จิปาถะ

เปิดขั้นตอนลงทะเบียน-ตรวจสอบสิทธิ-เงื่อนไข ร่วมโครงการพักหนี้เกษตรกร 2.69 ล้านราย เริ่ม 1 ต.ค.นี้


27 กันยายน 2566

จากกรณีคณะรัฐมนตรี(ครม.)  ได้มีมติเห็นชอบให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินมาตรการพักชำระหนี้ให้กับเกษตรกรและบุคคลที่มีสถานะเป็นหนี้ปกติและหนี้ค้างชำระที่มี ต้นเงินคงเป็นหนี้ทุกสัญญารวมกัน ณ 30 กันยายน 2566 ไม่เกิน 300,000 บาท ซึ่งมีเกษตรกรที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว จำนวนกว่า 2.69 ล้านราย

เปิดขั้นตอนลงทะเบียน-ตรวจสอบสิทธิ-เงื่อนไ.jpg

เรื่องนี้ นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ระบุว่า เกษตรกรต้องแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการ พร้อมรับการประเมินศักยภาพและความสามารถในการชำระหนี้ โดยได้จัดวางระบบให้เกษตรกรลูกค้าแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ฯ ผ่านแอพพลิเคชัน BAAC Mobile โดยใช้หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้แสดงความประสงค์ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้

จากนั้นระบบจะมีการประมวลข้อมูลตรวจสอบคุณสมบัติ หากเข้าเกณฑ์ผู้มีคุณสมบัติตามมาตรการ ธ.ก.ส. จะนัดหมายลูกค้าและผู้ค้ำประกันไปที่สาขาหรือจุดบริการที่นัดหมาย เพื่อจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยแจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึง 31 มกราคม 2567 รวม 4 เดือน

อย่างไรก็ตามในกรณีที่เกษตรกรไม่สะดวก สามารถติดต่อแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการที่สาขาใกล้บ้านทั่วประเทศ ซึ่งพนักงานจะอำนวยความสะดวกในการแจ้งความประสงค์ผ่าน BAAC Mobile เพื่อเข้าสู่ระบบการประมวลผลและตรวจสอบสิทธิ์เช่นเดียวกัน

สำหรับลูกหนี้ที่ประสงค์จะออกจากการเข้าร่วมมาตรการจะต้องแจ้งความประสงค์ต่อ ธ.ก.ส. โดยมีเงื่อนไขดังนี้

1.ต้องเป็นลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการมาแล้วอย่างน้อย 1 ปี

2.ลูกหนี้ที่ประสงค์จะใช้บริการสินเชื่อตามปกติกับ ธ.ก.ส. โดยก่อนการยื่นขอสินเชื่อ จะต้องสละสิทธิ์การเข้าร่วมมาตรการ ซึ่งจะได้รับการพิจารณาวงเงินตามศักยภาพ

3.กรณีลูกหนี้ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการ เช่น การไม่เข้าร่วมการประเมินศักยภาพและความสามารถในการชำระหนี้ประจำปี หรือไม่เข้าร่วมการอบรมและฟื้นฟูการประกอบอาชีพที่ ธ.ก.ส. กำหนด หรือก่อภาระหนี้เพิ่มขึ้นกับสถาบันการเงินอื่นระหว่างเข้าร่วมมาตรการ ธ.ก.ส. จะพิจารณาให้ออกจากมาตรการดังกล่าว

แต่ผู้เข้าร่วมมาตรการที่ ยังประสงค์ชำระดอกเบี้ยค้างเดิมที่เกิดขึ้นก่อนเข้าร่วมมาตรการ ถ้าเป็นหนี้ปกติ ธ.ก.ส. จะเปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้ต้นเงินครึ่งหนึ่งและดอกเบี้ยอีกครึ่ง หรือ50 ต่อ 50 ของเงินที่นำมาชำระในแต่ละคราว

และกรณีเป็นหนี้ค้างชำระ ธนาคารจะจัดสรรชำระต้นเงินให้ทั้งจำนวนที่ลูกค้าส่งชำระในแต่ละคราว รวมทั้งสามารถเข้าร่วมมาตรการจูงใจตามโครงการชำระดีมีโชคของ ธ.ก.ส. ได้อีกด้วย ทั้งนี้ การแสดงความประสงค์เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ จะต้องเป็นไปตามความสมัครใจของลูกหนี้

นอกจากการพักชำระหนี้ลูกหนี้รายย่อย รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับภารกิจในการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนลดภาระหนี้สินเกษตรกรรายย่อยและเพิ่มรายได้เกษตรกร โดยในระหว่างการพักชำระหนี้ ธ.ก.ส. ได้กำหนดแนวทางการพัฒนาอาชีพ ทั้งอาชีพเดิม อาชีพเสริม และอาชีพใหม่ ภายใต้แนวทาง “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ใหม่” เป้าหมายเกษตรกร 300,000 คนต่อปี

พร้อมเตรียมผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เหมาะสมในการฟื้นฟูการประกอบอาชีพ วงเงินสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ในการจัดหาปัจจัยการผลิต เพื่อให้เกษตรกรสามารถยืนได้อย่างมั่นคง หลังการพักชำระหนี้

นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังแจ้งเตือนเกษตรกรและบุคคลที่จะเข้าร่วมมาตรการคือ ขอให้ระวังมิจฉาชีพที่อาจใช้โอกาสนี้ นำเรื่องพักชำระหนี้ไปหลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ โดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไปติดต่ออำนวยความสะดวก หรือหลอกลวงให้กดลิงก์ต่าง ๆ แบบอัตโนมัติ

โดยขอให้ลูกค้าทุกท่านศึกษาข้อมูลการดาวน์โหลดและใช้งานแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ได้บนระบบ IOS และ Android ผ่านทาง App store และ Play store เท่านั้น

หรือสอบถามข้อมูลอื่น ๆ ได้ที่ Call Center 02 555 0555 หรือสาขาทั่วประเทศ

 
ที่มา :  https://www.matichon.co.th/economy/news_4201298