Talk of The Town

“ทรีนีตี้” จัดทัพหุ้นเด่นไตรมาส 4 ชี้หลุด 1500 เป็นจังหวะน่าสะสม


02 ตุลาคม 2566
บล.ทรีนีตี้ เผยบทวิเคราะห์ โดยประเมินตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 4/66 จะปรับตัวเจอจุดต่ำสุดชั่วคราวในช่วงแรก ก่อนที่หลังจากนั้นจะทยอยปรับตัว Sideways up ขึ้นได้ โดยมีปัจจัยหนุน 4 หลักได้แก่ 1. การสิ้นสุดรอบการปรับลดประมาณการของบริษัทจดทะเบียนไทย และอาจมีความเป็นไปได้ในการปรับประมาณการเพิ่มในกลุ่ม Oil & Gas, กลุ่มอิงกับการบริโภคภายในประเทศ กลุ่มส่งออก และกลุ่มท่องเที่ยว

ข่าวลูกค้า “ทรีนีตี้” จัดทัพหุ้นเด่นไตรมา.jpg

2. การยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นของไทยไว้ที่ระดับ 2.50% ซึ่งในอดีตแล้วมักนำมาสู่การปรับตัวที่ดีของดัชนีหุ้นไทยหลังจากนั้น 3. เศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4 เป็นต้นไป จากแรงส่งทางด้านการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งน่าจะทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติปรับตัวดีขึ้น  และ 4. เศรษฐกิจโลกที่แนวโน้มทั่วไปยังคงดีอยู่ และค่อนข้างมั่นใจว่าในไตรมาส 4 นี้จะยังไม่มีสัญญาณความเสี่ยงใด ๆ เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยออกมา 

ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำให้นักลงทุนใช้จังหวะที่ดัชนีกำลังซื้อขายอยู่บริเวณต่ำกว่า 1,500 จุด ในการทยอยเข้าสะสมหุ้นได้ เนื่องจากเป็นระดับที่ Valuation เริ่มมี upside จากระดับดัชนีเป้าหมายของฝ่ายวิจัยในกรณีดีสุดที่ 1,515 จุด และหากยิ่งดัชนีลงลึกไปใกล้ระดับ 1,470 จุด มองเป็นโซนในการเข้าซื้อที่น่าสนใจมาก เนื่องจากจะเทียบเท่าเท่ากับระดับ PBV ที่ 1.4 เท่า ซึ่งในอดีตแล้ว มักเป็นระดับที่ดัชนีมีเสถียรภาพในทุกๆ ครั้งที่ดัชนีมีการปรับตัวลง 

ฝ่ายวิจัยได้แบ่งกลุ่มที่น่าสนใจประจำไตรมาส 4 ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ 1. กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ทั้ง Consumer staple และ Grassroot consumption อาทิ CPALL, CPAXT, BJC, CRC, HMPRO, GLOBAL, DOHOME, TNP, MENA

2. กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ยังคงแข็งแกร่ง ภาคการผลิตทั่วโลกที่ฟื้นตัว ภาวะ De-stocking  ที่ผ่อนคลายลงและเริ่มกลับกลายเป็น Re-stocking เลือกกลุ่มส่งออก อาทิ KCE, HANA, AAI, ITC, CPF, BTG, GFPT, TU รวมถึงกลุ่มเดินเรือและ Logistics ที่ได้ประโยชน์จากปริมาณการค้าขายและการขนส่งทั่วโลกที่กลับมาคึกคักมากขึ้น อาทิ  PSL, RCL, III, LEO, SJWD, WICE