Wealth Sharing
ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ มีแนวรับ 1,650-1,635 จุด แนวต้าน 1,680-1,700 จุด
12 กุมภาพันธ์ 2566
สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
ดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลงตลอดสัปดาห์ แต่ยังไม่หลุดแนว 1,600 จุด ท่ามกลางแรงขายต่อเนื่องของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ โดยปัจจัยลบหลักๆ มาจากความกังวลต่อทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. ของสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่งกว่าตลาดคาด ประกอบกับเจ้าหน้าที่เฟดยังคงสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของบริษัทจดทะเบียนบางแห่งที่ออกมาน่าผิดหวัง อาทิ ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และโรงกลั่นน้ำมัน มีส่วนกดดันบรรยากาศการลงทุนในภาพรวมเช่นเดียวกัน
ในวันศุกร์ (10 ก.พ.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,664.57 จุด ลดลง 1.41% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 58,467.07 ล้านบาท ลดลง 9.21% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.09% มาปิดที่ระดับ 606.55 จุด
สำหรับสัปดาห์นี้ (13-17 ก.พ.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,650 และ 1,635 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,680 และ 1,700 จุด ตามลำดับ
โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/65 ของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/65 ของบจ. ไทย รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือนม.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/65 ของยูโรโซนและญี่ปุ่น รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. ของญี่ปุ่นและยูโรโซน
ดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลงตลอดสัปดาห์ แต่ยังไม่หลุดแนว 1,600 จุด ท่ามกลางแรงขายต่อเนื่องของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ โดยปัจจัยลบหลักๆ มาจากความกังวลต่อทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. ของสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่งกว่าตลาดคาด ประกอบกับเจ้าหน้าที่เฟดยังคงสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของบริษัทจดทะเบียนบางแห่งที่ออกมาน่าผิดหวัง อาทิ ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และโรงกลั่นน้ำมัน มีส่วนกดดันบรรยากาศการลงทุนในภาพรวมเช่นเดียวกัน
ในวันศุกร์ (10 ก.พ.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,664.57 จุด ลดลง 1.41% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 58,467.07 ล้านบาท ลดลง 9.21% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.09% มาปิดที่ระดับ 606.55 จุด
สำหรับสัปดาห์นี้ (13-17 ก.พ.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,650 และ 1,635 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,680 และ 1,700 จุด ตามลำดับ
โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/65 ของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/65 ของบจ. ไทย รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือนม.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/65 ของยูโรโซนและญี่ปุ่น รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. ของญี่ปุ่นและยูโรโซน