Wealth Sharing
WORLD เตรียมคืนสังเวียนในตลาด mai โชว์คุณสมบัติครบถ้วน กำไรต่อเนื่องตั้งแต่ปี 63-65
26 กันยายน 2566
บมจ.เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น (WORLD) ประกาศพร้อมกลับมาผงาดอีกครั้งในตลาดหลักทรัพย์ mai หลังจากเดินหน้าลุยปรับโครงสร้างธุรกิจ และแก้ไขเหตุเพิกถอนตามเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ล่าสุดโชว์กำไรเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ปี 63- 65 ด้านผู้ถือหุ้นใหญ่พร้อมล็อกหุ้น ห้ามขาย 1 ปี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ขณะที่ “รศ.ดร.จิรศักดิ์ จิยะจันทน์” ระบุทุกอย่างผ่านเกณฑ์ที่ตลาดฯ กำหนดครบถ้วน ขณะนี้รอเพียงทางการแจ้ง ในฐานะเป็นหุ้นรีซูมเทรดอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับบริษัทที่จะรีซูมเทรด หากเห็นว่าคุณสมบัติครบถ้วนอยากให้ช่วยเร่งผลักดันและส่งเสริมให้เข้าไปซื้อขายในตลาดฯ ได้โดยเร็ว
รศ.ดร.จิรศักดิ์ จิยะจันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (WORLD) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯได้ยื่นคำขอพ้นเหตุเพิกถอนและกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2564 และตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แจ้งการรับพิจารณาคำขอพ้นเหตุเพิกถอนและกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 นั้น บริษัทฯ ขอรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายประจำปี 2565 โดยผลการดำเนินงานสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานต่อเนื่องในส่วนของบริษัทใหญ่ 25.59 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (ไม่รวมรายได้อื่น) ในส่วนของบริษัทใหญ่ จำนวน 23.02 ล้านบาท
บริษัทฯมีรายได้รวมจำนวน 175.67 ล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทห้องชุดโครงการเดอะซิตี้ หาดใหญ่ 1 จำนวน 51.59 ล้านบาท และมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างภายใต้การดำเนินงานของบริษัทย่อยอีกแห่งหนึ่งที่รับรู้รายได้ต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส 2/2564 โดยรับรู้ตามวิธี Cost-to-Cost Method จำนวน 110.91 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่ารายได้ลดลงจำนวน 1,082.08 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 86.03 ล้านบาท
ในส่วนของค่าใช้จ่ายรวมมีจำนวน 150.74 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 1,027.09 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 87.20 ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นต้นทุนจากการโอนกรรมสิทธิ์ในห้องชุดโครงการเดอะซิตี้ หาดใหญ่ 1 จำนวน 33.13 ล้านบาท และต้นทุนจากการรับเหมาก่อสร้างจำนวน 78.80 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจำนวน 30.03 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จำนวน 8.27 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนก่อนขอพ้นเหตุเพิกถอนโดยมีรายละเอียดดังนี้ มูลค่าที่ตราไว้ (Par) ไม่น้อยกว่าหุ้นละ 0.50 บาท มีกรรมการ ผู้บริหาร และผู้มีอำนาจควบคุมที่ไม่มีลักษณะต้องห้ามหรือลักษณะที่แสดงถึงการขาดความเหมาะสมที่จะได้รับความไว้วางใจให้บริหารกิจการที่มีมหาชนเป็นผู้ถือหุ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กำหนด และไม่เป็นบุคคลที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ที่อาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสิทธิประโยชน์หรือการตัดสินใจของผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนหรือการเปลี่ยนแปลงในราคาหลักทรัพย์
บริษัทฯ มีกรรมการและผู้บริหารที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต.รวมทั้งกำหนดขอบเขต อำนาจ หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการบริหารของบริษัทอย่างชัดเจน อีกทั้ง ยังห้ามผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นและผู้ที่เกี่ยวข้องขายหุ้นและหลักทรัพย์ภายในระยะเวลาที่กำหนด (Silent Period) นำหุ้นและหลักทรัพย์จำนวนรวมกันร้อยละ 55 ของทุนชำระแล้วออกขายเป็นระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่หุ้นของบริษัทเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยเมื่อครบกำหนดระยะเวลา 6 เดือน สามารถทยอยขายหุ้นหรือหลักทรัพย์ที่ถูกห้ามขายได้ร้อยละ 25 ของหุ้นหรือหลักทรัพย์ทั้งหมดที่ถูกสั่งห้ามขาย
โดยปัจจุบัน รศ.ดร.จิรศักดิ์ จิยะจันทน์ ซึ่งถือหุ้นอยู่จำนวน 4,013 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 55.00 โดยบริษัทฯ มีผลการดำเนินงานปกติย้อนหลังตั้งแต่ปี 2563-2565 มีกำไรต่อเนื่องติดต่อกัน โดยมีกำไรสุทธิ 30.61 ล้านบาท 75.86 ล้านบาท และ 23.02 ล้านบาท ตามลำดับ
“ ที่ผ่านมาบริษัทฯ เดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจ และแก้ไขเหตุเพิกถอนตามเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงชี้แจงให้ทราบตลอด ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างผ่านเกณฑ์ที่ตลาดฯ กำหนดครบถ้วน โดยงบล่าสุดบริษัทฯ ส่งไปตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา ผ่านมาเดือนก.ย.แล้ว ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ส่งมาถึงบริษัทฯ ซึ่งเราติดตามความคืบหน้ามาตลอด และยังต้องรอต่อไป ในฐานะเป็นหุ้นรีซูมเทรดอยากให้ทางการให้ความสำคัญกับบริษัทที่รีซูมเทรดเหมือนกับบริษัทที่จะ IPO ทั่วไปๆ หากเห็นว่าบริษัทฯ มีคุณสมบัติครบถ้วนก็อยากให้ทางการ ช่วยเร่งผลักดันและส่งเสริมให้บริษัทฯ รวมถึงบริษัทที่รีซูมเทรดเข้าไปซื้อขายในตลาดฯ ให้ได้โดยเร็ว ”รศ.ดร.จิรศักดิ์กล่าว
รศ.ดร.จิรศักดิ์ จิยะจันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (WORLD) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯได้ยื่นคำขอพ้นเหตุเพิกถอนและกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2564 และตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แจ้งการรับพิจารณาคำขอพ้นเหตุเพิกถอนและกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 นั้น บริษัทฯ ขอรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายประจำปี 2565 โดยผลการดำเนินงานสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานต่อเนื่องในส่วนของบริษัทใหญ่ 25.59 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (ไม่รวมรายได้อื่น) ในส่วนของบริษัทใหญ่ จำนวน 23.02 ล้านบาท
บริษัทฯมีรายได้รวมจำนวน 175.67 ล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทห้องชุดโครงการเดอะซิตี้ หาดใหญ่ 1 จำนวน 51.59 ล้านบาท และมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างภายใต้การดำเนินงานของบริษัทย่อยอีกแห่งหนึ่งที่รับรู้รายได้ต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส 2/2564 โดยรับรู้ตามวิธี Cost-to-Cost Method จำนวน 110.91 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่ารายได้ลดลงจำนวน 1,082.08 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 86.03 ล้านบาท
ในส่วนของค่าใช้จ่ายรวมมีจำนวน 150.74 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 1,027.09 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 87.20 ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นต้นทุนจากการโอนกรรมสิทธิ์ในห้องชุดโครงการเดอะซิตี้ หาดใหญ่ 1 จำนวน 33.13 ล้านบาท และต้นทุนจากการรับเหมาก่อสร้างจำนวน 78.80 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจำนวน 30.03 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จำนวน 8.27 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนก่อนขอพ้นเหตุเพิกถอนโดยมีรายละเอียดดังนี้ มูลค่าที่ตราไว้ (Par) ไม่น้อยกว่าหุ้นละ 0.50 บาท มีกรรมการ ผู้บริหาร และผู้มีอำนาจควบคุมที่ไม่มีลักษณะต้องห้ามหรือลักษณะที่แสดงถึงการขาดความเหมาะสมที่จะได้รับความไว้วางใจให้บริหารกิจการที่มีมหาชนเป็นผู้ถือหุ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กำหนด และไม่เป็นบุคคลที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ที่อาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสิทธิประโยชน์หรือการตัดสินใจของผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนหรือการเปลี่ยนแปลงในราคาหลักทรัพย์
บริษัทฯ มีกรรมการและผู้บริหารที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต.รวมทั้งกำหนดขอบเขต อำนาจ หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการบริหารของบริษัทอย่างชัดเจน อีกทั้ง ยังห้ามผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นและผู้ที่เกี่ยวข้องขายหุ้นและหลักทรัพย์ภายในระยะเวลาที่กำหนด (Silent Period) นำหุ้นและหลักทรัพย์จำนวนรวมกันร้อยละ 55 ของทุนชำระแล้วออกขายเป็นระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่หุ้นของบริษัทเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยเมื่อครบกำหนดระยะเวลา 6 เดือน สามารถทยอยขายหุ้นหรือหลักทรัพย์ที่ถูกห้ามขายได้ร้อยละ 25 ของหุ้นหรือหลักทรัพย์ทั้งหมดที่ถูกสั่งห้ามขาย
โดยปัจจุบัน รศ.ดร.จิรศักดิ์ จิยะจันทน์ ซึ่งถือหุ้นอยู่จำนวน 4,013 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 55.00 โดยบริษัทฯ มีผลการดำเนินงานปกติย้อนหลังตั้งแต่ปี 2563-2565 มีกำไรต่อเนื่องติดต่อกัน โดยมีกำไรสุทธิ 30.61 ล้านบาท 75.86 ล้านบาท และ 23.02 ล้านบาท ตามลำดับ
“ ที่ผ่านมาบริษัทฯ เดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจ และแก้ไขเหตุเพิกถอนตามเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงชี้แจงให้ทราบตลอด ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างผ่านเกณฑ์ที่ตลาดฯ กำหนดครบถ้วน โดยงบล่าสุดบริษัทฯ ส่งไปตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา ผ่านมาเดือนก.ย.แล้ว ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ส่งมาถึงบริษัทฯ ซึ่งเราติดตามความคืบหน้ามาตลอด และยังต้องรอต่อไป ในฐานะเป็นหุ้นรีซูมเทรดอยากให้ทางการให้ความสำคัญกับบริษัทที่รีซูมเทรดเหมือนกับบริษัทที่จะ IPO ทั่วไปๆ หากเห็นว่าบริษัทฯ มีคุณสมบัติครบถ้วนก็อยากให้ทางการ ช่วยเร่งผลักดันและส่งเสริมให้บริษัทฯ รวมถึงบริษัทที่รีซูมเทรดเข้าไปซื้อขายในตลาดฯ ให้ได้โดยเร็ว ”รศ.ดร.จิรศักดิ์กล่าว