ราคาหุ้นของ TEGH ปรับราคาขึ้นไปแตะ 3.22 บาทในการเปิดตลาดภาคเช้า หลังจากที่ความต้องการยางธรรมชาติจะเติบโตมากขึ้นในปี 2567 โดยมาจากจีน 40% และจากภัยแล้งและเอลนีโญ เราเชื่อว่าอุปทานยางธรรมชาติจากประเทศไทยและอินโดนีเซียซึ่งเป็น 2 ผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก (54% ของอุปทานทั่วโลก) จะลดลงในปี 2566-67 ปรากฎการณ์เอลนีโญส่งผลให้ฤดูปิดกรีดในประเทศไทยยาวขึ้นในปี 2566 และจะส่งผลกระทบต่อปริมาณยางในปี 2567 ขณะที่อุปทานจากอินโดนีเซียลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 และยังไม่เคยกลับสู่ระดับสูงที่สุดจนถึงขณะนี้ โดย บล.กสิกรไทย แนะนำ “ซื้อ” และเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 3.60 บาท