านซีอีโอ “กิตติ สัมฤทธิ์” มั่นใจรายได้ปีนี้โตทะลุเป้า พร้อมประกาศเดินหน้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
***มาที่เรื่องเจ๋งๆ ของ WP มั่ง!!!ล่าสุดบอร์ดลงมติให้เปิดโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) โดยจะซื้อหุ้นคืนสูงสุดไม่เกิน 15,555,000 หุ้น คิดเป็น 3% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด คิดเป็นวงเงินซื้อคืนสูงสุดไม่เกิน 60 ล้านบาท กำหนดระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 8 มีนาคม 2567
***"ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง"บิ๊กบอสสวย+เก่งของ WP บอกว่า “การเปิดโครงการซื้อหุ้นคืน เพื่อบริหารสภาพคล่องส่วนเกิน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพิ่มอัตราส่วนผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (ROE) และกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) บริษัทฯจึงตัดสินใจเข้าโครงการซื้อหุ้นคืน ซึ่งจะทำให้อัตราส่วนทางการเงินดีขึ้น ยังเป็นการแสดงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง รวมถึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนโดยจะใช้แหล่งเงินทุนจากสภาพคล่องส่วนเกิน ไม่กระทบกับฐานะทางการเงินแต่อย่างใด”
***อีกหนึ่งผู้บริหารสวย-เก่งที่ยืนอยู่แถวหหน้าในวงการตลาดทุนคือ "มรกต กุลธรรมโยธิน" แห่ง INET ออกมาแย้มๆ ถึงแนวโน้มผลงานในไตรมาส 3/66 ว่ามีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้จากการขายและให้บริการ จำนวน 509.28 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 44.48 ล้านบาท
***“INET คาดว่าผลงานในไตรมาส 3 นี้ยังมีการเติบโตที่ดี เนื่องจากภาครัฐมีนโยบายที่ชัดเจน ประกอบกับ INET มีการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเอง แทนการใช้เทคโนโลยีของต่างประเทศ รวมถึงโครงการโซลาร์ฟาร์ม เฟส 1 จังหวัดสระบุรี กำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์ เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าของศูนย์ Data คาดว่า จะสามารถ COD ภายในปีนี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลผลงานของไตรมาส 3 สามารถเติบโตได้ดี ทั้งในแง่ QoQ และ YoY และมั่นใจว่า จะสามารถสนับสนุนผลงานโดยรวมในปีนี้ให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้”
***เพิ่มเติมให้กับแฟนคลับของเจ๊จิ๋มเพื่อเป็นข้อมูล..ภาพรวมงวด 6 เดือนปีนี้ของ INET มีกำไรสุทธิ 74.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 49.68 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและให้บริการ 1,000.16 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและให้บริการ 973.56 ล้านบาท