Wealth Sharing

“บล.พาย”คาดสัปดาห์นี้กรอบดัชนีหุ้น 1645 – 1675 จุด เน้นเกาะติดตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯเป็นปัจจัยหลัก


13 กุมภาพันธ์ 2566
บทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ “Pi” “พาย” มองว่า ตลาดหุ้น Dow Jones ปิดบวก 0.5% หลังจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐฯออกมาดี แต่ NASDAQ ปรับตัวลดลงเนื่องจากกังวลกับภาวะดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ ด้านราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับเพิ่มขึ้น 2.2% หลังจากรัสเซียประกาศจะลดกำลังการผลิตลง 5 แสนบาร์เรล / วัน
บล.พาย คาดสัปดาห์นี้.jpg
สัปดาห์นี้นักลงทุนทั่วโลกจะให้น้ำหนักมากสุดกับเงินเฟ้อสหรัฐฯ ทราบผลทางการช่วง 20.30 ของเวลาประเทศไทย Bloomberg ประเมินไว้ที่ 6.2%YoY หากประกาศมาแล้วต่ำกว่าตลาดคาดการณ์มองเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นต่อตลาดหุ้น เนื่องจากปัจจุบันถือว่าตลาดหุ้นโลก Price In การผ่อนคลายเงินเฟ้อไประดับนึงแล้วแต่หากสูงกว่าตลาดประเมินไว้จะเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น 

ทั้งนี้เราตั้งข้อสังเกตสำหรับเงินเฟ้อสหรัฐฯข้อมูลในอดีตบ่งชี้ว่าหากตลาดหุ้น S&P500 ก่อนประกาศเงินเฟ้อ 3 วันทำการให้ผลตอบแทนติดลบอาจมีความเป็นไปได้ที่เงินเฟ้อสหรัฐฯจะออกมาสูงกว่าตลาดประเมินไว้ ซึ่งหากประเมินผลตอบแทน S&P500 ย้อนกลับไป 3 วันทำการให้ผลตอบแทนที่ -1.7% ก็อาจจะพอประเมินได้ว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯมีความเสี่ยงที่จะสูงกว่าตลาดประเมินไว้ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น ถัดไปติดตามยอดค้าปลีกในสหรัฐฯมีกำหนดรายงานในวันพุธ Bloomberg คาดการณ์ขยายตัว 1.7%MoM และวันพฤหัสบดีกับตัวเลข PPI หรือดัชนีราคาผู้ผลิต Bloomberg ประเมินไว้ที่ 0.4%MoM ส่วนในประเทศจะมีกำหนดรายงาน GDP 4Q22 ในวันศุกร์ Bloomberg ประเมินไว้ที่ 3.6%YoY 0.6%QoQ หากรายงานสูงกว่าตลาดประเมินไว้จะเป็นบวกเชิงจิตวิทยาต่อตลาดหุ้น อื่นๆติดตามการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 4Q22 ที่จะทยอยประกาศออกมา 

สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1645 – 1675 ยังประเมินเช่นเดิมว่า Upside ตลาดยังจำกัดเพราะรับรู้ปัจจัยบวกไปพอสมควรแล้ว ขณะที่เงินเฟ้อเสมือนกับว่าจะกลับมาเป็นปัจจัยกดดันหรือเป็นปัจจัยที่ตลาดให้ความสำคัญอีกครั้ง สะท้อนผ่านการปรับขึ้นมาของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 , 10 ปี ขณะเดียวกันนักลงทุนต่างชาติก็ขายสุทธิต่อเนื่องพร้อมกับ Short TFEX เชิงกลยุทธ์ยังเน้นเพียงแค่ Trading สำหรับ SET INDEX โซนปัจจุบันและเน้นเลือหุ้นที่มีปัจจัยบวก อาทิ พลังงาน (PTTEP) ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น กลุ่มค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) สื่อสาร (ADVANC) ขนส่ง (BEM) โรงพยาบาล (BCH BDMS CHG) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF RATCH)

PTTEP (ถือ / ราคาเป้าหมาย 175.00 บาท)

คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/23 ยังแข็งแกร่งด้วยการเติบโต QoQ จากการขาดหายไปของขาดทุนพิเศษครั้งเดียว แต่กำไรปกติจะอ่อนตัว QoQ เพราะปริมาณขายที่ลดลง (-6% QoQ อิงแนวทางผู้บริหารที่ 472kboed สำหรับไตรมาส 1/23)
MEGA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 60.00 บาท)

คาดกำไรปกติไตรมาส 4/22 ที่ 530 ล้านบาท (+13%YoY, -21%QoQ) การเติบโต YoY หนุนจากรายได้ทุกกลุ่มและอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ปรับเพิ่มขึ้น หนุนจากส่วนแบ่งการขายที่เป็นใจ ส่วนที่ลดลง QoQ คาดเพราะฐานสูง