กระดานข่าว
ม.อ. ชูศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน ขับเคลื่อนภูเก็ตและอันดามันสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษ สร้างโมเดลเมืองท่องเที่ยวสมบูรณ์แบบระดับโลก
11 ตุลาคม 2566
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ร่วมสร้างโมเดลเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ปักธงศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน ขับเคลื่อนสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อสร้างการท่องเที่ยวมูลค่าสูง โดยจะนำเอารูปแบบการบริหารจัดการและนวัตกรรมใหม่ๆ ภูมิปัญญาไทย ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ฝั่งอันดามันก้าวสู่เมืองสุขภาพโลกหรือ Medical Hup การเป็นเมืองอัจฉริยะ การท่องเที่ยวเชิงกีฬา มุ่งสู่พื้นที่เป้าหมายของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหรือ World Class Destination

รศ. ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีวิทยาเขตภูเก็ต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเผยว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของรัฐบาลชุดใหม่ ที่กำหนดกรอบการพัฒนาการท่องเที่ยวภาคใต้ ผ่านแนวทางการสร้างเมืองท่องเที่ยวระดับโลกเวอร์ชั่นสมบูรณ์ในจังหวัดภูเก็ต และฝั่งอันดามันนั้น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดภูเก็ต ร่วมวางแผนขับเคลื่อนการท่องเที่ยวให้จังหวัดภูเก็ตและพื้นที่กลุ่มจังหวัดอันดามัน เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ตอบโจทย์การท่องเที่ยวมูลค่าสูง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมาได้นำเสนอแผนอย่างเป็นรูปธรรม ภายหลังนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในช่วงที่มีการลงพื้นที่ภาคใต้ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา
สำหรับยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและอันดามันนั้นมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการท่องเที่ยวมูลค่าสูง ผ่านการดำเนินงานโครงการจัดตั้งศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน โดยจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการผลักดันการท่องเที่ยวมูลค่าสูงให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านการสานต่อภูมิปัญญาของคนไทย สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและอาหาร พร้อมผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตและพื้นที่อันดามันเป็นเมืองการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) และก้าวสู่เมดิคัลฮับ (Medical Hub) ศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (Wellness) ของประเทศไทยและของภูมิภาค ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่อันดามันมีรายได้ที่หลากหลาย ลดการพึ่งพารายได้หลักจากการท่องเที่ยวแบบเดิมๆ เพียงอย่างเดียวเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันจะมุ่งสนับสนุนให้จังหวัดภูเก็ตก้าวไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะหรือ Smart City โดย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตภูเก็ต ได้นำระบบบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data ทั้งของทางภาครัฐและภาคเอกชน มาวิเคราะห์เพื่อวางแผนและตัดสินใจในเชิงการบริหารจัดการเมืองให้มีประสิทธิภาพ พร้อมกับการสนับสนุนความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศตลอดจนวางโครงสร้างพื้นฐาน ดิจิทัล (Digital Infrastructure) ให้มีความเหมาะสมกับเมือง เช่น ระบบจราจร การจัดการระบบบริหารแพลตฟอร์มต่างๆ การจัดการบริหารขยะและคุณภาพของอากาศ และการดูแลรักษาผู้ป่วยทางไกลหรือ Telemedicine
รศ. ดร.พันธ์ ทองชุมนุม กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมกลุ่มชุมชนให้มีรายได้ที่มั่งคงและสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนผักลิ้นห่าน ที่พบว่าชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 3,000 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน โดยการนำเอาผักพื้นเมืองที่เป็นอัตลักษณ์ของชุมชนที่มีอยู่เดิมมาสร้างมูลค่าเพิ่ม นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมให้ชุมชนมีการเลี้ยงปลาช่อนทะเล ซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมมาสู่การพัฒนาและใช้เทคโนโลยี ทำให้ชุมชนมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ยังไปมีส่วนในการส่งเสริมด้านการตลาดโดยการจัดกิจกรรมระหว่างผู้ซื้อกับผู้บริโภคได้มาพบกัน
“มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต พร้อมนำองค์ความรู้ของบุคลากรที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านการบริหารจัดการ การท่องเที่ยว วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์สุขภาพ ตลอดจนงานวิจัยและนวัตกรรมที่มหาวิทยาลัยเชี่ยวชาญ มาร่วมสร้างโมเดลเมืองท่องเที่ยวระดับโลกเวอร์ชันสมบูรณ์ เพื่อให้จังหวัดภูเก็ตและพื้นที่กลุ่มจังหวัดอันดามัน เป็นพื้นที่เป้าหมายในการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหรือ World Class Destination ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงมาสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย และที่สำคัญเป็นส่วนหนึ่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน” รศ. ดร.พันธ์ ทองชุมนุม กล่าว

รศ. ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีวิทยาเขตภูเก็ต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเผยว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของรัฐบาลชุดใหม่ ที่กำหนดกรอบการพัฒนาการท่องเที่ยวภาคใต้ ผ่านแนวทางการสร้างเมืองท่องเที่ยวระดับโลกเวอร์ชั่นสมบูรณ์ในจังหวัดภูเก็ต และฝั่งอันดามันนั้น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดภูเก็ต ร่วมวางแผนขับเคลื่อนการท่องเที่ยวให้จังหวัดภูเก็ตและพื้นที่กลุ่มจังหวัดอันดามัน เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ตอบโจทย์การท่องเที่ยวมูลค่าสูง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมาได้นำเสนอแผนอย่างเป็นรูปธรรม ภายหลังนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในช่วงที่มีการลงพื้นที่ภาคใต้ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา
สำหรับยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและอันดามันนั้นมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการท่องเที่ยวมูลค่าสูง ผ่านการดำเนินงานโครงการจัดตั้งศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน โดยจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการผลักดันการท่องเที่ยวมูลค่าสูงให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านการสานต่อภูมิปัญญาของคนไทย สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและอาหาร พร้อมผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตและพื้นที่อันดามันเป็นเมืองการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) และก้าวสู่เมดิคัลฮับ (Medical Hub) ศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (Wellness) ของประเทศไทยและของภูมิภาค ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่อันดามันมีรายได้ที่หลากหลาย ลดการพึ่งพารายได้หลักจากการท่องเที่ยวแบบเดิมๆ เพียงอย่างเดียวเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันจะมุ่งสนับสนุนให้จังหวัดภูเก็ตก้าวไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะหรือ Smart City โดย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตภูเก็ต ได้นำระบบบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data ทั้งของทางภาครัฐและภาคเอกชน มาวิเคราะห์เพื่อวางแผนและตัดสินใจในเชิงการบริหารจัดการเมืองให้มีประสิทธิภาพ พร้อมกับการสนับสนุนความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศตลอดจนวางโครงสร้างพื้นฐาน ดิจิทัล (Digital Infrastructure) ให้มีความเหมาะสมกับเมือง เช่น ระบบจราจร การจัดการระบบบริหารแพลตฟอร์มต่างๆ การจัดการบริหารขยะและคุณภาพของอากาศ และการดูแลรักษาผู้ป่วยทางไกลหรือ Telemedicine
รศ. ดร.พันธ์ ทองชุมนุม กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมกลุ่มชุมชนให้มีรายได้ที่มั่งคงและสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนผักลิ้นห่าน ที่พบว่าชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 3,000 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน โดยการนำเอาผักพื้นเมืองที่เป็นอัตลักษณ์ของชุมชนที่มีอยู่เดิมมาสร้างมูลค่าเพิ่ม นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมให้ชุมชนมีการเลี้ยงปลาช่อนทะเล ซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมมาสู่การพัฒนาและใช้เทคโนโลยี ทำให้ชุมชนมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ยังไปมีส่วนในการส่งเสริมด้านการตลาดโดยการจัดกิจกรรมระหว่างผู้ซื้อกับผู้บริโภคได้มาพบกัน
“มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต พร้อมนำองค์ความรู้ของบุคลากรที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านการบริหารจัดการ การท่องเที่ยว วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์สุขภาพ ตลอดจนงานวิจัยและนวัตกรรมที่มหาวิทยาลัยเชี่ยวชาญ มาร่วมสร้างโมเดลเมืองท่องเที่ยวระดับโลกเวอร์ชันสมบูรณ์ เพื่อให้จังหวัดภูเก็ตและพื้นที่กลุ่มจังหวัดอันดามัน เป็นพื้นที่เป้าหมายในการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหรือ World Class Destination ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงมาสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย และที่สำคัญเป็นส่วนหนึ่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน” รศ. ดร.พันธ์ ทองชุมนุม กล่าว
ยอดนิยม

VIH ซื้อหุ้นคืน 26.66 ล้านหุ้น ใช้เงินสดส่วนเกิน ยืนยันไม่เกี่ยวเงินเพิ่มทุน สาเหตุราคาหุ้นไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน ตั้งเป้าทำนิวไฮใหม่ปีนี้

13 มีนาคมนี้!!! ผู้ถือหุ้น MC รับเงินปันผลบานฉ่ำ !!!
.jpg)
“นิปปอนเพนต์” ก้าวล้ำวงการสีด้วยพลัง AI! ส่งสุดยอดแพ็กคู่โซลูชัน “น้องนิปปอน” และ “Colour Design”

เบเยอร์ เขย่าวงการธุรกิจสีทาอาคาร สำเร็จเจ้าแรก! ใช้เทคโนโลยีล้ำ AI OCR อ่านบิลเขียนมือได้ รันแคมเปญใหญ่ "ลดเดือดรับ Summer แจกไม่ยั้ง!"
