"มินนี่" เปิดใจครั้งแรก ไม่รู้จัก ‘บิ๊กโจ๊ก’ ส่วนตัวรับเคยคบ ‘รองหนึ่ง’

ที่ บก.น.5 น.ส.ธันยนันท์ หรือ สุชานันท์ สุจริตชินศรี หรือ มินนี่ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์ พร้อมทนายความ ชี้แจงกรณีปรากฏภาพคู่กับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย หรือ หนึ่ง รอง ผบก.สส.ภ.4 หนึ่งในแปดตำรวจผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นลูกน้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ว่า ส่วนตัวรู้จักกับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ หรือรองหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2563 หลังพบกันในงานเลี้ยง จ.เลย และคบหากันระยะเวลาสั้นๆ ก่อนเลิกราไปเพราะทราบว่าเขามีครอบครัวแล้ว กระทั่งปลายปีที่แล้ว (2565) บังเอิญกลับมาเจอกันและพูดคุยกันอีกครั้งในช่วงเวลาหนึ่ง กรณีการโอนเงินนั้นรองหนึ่งจะยืมเงินตนบ้างเป็นปกติ คืนบ้าง ไม่คืนบ้าง อาจเพราะเงินเดือนตำรวจไม่มาก แต่ส่วนมากคนอื่นจะโอนให้ เพราะตนอยู่ต่างประเทศ ไม่มีเงินติดบัญชี ส่วน พ.ต.อ.ภาคภูมิรู้ที่มาของเงินหรือไม่ ขอไม่ตอบ

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ มินนี่ชี้แจงว่า ที่บอกว่าเป็นสามีภรรยาไม่มี คอนเฟิร์มว่าไม่มี ไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกัน สถานะจริงๆ คือคบหากันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

มินนี่เผยอีกว่า ส่วนภาพคู่ที่ปรากฏนั้นเป็นภาพที่ตนถ่าย แต่ถูกตำรวจ ศปอส.ตร.ชุดที่ 4 (PCT ชุดที่ 4) เข้าจับกุมและยึดโทรศัพท์เพียงเครื่องเดียวของตนไป มีตำรวจนายหนึ่งชื่อ เจ อีกนายตัวสูงคล้ำๆ น่าจะสังกัด ตม.จึงตั้งคำถามว่าภาพดังกล่าวหลุดไปได้อย่างไร ตอนนี้ทุกคนเดือดร้อนเพราะตน ซึ่งเป็นภาพที่ไม่เผยแพร่ที่ไหน และตำรวจสองนายนั้นยังบังคับให้ตนเขียนยอมรับว่ารองหนึ่งมีส่วนได้เสียกับเว็บพนันของตน กระทั่งเกิดเรื่องขึ้น หากตนยอมทำตั้งแต่ตอนนั้นตำรวจก็คงได้สิ่งที่ต้องการไป

“มันเป็นโทรศัพท์ส่วนตัว ทำไมถึงหลุดออกไป อยากทราบว่าในวันนั้นที่ตำรวจมาจับกุม ตรวจค้น ได้ให้มือถือ ให้ทุกอย่าง แต่วันนี้ทุกคนเดือดร้อนเพราะหนู พี่หนึ่งเดือดร้อนเพราะหนู บิ๊กโจ๊กเดือดร้อนเพราะหนู เพราะมีรูปถ่ายหลุดไป ซึ่งไม่เคยโพสต์ในโซเชียลไหนเลย เชื่อว่าหลุดมาจากโทรศัพท์หนูเครื่องเดียว ตอนนี้โทรศัพท์อยู่ที่ชุดจับกุม อยากขอความเป็นธรรมว่าโทรศัพท์หลุดไป รูปไม่เคยไปโพสต์ที่ไหน ทำไมมีทั้งภาพ ทั้งแชต เป็นเรื่องของคน 2 คน

ส่วนพี่หนึ่งไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย วันนั้นราวตี 3 กว่าที่ถูกจับกุม 2 นายตำรวจมาบังคับเพื่อให้หนูเขียนระบุว่า พี่หนึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียในการทำเว็บพนันร่วมกัน ซึ่งไม่ได้เขียน แล้วมาเดินวนเวียนถามว่าทำไมโทรศัพท์มีรูปลูกพี่พี่ด้วย

เป็นตำรวจเหมือนกัน ทำไมบังคับให้เขียนในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง จนเรื่องเกิดขึ้นก็มา คิดว่าถ้าเขียนตามที่เขาบอกไปคงจบ เขาคงได้สิ่งที่ต้องการ พอไม่ได้สิ่งที่ต้องการเลยเอารูปส่วนตัวไปเปิดเผย ไม่ว่าคน 2 คนจะรักกัน ก็เป็นเรื่องของคน 2 คน ไม่เกี่ยวกับกฎหมายอะไรเลย ลูกหนู 6 ขวบแล้ว วันนี้ต้องออกมา อะไรก็ไม่กลัว อย่างน้อยถ้าอะไรจะเกิดก็ได้ออกมาพูดแล้ว มีปากมีเสียงเหมือนกัน

พี่หนึ่งเคยพูดว่าห้ามโพสต์นะ แต่มันไม่เคยหลุดไปสักครั้ง ในไอจี เฟซบุ๊ก ติ๊กต็อก ไม่เคยโพสต์ ขนาดรูปกับพี่เอ ศุภชัย หนูไปขอถ่ายเอง ก็เก็บไว้ในโทรศัพท์ ไม่ได้โพสต์อวดใคร” มินนี่กล่าว

มินนี่กล่าวว่า ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มีเพียงตนที่รู้จักท่าน แต่ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว เคยเจอกัน 2-3 ครั้ง เพราะไปงานเลี้ยงกับพี่หนึ่ง ไม่มีการพูดคุยกัน มีไปร้อเพลง เพราะชอบร้องเพลงอยู่แล้ว คิดว่าเขาจำตนไม่ได้ ทั้งนี้ ไม่รู้จักกับ ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด รวมถึงไม่รู้จัก บอสตาล เจ้าของสโมสรฟุตบอลลำพูนวอริเออร์ ส่วนตัวก็อยากทราบว่าทุกวันนี้เขาอยู่ที่ไหน พร้อมปฏิเสธว่าตนเองไม่ใช่เจ้าแม่เว็บพนัน ตนทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขายส่งเสื้อผ้าแฟชั่น

มินนี่กล่าวด้วยว่า ปฏิเสธฉายา “เจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์” 100 เปอร์เซ็นต์ พี่หนึ่งไม่เกี่ยว 100 เปอร์เซ็นต์ อยากขอโทษบิ๊กโจ๊กที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตนเลย พี่เอ ศุภชัย ที่อาจโดนเรียกไป สิ่งสำคัญที่อยากขอโทษที่สุดคือพี่หนึ่ง เพราะวันนั้นที่โดนจับกุม สายแรกและสายเดียวที่โทรหาคือพี่หนึ่ง

มินนี่กล่าวว่า ต้องการขอโทษ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พี่เอ ศุภชัย ที่เคยถ่ายรูปร่วมด้วย และขอโทษพี่หนึ่งที่โทรศัพท์หาตอนถูกจับเป็นคนแรกและคนเดียว ทั้งที่ตำรวจให้โทรหาญาติ แต่เพราะตนเองไม่รู้จักใครจะทำอะไร ยืนยันว่าไม่ได้ซัดทอดตำรวจ 8 นาย และไม่ทราบเรื่องการโอนเงินเข้าบัญชี

สำหรับภาพที่หลุดไป มินนี่ยืนยันว่า กำลังพิจารณาให้ทนายความฟ้องร้องบุคคลที่กล่าวหา พร้อมย้ำว่า ไม่มีใครสั่งการ หรือวางบทให้มาทำอะไร โดยจะไปยื่นคำร้องคำชี้แจงที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ และลงบันทึกประจำวันไว้

“ไม่รู้ว่าถูกใช้เป็นอะไรหรือเปล่า เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ถ้าต้องรับเคราะห์กรรมอะไรก็พร้อมรับ เกิดขึ้นแล้วก็พร้อมรับ แต่อย่าเอาไปเป็นเครื่องมือของใครเลย” 

ที่มา : https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4204975