“ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ FTI” กางแผนธุรกิจ 3 ปี คาดรายได้แตะระดับ 1,400 ลบ. ในปี 69 เติบโตโตเฉลี่ยปีละ 20% เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายสาขาตัวแทนจำหน่าย ร่วมทุนพันธมิตรเพื่อเพิ่มไลน์การผลิตชิ้นส่วนสินค้า และ ก่อสร้างโรงงานใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต
ดร.วิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ FTI เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนในการขยายธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้า ตั้งแต่ปี 2567-2569 โดยมีเป้าหมายรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ในปี 2567 มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท ในปี 2568 และมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,450 ล้านบาท ในปี 2569 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20% ในส่วนของปี 2566 นี้ คาดว่าจะมีรายได้มากกว่า 800 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะใช้กลยุทธ์ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องมากกว่า 10 ผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องกรองน้ำ ชุดกรองน้ำ ระบบผลิตน้ำอ่อน ชุดกรองน้ำที่สามารถใช้คู่กับฝักบัวอาบน้ำ ระบบบริหารจัดการน้ำอุตสาหกรรม เป็นต้น และการเดินหน้าขยายสาขา Water Stores เป็น 24 สาขาจากในปัจจุบันมีจำนวน 22 สาขา เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าขายส่งเพื่อผู้ประกอบอาชีพระบบกรองน้ำ และครัวเรือนทั่วไป และการขยายสาขา Aquatek Shops เป็น 50 สาขา จากในปัจจุบันมีจำนวน 8 สาขา ขยายกลุ่มลูกค้าครัวเรือนระดับ High End ที่มี Life Style ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ทั่วประเทศ รวมถึงการเปิดตัว “ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอด” ในการเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของแบรนด์ Aquatek เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำกิจกรรม และการสื่อสารทางการตลาดให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายของบริษัทฯ ให้เติบโตขึ้นในอนาคต
ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าในการศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วน และอุปกรณ์ระบบกรองน้ำ รวมถึงขยายอาคารคลังสินค้าของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสถานะในด้านต่าง ๆ ก่อนการเข้าลงทุน ได้แก่ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง, เครื่องจักร, วัตถุดิบ, ผลิตภัณฑ์ ตลอดจนงบประมาณที่จะต้องใช้ในการลงทุน ซึ่งมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการวิจัย และสร้างนวัตกรรมให้กับผลิตภัณฑ์ใหม่ พัฒนาศักยภาพของบุคลากร เพิ่มทักษะ และประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตให้สามารถรองรับการเติบโตในอนาคต และที่สำคัญคือบริษัทฯ ยังคงมองหาพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องในการขยายธุรกิจ เพื่อเป็นปัจจัยที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศไทย จำนวน 3 บริษัท โดยเป็นความร่วมมือกับพันธมิตรจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 3 ราย เพื่อผลิต และประกอบไส้กรองระบบกรองน้ำ, ผลิตและประกอบหม้อแปลง (Transformer) สำหรับระบบกรองน้ำ, ผลิตและประกอบอุปกรณ์ Booster pump สำหรับระบบกรองน้ำ เพื่อจัดจำหน่ายสำหรับตลาดในประเทศไทย และต่างประเทศ
“ในอีก 3 ปีต่อจากนี้จะเป็นปีที่มีความท้าทายอย่างมากกับ FTI ซึ่งเราเองก็ได้วางแผนธุรกิจอย่างรอบด้านเพื่อให้พร้อมกับการเติบโต ทั้งในด้านของการผลิตสินค้า การขยายสาขา การพัฒนานวัตกรรม การเพิ่มศักยภาพบุคลากร ซึ่งจะเห็นความคืบหน้าอย่างเป็นระบบ รวมถึงการมองหาพันธมิตรทางธุรกิจก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราให้ความสำคัญมาโยตลอด และยังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อยกระดับมาตรฐาน และสร้างการเติบโตที่มั่นคง รวมถึงสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำในเรื่องของน้ำทั้งในระดับประเทศ และระดับสากล” ดร.วิกรกล่าว
ดร.วิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ FTI เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนในการขยายธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้า ตั้งแต่ปี 2567-2569 โดยมีเป้าหมายรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ในปี 2567 มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท ในปี 2568 และมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,450 ล้านบาท ในปี 2569 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20% ในส่วนของปี 2566 นี้ คาดว่าจะมีรายได้มากกว่า 800 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะใช้กลยุทธ์ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องมากกว่า 10 ผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องกรองน้ำ ชุดกรองน้ำ ระบบผลิตน้ำอ่อน ชุดกรองน้ำที่สามารถใช้คู่กับฝักบัวอาบน้ำ ระบบบริหารจัดการน้ำอุตสาหกรรม เป็นต้น และการเดินหน้าขยายสาขา Water Stores เป็น 24 สาขาจากในปัจจุบันมีจำนวน 22 สาขา เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าขายส่งเพื่อผู้ประกอบอาชีพระบบกรองน้ำ และครัวเรือนทั่วไป และการขยายสาขา Aquatek Shops เป็น 50 สาขา จากในปัจจุบันมีจำนวน 8 สาขา ขยายกลุ่มลูกค้าครัวเรือนระดับ High End ที่มี Life Style ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ทั่วประเทศ รวมถึงการเปิดตัว “ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอด” ในการเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของแบรนด์ Aquatek เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำกิจกรรม และการสื่อสารทางการตลาดให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายของบริษัทฯ ให้เติบโตขึ้นในอนาคต
ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าในการศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วน และอุปกรณ์ระบบกรองน้ำ รวมถึงขยายอาคารคลังสินค้าของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสถานะในด้านต่าง ๆ ก่อนการเข้าลงทุน ได้แก่ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง, เครื่องจักร, วัตถุดิบ, ผลิตภัณฑ์ ตลอดจนงบประมาณที่จะต้องใช้ในการลงทุน ซึ่งมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการวิจัย และสร้างนวัตกรรมให้กับผลิตภัณฑ์ใหม่ พัฒนาศักยภาพของบุคลากร เพิ่มทักษะ และประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตให้สามารถรองรับการเติบโตในอนาคต และที่สำคัญคือบริษัทฯ ยังคงมองหาพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องในการขยายธุรกิจ เพื่อเป็นปัจจัยที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศไทย จำนวน 3 บริษัท โดยเป็นความร่วมมือกับพันธมิตรจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 3 ราย เพื่อผลิต และประกอบไส้กรองระบบกรองน้ำ, ผลิตและประกอบหม้อแปลง (Transformer) สำหรับระบบกรองน้ำ, ผลิตและประกอบอุปกรณ์ Booster pump สำหรับระบบกรองน้ำ เพื่อจัดจำหน่ายสำหรับตลาดในประเทศไทย และต่างประเทศ
“ในอีก 3 ปีต่อจากนี้จะเป็นปีที่มีความท้าทายอย่างมากกับ FTI ซึ่งเราเองก็ได้วางแผนธุรกิจอย่างรอบด้านเพื่อให้พร้อมกับการเติบโต ทั้งในด้านของการผลิตสินค้า การขยายสาขา การพัฒนานวัตกรรม การเพิ่มศักยภาพบุคลากร ซึ่งจะเห็นความคืบหน้าอย่างเป็นระบบ รวมถึงการมองหาพันธมิตรทางธุรกิจก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราให้ความสำคัญมาโยตลอด และยังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อยกระดับมาตรฐาน และสร้างการเติบโตที่มั่นคง รวมถึงสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำในเรื่องของน้ำทั้งในระดับประเทศ และระดับสากล” ดร.วิกรกล่าว