Wealth Sharing

บล.พาย ประเมิน SET สัปดาห์นี้ อยู่ในกรอบ 1,510 – 1,545 จุด แนะเกาะติดผลประชุม กนง.


25 กันยายน 2566
ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดลบ 0.3% นักลงทุนยังวิตกกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่อยู่ระดับสูง ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.03% หลังรัสเซียระงับการส่งออกน้ำมันทั่วโลกเพื่อรักษาเสถียรภาพภายในประเทศ

บล.พาย ประเมิน SET สัปดาห์นี้.jpg

สัปดาห์นี้นักลงทุนจะให้น้ำหนักกับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพุธ Bloomberg Consensus คาดการณ์ว่าที่ประชุมจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 2.5% โดยเป็นการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ทั้งหมดจำนวน 13 นักเศรษฐศาสตร์ อย่างไรก็ตามมีเพียง 5 ท่านที่คาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิม หรือคิดเป็นเพียง 38% แต่ทั้งนี้เรามีความเห็นต่างจาก Consensus เชื่อว่าที่ประชุม มีโอกาสคงดอกเบี้ยนโยบายมากกว่าด้วยเหตุผล (1) เงินเฟ้อไทยปรับลงต่อเนื่องจากระดับ 7.9% ลงมาทดสอบ 0.9% ในเดือนล่าสุด (2) ที่ประชุม FED ล่าสุดก็มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม (3) เศรษฐกิจไทยเห็นสัญญาณของการอ่อนแอโดย GDP 2Q23 รายงานต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้และเป็นการขยายตัวที่ต่ำสุดในรอบ 2 ไตรมาส

 ดังนั้นหากที่ประชุมคงดอกเบี้ยนโยบายตามที่เราคาดการณ์อาจเป็นปัจจัยหนุนเล็กน้อยต่อตลาดหุ้น ส่วนต่างประเทศสัปดาห์นี้โดยเฉพาะสหรัฐฯนักลงทุนจะให้น้ำหนักกับ (1) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯจากสถาบัน CB ที่มีกำหนดรายงานในวันอังคาร Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 105.5 ขณะที่ วันเดียวจะมีกำหนดรายงานยอดขายบ้านมือ 1 ของสหรัฐฯ Bloomberg คาดไว้ที่ 6.99 แสนหลังคาเรือน เชื่อว่าตัวเลขที่แย่กว่าตลาดคาดการณ์จะเป็นบวกกับตลาดหุ้นมากกว่า (2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี Bloomberg คาดไว้ที่ 2.1 แสนราย หากรายงานสูงกว่าตลาดคาดการณ์ก็เชื่อว่าจะเป็นบวกมากกว่ากับตลาดหุ้น (3) ประธาน FED มีกำหนดขึ้นพูดในงานที่กรุงวอชิงตัน D.C. ก็เชื่อว่านักลงทุนจะรอติดตามสัญญาณเกี่ยวกับเงินเฟ้อและดอกเบี้ย 

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าถ้อยแถลงจากประธาน FED จะคล้ายคลึงกับประชุม FED รอบที่ผ่านมา สัปดาห์นี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1510 – 1545 เชิงกลยุทธ์การลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกกับตลาดมากขึ้นเชื่อว่า Price In ปัจจัยกดดันด้านดอกเบี้ยสหรัฐฯ ไประดับนึงแล้วและสถิติตลาดหุ้น 4Q ของทุกปีมักเป็นบวก จึงแนะ Trading พร้อมแนะกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM) ร้านอาหาร (M) เครื่องดื่ม (ICHI TACC COCOCO) น้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP)

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท)
กำไรก่อนหักภาษี (EBT) จากธุรกิจหลักในไตรมาส 2/23 จากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (7-Eleven) (กำไรสุทธิเฉพาะกิจการ 6.1 พันล้านบาท +21% YoY) และมี EBT คิดเป็น 73% ของทั้งหมด ส่วนธุรกิจขายส่งและค้าปลีกคิดเป็น 27% ของ EBT

M (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 60.00 บาท)
มองบวกต่อภาพรวมครึ่งหลังปี 2023 เพราะอัตรากำไรที่ปรับดีขึ้น HoH และคาดการณ์การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่เป็นบวกในครึ่งหลังปี 2023 บวกกับส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นจากแหลมเจริญซีฟู้ด (LCS) SSSG เดือน ก.ค. 2023 พลิกเป็นลบเล็กน้อย