จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : “ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ” โตเด่น กระตุ้นผลงาน I2 ปี66 โตก้าวกระโดด
29 กันยายน 2566
การเติบโตและความสำคัญของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่เป็นหัวใจของภาคธุรกิจ กระตุ้นผลงานบมจ. ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2 )ผู้ให้บริการ System Integration (SI) แบบครบวงจร ที่จะเติบโตโดดเด่นกว่าปีก่อน
บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ผู้ให้บริการด้านดิจิทัลและโทรคมนาคม คาดการณ์เทคโนโลยีในภาคธุรกิจปี 2023 ว่า ช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว สิ่งที่จะเป็นความได้เปรียบคือ ผู้นำที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลแบบนาทีต่อนาที เพื่อให้การตัดสินใจอย่างแม่นยำ ดังนั้นปัจจัยที่จะสนับสนุนความสำเร็จของธุรกิจได้ คือ ระบบเครือข่ายที่มีเสถียรภาพ
โดยจากสถิติปริมาณแบนด์วิดท์การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในประเทศและระหว่างประเทศเติบโตเฉลี่ยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาประมาณปีละ 30% และสำหรับการคาดการณ์ในปี 2023 ปริมาณการรับ-ส่งข้อมูลอินเตอร์เน็ต หรือ แบนด์วิดท์จะเติบโตสูง โดยแบนด์วิดท์ในประเทศคาดว่าจะโตประมาณ 25.31% หรือประมาณ 20 Tpbs ขณะที่แบนด์วิดท์ระหว่างประเทศจะเติบโตสูงขึ้นถึง 37.70% หรือประมาณ 34 Tbps
ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่หลังการระบาดของโควิด สนับสนุนธุรกิจ บมจ. ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2 ) ที่ประกอบธุรกิจบริการ System Integration (SI) แบบครบวงจร ได้แก่ ให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร โทรคมนาคม และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
โดย “อธิพร ลิ่มเจริญ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร I2 เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 66 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 461.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.10 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 4.79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากบริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจโซลูชั่นระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Infrastructure) จำนวน 335.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากทยอยส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ อาทิเช่น โครงการซื้อพร้อมติดตั้งระบบ IP Core, โครงการระบบบริการสารสนเทศ และงานโครงการอื่นๆ
"ในช่วงไตรมาส 2/66 และครึ่งปีแรกของปี 66 บริษัทฯ ส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้ตามแผนที่วางไว้ และทยอยรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบจากปีก่อน" นายอธิพร กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานโครงการของภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง ตามวัตถุประสงค์การใช้เงินระดมทุนเสนอขายหุ้น IPO เพื่อเป็นการต่อยอดและขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ โดยตั้งเป้าหมายปีนี้ได้รับงานเพิ่มอีกกว่า 400 ล้านบาท
ซึ่งล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมลงนามสัญญาจ้างโครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) บนพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลค่ารวม 1,541.28 ล้านบาท ส่งผลให้มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มเป็นกว่า 2.5 พันล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตอย่างก้าวกระโดด
บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ผู้ให้บริการด้านดิจิทัลและโทรคมนาคม คาดการณ์เทคโนโลยีในภาคธุรกิจปี 2023 ว่า ช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว สิ่งที่จะเป็นความได้เปรียบคือ ผู้นำที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลแบบนาทีต่อนาที เพื่อให้การตัดสินใจอย่างแม่นยำ ดังนั้นปัจจัยที่จะสนับสนุนความสำเร็จของธุรกิจได้ คือ ระบบเครือข่ายที่มีเสถียรภาพ
โดยจากสถิติปริมาณแบนด์วิดท์การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในประเทศและระหว่างประเทศเติบโตเฉลี่ยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาประมาณปีละ 30% และสำหรับการคาดการณ์ในปี 2023 ปริมาณการรับ-ส่งข้อมูลอินเตอร์เน็ต หรือ แบนด์วิดท์จะเติบโตสูง โดยแบนด์วิดท์ในประเทศคาดว่าจะโตประมาณ 25.31% หรือประมาณ 20 Tpbs ขณะที่แบนด์วิดท์ระหว่างประเทศจะเติบโตสูงขึ้นถึง 37.70% หรือประมาณ 34 Tbps
ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่หลังการระบาดของโควิด สนับสนุนธุรกิจ บมจ. ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2 ) ที่ประกอบธุรกิจบริการ System Integration (SI) แบบครบวงจร ได้แก่ ให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร โทรคมนาคม และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
โดย “อธิพร ลิ่มเจริญ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร I2 เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 66 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 461.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.10 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 4.79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากบริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจโซลูชั่นระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Infrastructure) จำนวน 335.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากทยอยส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ อาทิเช่น โครงการซื้อพร้อมติดตั้งระบบ IP Core, โครงการระบบบริการสารสนเทศ และงานโครงการอื่นๆ
"ในช่วงไตรมาส 2/66 และครึ่งปีแรกของปี 66 บริษัทฯ ส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้ตามแผนที่วางไว้ และทยอยรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบจากปีก่อน" นายอธิพร กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานโครงการของภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง ตามวัตถุประสงค์การใช้เงินระดมทุนเสนอขายหุ้น IPO เพื่อเป็นการต่อยอดและขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ โดยตั้งเป้าหมายปีนี้ได้รับงานเพิ่มอีกกว่า 400 ล้านบาท
ซึ่งล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมลงนามสัญญาจ้างโครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) บนพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลค่ารวม 1,541.28 ล้านบาท ส่งผลให้มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มเป็นกว่า 2.5 พันล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตอย่างก้าวกระโดด