Wealth Sharing
YGG บุกหนักขยายงานต่างประเทศดันรายได้ปีนี้โต 15% จับมือพันธมิตรจีน-เกาหลีส่งซีรีย์แอนิเมชั่น “HERO Inside”ฉายทั่วโลก
27 กันยายน 2566
อิ๊กดราซิล กรุ๊ป พบผู้ลงทุนตอกย้ำความมั่นใจ เดินหน้าขยายงานในทุกส่วนธุรกิจต่อเนื่อง ดันรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้า 10-15% ส่งบริษัทลูก YGG โกลบอล จับมือพันธมิตรยักษ์ใหญ่ จีนและเกาหลี จ่อเปิดตัวซีรีย์แอนิเมชั่น “HERO Inside” ภายในไตรมาสแรกปีหน้า ทยอยฉายทั่วโลกทั้งสหรัฐ เอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะตลาดจีน ที่มีศักยภาพเติบโตสูง พร้อมรุกหนักอีกหลายโปรเจคใหญ่ในตลาดต่างประเทศ คาดดันแบ็คล็อกพุ่งพรวด
นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG ได้นำเสนอข้อมูลในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ถึงแผนธุรกิจในครึ่งหลังปี 2566 โดยบริษัทยังคงเดินหน้าขยายงานอย่างต่อเนื่องในทุกธุรกิจ ทั้ง ภาพยนตร์แอนิเมชั่น งานคอมพิวเตอร์กราฟิก และเกม ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทเติบโตตามเป้าหมาย 10 -15%
ในส่วนของภาพยนตร์แอนิเมชั่น บริษัทเพิ่มจำนวนโปรเจคงานใหม่ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานจากต่างประเทศ ทั้งในแถบเอเชีย และสหรัฐอเมริกา และยังมีงานในส่วนของบริษัทลูก บริษัท YGG Global จำกัด หรือ YGGG ที่เตรียมออกซีรีย์แอนิเมชั่น “HERO Inside” เป็นโปรเจคใหม่ที่ร่วมกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ต่างประเทศ จากจีน และเกาหลี ซึ่งจะทยอยออกฉายทั่วโลกในต้นปี 2567 โดยมีเป้าหมายในตลาด สหรัฐฯ เอเชียแปซิฟิค และจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
“ซีรีย์ HERO Inside จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ต่างชาติรู้จัก YGG ในฐานะผู้ร่วมผลิต และเจ้าของ เรามั่นใจว่า ซีรีย์แอนิเมชั่น HERO Inside จะได้กระแสตอบรับที่ดี ตอนนี้มีบริษัทตัวแทนจากหลายประเทศซื้อสิทธิเพื่อเตรียมพร้อมนำออกฉาย ซึ่งจะเริ่มทยอยออกฉายทั่วโลกในต้นปีหน้า นอกจากนี้ YGG ยังได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน Mipcom ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ในเดือนตุลาคมนี้ เป็นงานเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ระดับโลก จะทำให้ต่างชาติรู้จักผลงานของ YGG มากขึ้น สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทที่ต้องการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดโลก” นายธนัช กล่าว
นายธนัช กล่าวอีกว่า ในส่วนของเกม หลังจากบริษัทปล่อยเกม Home Sweet Home Online (HSHO) ที่ได้พัฒนาเวอร์ชั่นใหม่ ได้รับความสนใจจากผู้เล่นเกมทั่วโลกเพิ่มขึ้น และบริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มคอนเทนต์ใหม่ๆ ให้เกมมีความน่าสนใจ และตอบโจทย์ผู้เล่นต่างชาติ
ส่วนเกม “GOI” และ “GRANDORA” ยังคงเดินหน้าพัฒนาต่อหน้าเนื่อง เพื่อให้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด คาดว่าจะเริ่มปล่อยออกมาได้ในไตรแรกของปี 2567
นายธนัช ได้กล่าวถึง ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 บริษัทมีรายได้รวม 81.05 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 25.72 ล้านบาท โดยมีรายได้จากงานภาพยนตร์แอนิเมชั่น 32.43 ล้านบาท งานคอมพิวเตอร์กราฟิก มีรายได้ 29.24 ล้านบาท และงานเกม มีรายได้ 18.69 ล้านบาท ส่วนงานรอรับรู้รายได้ หรือ แบ็คล็อก ณ สิ้นมิถุนายน 2566 มีจำนวน 71 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานจากแอนิเมชั่น ที่มีสัดส่วนถึง 58% งานคอมพิวเตอร์กราฟิก 25% เกม 17%. และในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากที่บริษัทได้เพิ่มปริมาณงานโปรเจคในต่างประเทศ มั่นใจว่าจะทำให้แบ็คล็อกเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG ได้นำเสนอข้อมูลในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ถึงแผนธุรกิจในครึ่งหลังปี 2566 โดยบริษัทยังคงเดินหน้าขยายงานอย่างต่อเนื่องในทุกธุรกิจ ทั้ง ภาพยนตร์แอนิเมชั่น งานคอมพิวเตอร์กราฟิก และเกม ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทเติบโตตามเป้าหมาย 10 -15%
ในส่วนของภาพยนตร์แอนิเมชั่น บริษัทเพิ่มจำนวนโปรเจคงานใหม่ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานจากต่างประเทศ ทั้งในแถบเอเชีย และสหรัฐอเมริกา และยังมีงานในส่วนของบริษัทลูก บริษัท YGG Global จำกัด หรือ YGGG ที่เตรียมออกซีรีย์แอนิเมชั่น “HERO Inside” เป็นโปรเจคใหม่ที่ร่วมกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ต่างประเทศ จากจีน และเกาหลี ซึ่งจะทยอยออกฉายทั่วโลกในต้นปี 2567 โดยมีเป้าหมายในตลาด สหรัฐฯ เอเชียแปซิฟิค และจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
“ซีรีย์ HERO Inside จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ต่างชาติรู้จัก YGG ในฐานะผู้ร่วมผลิต และเจ้าของ เรามั่นใจว่า ซีรีย์แอนิเมชั่น HERO Inside จะได้กระแสตอบรับที่ดี ตอนนี้มีบริษัทตัวแทนจากหลายประเทศซื้อสิทธิเพื่อเตรียมพร้อมนำออกฉาย ซึ่งจะเริ่มทยอยออกฉายทั่วโลกในต้นปีหน้า นอกจากนี้ YGG ยังได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน Mipcom ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ในเดือนตุลาคมนี้ เป็นงานเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ระดับโลก จะทำให้ต่างชาติรู้จักผลงานของ YGG มากขึ้น สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทที่ต้องการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดโลก” นายธนัช กล่าว
นายธนัช กล่าวอีกว่า ในส่วนของเกม หลังจากบริษัทปล่อยเกม Home Sweet Home Online (HSHO) ที่ได้พัฒนาเวอร์ชั่นใหม่ ได้รับความสนใจจากผู้เล่นเกมทั่วโลกเพิ่มขึ้น และบริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มคอนเทนต์ใหม่ๆ ให้เกมมีความน่าสนใจ และตอบโจทย์ผู้เล่นต่างชาติ
ส่วนเกม “GOI” และ “GRANDORA” ยังคงเดินหน้าพัฒนาต่อหน้าเนื่อง เพื่อให้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด คาดว่าจะเริ่มปล่อยออกมาได้ในไตรแรกของปี 2567
นายธนัช ได้กล่าวถึง ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 บริษัทมีรายได้รวม 81.05 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 25.72 ล้านบาท โดยมีรายได้จากงานภาพยนตร์แอนิเมชั่น 32.43 ล้านบาท งานคอมพิวเตอร์กราฟิก มีรายได้ 29.24 ล้านบาท และงานเกม มีรายได้ 18.69 ล้านบาท ส่วนงานรอรับรู้รายได้ หรือ แบ็คล็อก ณ สิ้นมิถุนายน 2566 มีจำนวน 71 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานจากแอนิเมชั่น ที่มีสัดส่วนถึง 58% งานคอมพิวเตอร์กราฟิก 25% เกม 17%. และในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากที่บริษัทได้เพิ่มปริมาณงานโปรเจคในต่างประเทศ มั่นใจว่าจะทำให้แบ็คล็อกเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ