บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า กนง. มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อีก 0.25% มาที่ 2.5% ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายไทย เข้าสู่จุดเหมาะสมกับการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาวตามมุมมองของ กนง. ภาพดังกล่าวบวกทันทีต่อเงินกู้ยืมระหว่างธนาคาร (Interbank) ดีต่อ BBL, KTB
![แบงก์ลูบปากรอ! copy.jpg](https://www.share2trade.com/storage/PressIOS/2023/September/%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%AD%21%20copy.jpg)
ขณะที่ฝั่งดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อยังต้องจับตามองการตอบสนองจากกลุ่มฯ หลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบก่อนหน้า ยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ใดขึ้น M-RATE
ทั้งนี้ กรณีที่มีการเพิ่ม M-RATE มองว่า MLR ที่คิดกับลูกค้ารายใหญ่ น่าจะถูกปรับขึ้นในอัตราสูงกว่า MRR ที่คิดกับ SME และรายย่อย ซึ่งศักยภาพในการชำระหนี้ยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยรวมบวกต่อ BBL ที่มีสัดส่วนสินเชื่อรายใหญ่มากสุดในกลุ่มฯ
โดยการลงทุนสำหรับกลุ่มธนาคาร เลือก BBL จากคุณภาพสินทรัพย์แกร่งกว่ากลุ่มฯ และคาดรับประโยชน์จากการขึ้นดอกเบี้ยมากกว่ากลุ่มฯ ส่วน ธนาคารพาณิชยฺขนาดเล็ก แม้เสียเปรียบธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ยามดอกเบี้ยขาขึ้น แต่มีจุดเด่นจาก DIV YIELD สูง ยังชอบTISCO ที่ให้ DIV YIELD สูงสุดในกลุ่มฯ มากกว่า KKP
นอกจากนี้มุมมองในเชิงกลยุทธ์ ภายใต้การกลับเข้าซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติวานนี้ ผสานกับการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย น่าจะสร้างความคึกคักให้กับ KBANK ที่ราคาผ่านการปรับฐานเป็นอันดับต้นของกลุ่ม ธนาคารพาณิชยฺขนาดใหญ่ ราว 15.6% YTD (SET INDEX – 10.3% YTD)
ส่วนกลุ่ม Non – Bank (เฉพาะ MTC, SAWAD, TIDLOR) กรณีที่ธนาคารมีการปรับขึ้น M-Rate และ Bond Yield ยืนในระดับสูง ในทางพื้นฐานส่งผลให้แนวโน้มต้นทุนทางการเงิน (Cost of fund : COF) ของกลุ่มสูงขึ้นในระยะถัดไป ซึ่งโครงสร้างหนี้สินที่มีดอกเบี้ยอายุ 1 ปี ณ สิ้นงวด 2Q66 เฉลี่ยอยู่ที่ 38% ของภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ย (หนี้กับสถาบันการเงินประมาณ 21% ของภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ย) โดยช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มต้นวัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้นของไทยช่วงครึ่งหลังปี 2565 พบว่า COF กลุ่มฯ งวดไตรมาส 2/66 อยู่ที่ประมาณ 3.3% VS 3.0% งวด ไตรมาส 2/65 ตรงข้ามกับฝั่งดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อคงที่ (กรณีมีการปรับดอกเบี้ยขึ้นจะส่งผลเฉพาะสัญญาฉบับใหม่) ด้านคุณภาพสินทรัพย์กลุ่มฯมองว่ายังอยู่ในวัฎจักรขาขึ้นของ NPL
อย่างไรก็ดีราคาหุ้นกลุ่มจำนำทะเบียน ตั้งแต่ Bond yield ไทยปรับตัวขึ้นช่วง ก.ย. 2566 ส่งผลให้ราคาหุ้นในกลุ่มฯ มีการปรับฐานพอสมควร และนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ให้ผลตอบแทนติดลบทุกตัว น่าจะสะท้อนปัจจัยข้างต้นบางส่วนแล้ว ให้คำแนะนำ Outperform ต่อ TIDLOR (FV ปี 2566 @B26) เพราะราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันลดลง 20.3% มากกว่า MTC และ SAWAD ลบ 3.3% และ 10.8% YTD ตามลำดับประกอบกับคุณภาพสินทรัพย์ของ TIDLOR ในเชิง Coverage ratio สูงสุดในกลุ่มฯ ที่ 266% ขณะที่ MTC (Neutral) ราคาหุ้นที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ราคาเทียบ FV ปี 2567 ที่ 40 บาท (FV ปี 2565 @B35) มี Upside เปิดกว้างขึ้น
![แบงก์ลูบปากรอ! copy.jpg](https://www.share2trade.com/storage/PressIOS/2023/September/%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%AD%21%20copy.jpg)
ขณะที่ฝั่งดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อยังต้องจับตามองการตอบสนองจากกลุ่มฯ หลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบก่อนหน้า ยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ใดขึ้น M-RATE
ทั้งนี้ กรณีที่มีการเพิ่ม M-RATE มองว่า MLR ที่คิดกับลูกค้ารายใหญ่ น่าจะถูกปรับขึ้นในอัตราสูงกว่า MRR ที่คิดกับ SME และรายย่อย ซึ่งศักยภาพในการชำระหนี้ยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยรวมบวกต่อ BBL ที่มีสัดส่วนสินเชื่อรายใหญ่มากสุดในกลุ่มฯ
โดยการลงทุนสำหรับกลุ่มธนาคาร เลือก BBL จากคุณภาพสินทรัพย์แกร่งกว่ากลุ่มฯ และคาดรับประโยชน์จากการขึ้นดอกเบี้ยมากกว่ากลุ่มฯ ส่วน ธนาคารพาณิชยฺขนาดเล็ก แม้เสียเปรียบธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ยามดอกเบี้ยขาขึ้น แต่มีจุดเด่นจาก DIV YIELD สูง ยังชอบTISCO ที่ให้ DIV YIELD สูงสุดในกลุ่มฯ มากกว่า KKP
นอกจากนี้มุมมองในเชิงกลยุทธ์ ภายใต้การกลับเข้าซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติวานนี้ ผสานกับการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย น่าจะสร้างความคึกคักให้กับ KBANK ที่ราคาผ่านการปรับฐานเป็นอันดับต้นของกลุ่ม ธนาคารพาณิชยฺขนาดใหญ่ ราว 15.6% YTD (SET INDEX – 10.3% YTD)
ส่วนกลุ่ม Non – Bank (เฉพาะ MTC, SAWAD, TIDLOR) กรณีที่ธนาคารมีการปรับขึ้น M-Rate และ Bond Yield ยืนในระดับสูง ในทางพื้นฐานส่งผลให้แนวโน้มต้นทุนทางการเงิน (Cost of fund : COF) ของกลุ่มสูงขึ้นในระยะถัดไป ซึ่งโครงสร้างหนี้สินที่มีดอกเบี้ยอายุ 1 ปี ณ สิ้นงวด 2Q66 เฉลี่ยอยู่ที่ 38% ของภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ย (หนี้กับสถาบันการเงินประมาณ 21% ของภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ย) โดยช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มต้นวัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้นของไทยช่วงครึ่งหลังปี 2565 พบว่า COF กลุ่มฯ งวดไตรมาส 2/66 อยู่ที่ประมาณ 3.3% VS 3.0% งวด ไตรมาส 2/65 ตรงข้ามกับฝั่งดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อคงที่ (กรณีมีการปรับดอกเบี้ยขึ้นจะส่งผลเฉพาะสัญญาฉบับใหม่) ด้านคุณภาพสินทรัพย์กลุ่มฯมองว่ายังอยู่ในวัฎจักรขาขึ้นของ NPL
อย่างไรก็ดีราคาหุ้นกลุ่มจำนำทะเบียน ตั้งแต่ Bond yield ไทยปรับตัวขึ้นช่วง ก.ย. 2566 ส่งผลให้ราคาหุ้นในกลุ่มฯ มีการปรับฐานพอสมควร และนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ให้ผลตอบแทนติดลบทุกตัว น่าจะสะท้อนปัจจัยข้างต้นบางส่วนแล้ว ให้คำแนะนำ Outperform ต่อ TIDLOR (FV ปี 2566 @B26) เพราะราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันลดลง 20.3% มากกว่า MTC และ SAWAD ลบ 3.3% และ 10.8% YTD ตามลำดับประกอบกับคุณภาพสินทรัพย์ของ TIDLOR ในเชิง Coverage ratio สูงสุดในกลุ่มฯ ที่ 266% ขณะที่ MTC (Neutral) ราคาหุ้นที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ราคาเทียบ FV ปี 2567 ที่ 40 บาท (FV ปี 2565 @B35) มี Upside เปิดกว้างขึ้น
ยอดนิยม
![YGG อาการหนัก! ดิ่งฟลอร์ 2 วันติด ล่าสุด CFO แจ้งขอลาออก พบโดนเอาหุ้นมาตึ๊งมากสุดในตลาด](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/030724/YGG%20%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81!%20copy_0.jpg)
YGG อาการหนัก! ดิ่งฟลอร์ 2 วันติด ล่าสุด CFO แจ้งขอลาออก พบโดนเอาหุ้นมาตึ๊งมากสุดในตลาด
![ย้อนไทม์ไลน์หุ้น YGG จากอดีตราคาสุดปัง ปัจจุบันดิ่งเหว รู้หรือไม่? ตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยถือหุ้น](https://www.share2trade.com/storage/Web%20Board/2024/July/%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A1%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%20YGG%20copy_0.jpg)
ย้อนไทม์ไลน์หุ้น YGG จากอดีตราคาสุดปัง ปัจจุบันดิ่งเหว รู้หรือไม่? ตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยถือหุ้น
![AOT รับแรงกระแทกอีกยาว! เลิก Duty Free ขาเข้า ฉุดรายได้ 1.4 พันลบ. โบรกฯ ชี้ราคาปัจจุบันยังไม่ใช่จุด “ซื้อ”](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/030724/S2T%20(%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A)%20AOT%20%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A7!_0.jpg)
AOT รับแรงกระแทกอีกยาว! เลิก Duty Free ขาเข้า ฉุดรายได้ 1.4 พันลบ. โบรกฯ ชี้ราคาปัจจุบันยังไม่ใช่จุด “ซื้อ”
![ครึ่งแรกปี 67 พบ 14 บจ. ขายหุ้นพีพี สถาบัน-รายใหญ่ อ่วมแบกขาดทุนเพียบ WPH แชมป์ผลตอบแทนมากสุด 146%](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/030724/S2T%20(%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A)%20%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%B5%2067%20%E0%B8%9E%E0%B8%9A%2014%20%E0%B8%9A%E0%B8%88.%20%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B5_0.jpg)
ครึ่งแรกปี 67 พบ 14 บจ. ขายหุ้นพีพี สถาบัน-รายใหญ่ อ่วมแบกขาดทุนเพียบ WPH แชมป์ผลตอบแทนมากสุด 146%
![ไทยเนื้อหอม ยักษ์ไอทีระดับโลก ปักหมุดลงทุน Data Center มูลค่ากว่าแสนลบ.](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/030724/S2T%20(%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A)%20%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%A1%20%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81.jpg)