จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : รัฐบาลเดินหน้านโยบายดิจิทัล INET รับอานิสงส์ดันผลงานแกร่ง
06 ตุลาคม 2566
การประกาศเดินหน้านโยบายด้านดิจิทัลของรัฐบาล สนับสนุนธุรกิจ บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET)ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร โดยผู้บริหารมั่นใจผลงานปีนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเป็นกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ท ที่เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศครั้งใหญ่ และยังเป็นการสร้างการชำระเงินในระบบบล็อคเชนให้กับประเทศ รองรับเงินในโลกยุคใหม่ และพรรคเพื่อไทยจะมีการดำเนินนโยบายควบคู่ไปด้วยคือ ตลาดทุนคู่ขนาน เป็นตลาดทุนสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะตั้งคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ดิจิทัล (ก.ล.ต.ดิจิทัล) เพื่อดูแลตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะ
ซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังยืนยันว่า เรื่องนี้ได้มีการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในเบื้องต้นแล้ว และยืนยันว่าไม่ได้ติดข้อกฎหมายใดๆ มีกลไกที่สามารถทำได้โดยไม่ขัดกับตัวบทกฎหมาย และยืนยันว่า เทคโนโลยีที่ใช้ในนโยบายดิจิทัลวอลเล็ท 10,000 บาท ยังคงเป็น blockchain เพราะเป็นกลไกที่มีความปลอดภัยตรวจสอบได้
การเดินหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ท และนโยบายด้านดิจิทัลในภาคส่วนต่างๆจะส่งผลดีต่อ บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) บริษัทเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร แบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 3 ลักษณะ ดังนี้ 1. บริการ Cloud Solutions 2. บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Internet Access ) 3. บริการ Co-Location
ซึ่ง “มรกต กุลธรรมโยธิน” กรรมการผู้จัดการ (INET) ระบุการที่ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการขับเคลื่อนด้าน Digital Transformation ออกมาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ ที่มุ่งเข้าสู่ยุค Digital Transformation และปรับเปลี่ยนบทบาทจาก Cloud Service Provider เป็น Trusted Platform Service Provider
โดยมุ่งเน้นการลงทุนในบริการ Platform ต่างๆ เพื่อต่อยอดการใช้งานของบริการ Cloud ให้ทั้งลูกค้าเดิมและขยายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มเติม พร้อมกับมุ่งมั่นบริหารต้นทุน เช่น การทำวิจัยและพัฒนา (R&D) เทคโนโลยีเป็นของตนเอง เพื่อทดแทนเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และการสร้างโซลาร์ฟาร์มเพื่อลดต้นทุนการใช้ไฟฟ้า ส่งผลให้แนวโน้มผลการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 3/66 มีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 2/66 ที่มีรายได้จากการขายและให้บริการ จำนวน 509.28 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 44.48 ล้านบาท เนื่องจากความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ส่งผลให้ภาคธุรกิจฟื้นตัว
"บริษัทฯ คาดว่า ผลงานในไตรมาส 3 ของปีนี้ ยังมีการเติบโตที่ดี เนื่องจากภาครัฐมีนโยบายที่ชัดเจน ประกอบกับ INET มีการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเอง แทนการใช้เทคโนโลยีของต่างประเทศ รวมถึงโครงการโซลาร์ฟาร์ม เฟส 1 จังหวัดสระบุรี กำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์ เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าของศูนย์ Data คาดว่า จะสามารถ COD ภายในปีนี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/66 ของบริษัทฯ สามารถเติบโตได้ดี ทั้งในแง่ QoQ และ YoY และมั่นใจว่า จะสามารถสนับสนุนผลงานโดยรวมในปีนี้ให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้"
รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเป็นกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ท ที่เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศครั้งใหญ่ และยังเป็นการสร้างการชำระเงินในระบบบล็อคเชนให้กับประเทศ รองรับเงินในโลกยุคใหม่ และพรรคเพื่อไทยจะมีการดำเนินนโยบายควบคู่ไปด้วยคือ ตลาดทุนคู่ขนาน เป็นตลาดทุนสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะตั้งคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ดิจิทัล (ก.ล.ต.ดิจิทัล) เพื่อดูแลตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะ
ซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังยืนยันว่า เรื่องนี้ได้มีการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในเบื้องต้นแล้ว และยืนยันว่าไม่ได้ติดข้อกฎหมายใดๆ มีกลไกที่สามารถทำได้โดยไม่ขัดกับตัวบทกฎหมาย และยืนยันว่า เทคโนโลยีที่ใช้ในนโยบายดิจิทัลวอลเล็ท 10,000 บาท ยังคงเป็น blockchain เพราะเป็นกลไกที่มีความปลอดภัยตรวจสอบได้
การเดินหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ท และนโยบายด้านดิจิทัลในภาคส่วนต่างๆจะส่งผลดีต่อ บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) บริษัทเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร แบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 3 ลักษณะ ดังนี้ 1. บริการ Cloud Solutions 2. บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Internet Access ) 3. บริการ Co-Location
ซึ่ง “มรกต กุลธรรมโยธิน” กรรมการผู้จัดการ (INET) ระบุการที่ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการขับเคลื่อนด้าน Digital Transformation ออกมาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ ที่มุ่งเข้าสู่ยุค Digital Transformation และปรับเปลี่ยนบทบาทจาก Cloud Service Provider เป็น Trusted Platform Service Provider
โดยมุ่งเน้นการลงทุนในบริการ Platform ต่างๆ เพื่อต่อยอดการใช้งานของบริการ Cloud ให้ทั้งลูกค้าเดิมและขยายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มเติม พร้อมกับมุ่งมั่นบริหารต้นทุน เช่น การทำวิจัยและพัฒนา (R&D) เทคโนโลยีเป็นของตนเอง เพื่อทดแทนเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และการสร้างโซลาร์ฟาร์มเพื่อลดต้นทุนการใช้ไฟฟ้า ส่งผลให้แนวโน้มผลการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 3/66 มีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 2/66 ที่มีรายได้จากการขายและให้บริการ จำนวน 509.28 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 44.48 ล้านบาท เนื่องจากความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ส่งผลให้ภาคธุรกิจฟื้นตัว
"บริษัทฯ คาดว่า ผลงานในไตรมาส 3 ของปีนี้ ยังมีการเติบโตที่ดี เนื่องจากภาครัฐมีนโยบายที่ชัดเจน ประกอบกับ INET มีการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเอง แทนการใช้เทคโนโลยีของต่างประเทศ รวมถึงโครงการโซลาร์ฟาร์ม เฟส 1 จังหวัดสระบุรี กำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์ เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าของศูนย์ Data คาดว่า จะสามารถ COD ภายในปีนี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/66 ของบริษัทฯ สามารถเติบโตได้ดี ทั้งในแง่ QoQ และ YoY และมั่นใจว่า จะสามารถสนับสนุนผลงานโดยรวมในปีนี้ให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้"