Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 27-09-23


27 กันยายน 2566
เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 27-09-23

27-09-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ   

***เฮ้อ!!! เห็นตลาดหุ้นไทยแล้ว ใจไม่บันเทิงเละแฮะ เมื่อวาน SET INDEX ปิดที่ 1,494.02 จุด ลดลง -13.34จุด มีมูลค่าการซื้อขายรวม 55,612.57 ล้านบาท 

***สงสารก้อแต่หุ้น SAV หรือ บมจ.สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ (บริษัทในเครือของ SAMART ) จังหวะไม่ดี..เข้าเทรดเมื่อวานเป็นวันแรก ปิดตลาดที่ระดับราคาต่ำสุดของวัน 15.30 บาท ลดลง 3.70 บาท หรือ -19.47% จากราคาไอพีโอที่ตั้งไว้ 19 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 2,261.58 ล้านบาท  ส่วนหุ้น SAMART เองก้อไหลลงไปในทิศทางทางเดียวกัน โดยปิดตลาดที่ 5.05 บาท ลดลง 0.90 บาท หรือ -15.13%  เจ๊จิ๋มขอส่งกำลังใจไปให้ผู้ถือหุ้น SAV ทุกท่านนะคะ สู้ๆๆๆๆ

***มาว่ากันต่อที่เรื่องเงินบาทอ่อนค่าดีกว่า เป็นผลจากความกังวลต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ภายหลัง GDP ของไทยไตรมาส 2  ขยายตัวน้อยกว่าที่คาด ขณะที่เงิน USD ยังแข็งค่าขึ้น โดยมีแรงหนุนจากการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งบ่งชี้ว่า วัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ยังคงไม่สิ้นสุดลง

***กูรูหุ้นออกมาประเมินถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า  โดยเริ่มจากหุ้น/อุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได้รับผลบวกจาก “ค่าเงินบาทอ่อนค่า”
1) กลุ่มเกษตรและอาหาร เนื่องจากมีรายได้ส่วนใหญ่จากต่างประเทศ โดยเรียงลำดับทุกการอ่อนค่า 1 บาทจะส่งผลต่อกำไรเพิ่มขึ้น ITC-AAI -TU-SUN-PLUS 
2) กลุ่มอิเลกทรอนิกส์ เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่มาจากการส่งออกต่างประเทศ โดยเรียงลำดับ ทุกการอ่อนค่า 1 บาทจะส่งผลต่อกำไรเพิ่มขึ้น จะมีผลทำให้กำไรเพิ่มขึ้น KCE-HANA 
3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้อานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อนค่าที่ทำให้คนต่างชาติสนใจมาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ายุโรปและสหรัฐฯ ที่ใกล้เข้าสู่ช่วง high season ของการท่องเที่ยว สำหรับหุ้นที่จะได้ประโยชน์เรียงตามลำดับ ได้แก่ ERW (สัดส่วนรายได้ในไทย 88%) CENTEL (สัดส่วนรายได้ในไทย 80%) และ AOT จะได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
4) อุตสาหกรรมอื่นที่ได้ผลกระทบเชิงบวกจากค่าเงินบาทอ่อน เนื่องจากมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการส่งออก ได้แก่ MEGA ประเมินทุกๆ 1 บาทที่อ่อนค่าทำให้กำไรเพิ่มขึ้น +5% EPG ประเมินทุกๆ 1 บาทที่อ่อนค่าทำให้กำไรเพิ่มขึ้น +3-4% TOG ประเมินทุกๆ 1 บาทที่อ่อนค่าทำให้กำไรเพิ่มขึ้น +3-4% BANPU ทุกๆ 1% ที่เงินบาทอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐจะส่งผลบวกต่อกำไรไตรมาส 3 นี้ประมาณ USD13mn

*** สำหรับหุ้น/อุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเสียประโยชน์จาก “ค่าเงินบาทอ่อนค่า”
1) กลุ่มสายการบิน AAV, BA มีโครงสร้างต้นทุนเป็นเงินสกุลดอลลาร์ราว 60% ค่าเงินบาทอ่อนค่าจะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น สำหรับ AAV มีหนี้เป็น USD ราว 1 พันล้านเหรียญ ทำให้จะมี unrealized FX loss ราว 1 พันล้านบาท จากทุกๆ 1 บาทที่อ่อนค่า
2) กลุ่มพลังงาน มี negative net exposure ต่อการเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์ต่อสกุลเงินบาท ส่งผลให้อาจจะมีการบันทึก unrealized fx loss สำหรับ PTTGC, TOP ขณะที่ผลกระทบต่อ PTTEP และ SPRC น่าจะมีจำกัดเพราะมีการใช้ USD เป็น functional currency ส่วน IVL มี natural hedge
3) กลุ่มโรงไฟฟ้า เนื่องจากมีเงินกู้สกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้มีการบันทึก unrealized fx loss เข้ามา อย่างไรก็ตาม รายการดังกล่าวเป็นเพียงรายการทางบัญชีและไม่ได้มีผลกระทบต่อกระแสเงินสด ทั้งนี้ หุ้นที่มี impact จากประเด็นดังกล่าวประกอบด้วย GULF, BGRIM, GPSC, RATCH, GUNKUL
4) กลุ่ม IT Distributor SYNEX, SIS เนื่องจากมีการนำเข้าสินค้าโดยใช้เงิน USD ค่าเงินบาทอ่อนค่าจะส่งผลลบด้านต้นทุน

***ข่าวดีมาแล้วจ๊าาาาาา แฟนคลับของเจ๊จิ๋มที่อยากได้รับผลตอบแทนที่ดี สม่ำเสมอ และเสี่ยงไม่มาก เชิญทางนี้เลย!!!  EA  เปิดเผยว่าระหว่างวันที่ 26-28 ก.ย.นี้ บริษัทฯได้เสนอขายให้กับผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน 3 รุ่นด้วยกัน โดยมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน 
1. รุ่นอายุ 1 ปี อัตราผลตอบแทน 3.20% ต่อปี
2. รุ่นอายุ 3 ปี อัตราผลตอบแทน 3.70% ต่อปี
3. รุ่นอายุ 5 ปี อัตราผลตอบแทน 4.10% ต่อปี

***นักลงทุนที่สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดผ่านสถาบันการเงิน  7 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย), บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย),บล.บียอนด์ และ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A-”

***ปรบมือรัวๆๆๆ ให้กับ PTG ทำดีต้องมีคนมองเห็น!!! ล่าสุดคว้ารางวัล "องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2566"  ประเภทองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ระดับดี ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ในฐานะองค์กรที่ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ นำหลักสิทธิมนุษยชนมาเป็นพื้นฐานในการดำเนินงาน รวมถึงเป็นแบบอย่างที่ดีให้องค์กรอื่นๆ ในการนำไปปรับใช้และพัฒนาต่อยอดให้เป็นองค์กรที่มีคุณภาพ ยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อความเสมอภาค เท่าเทียม และเสริมสร้างสังคมแห่งในการเคารพสิทธิมนุษยชนอย่างยั่งยืน 

***เจ๊ว่ารางวัลนี้ต้องยกให้เค้าจริงๆ นะ เพราะจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา PTG ได้นำหลักสิทธิมนุษยชนตามหลักสากลและกฎหมายของประเทศ มาเป็นพื้นฐานในการบริหารจัดการและการปฏิบัติงาน เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อพนักงานทุกระดับภายในองค์กร ลูกค้า คู่ค้า ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม สอดคล้องกับปณิธานในการบริหารธุรกิจของบริษัทที่ยึดมั่นในหลักบรรษัทภิบาล ตั้งมั่นในความถูกต้อง เป็นธรรม และการเคารพสิทธิมนุษยชน ตลอดจนยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสำคัญ  

***ทางผู้บริหารของ PTG เองบอกว่ารางวัล "องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน" ถือเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้ กรรมการ ผู้บริหาร  และพนักงาน มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจและสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ ยกระดับองค์กรไปสู่การเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และการเติบโตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง สุดยอด!!! ปรบมือรัวๆๆๆ ให้เลยค่ะ พร้อมกดไลค์ไปล้านครั้ง!!!