จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : SFLEX เปิดกลยุทธ์ “จับมือพันธมิตร” ดันผลงานนิวไฮต่อเนื่อง
16 ตุลาคม 2566
ผู้บริหาร บมจ. SFLEX เดินหน้ากลยุทธ์จับมือกับพันธมิตร สร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจ ตั้งเป้าภายในปี 2570 รายได้ทะลุ 6,000 ล้านบาท
ปัจจุบันการมีพันธมิตรในการทำธุรกิจมีความสำคัญอย่างมาก โดยจะเห็นว่าหลังการระบาดของโควิด 19 หลายธุรกิจได้มีการร่วมมือกัน เพื่อสร้างการเติบโตและความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ รวมทั้ง บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) ซึ่ง “สมโภชน์ วัลยะเสวี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุ บริษัทวางแผนการดำเนินธุรกิจในระยะยาวเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ผ่านกลยุทธ์บันได 3 ขั้น
ได้แก่ บันไดขั้นที่ 1 คือการ Joint Venture กับกลุ่มผู้ผลิตอาหารทะเลรายใหญ่ที่มีการวางจำหน่ายสินค้าไปทั่วโลก ซึ่งภายหลังการ Synergy ทำให้ SFLEX สามารถรับรู้ Megatrend ของการใช้บรรจุภัณฑ์อาหารจากลูกค้าของหุ้นส่วนทั่วโลก และมองเห็นโอกาสการเติบโตในตลาดบรรจุภัณฑ์อาหารได้อีกมาก พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และก้าวสู่การเป็นผู้นำบรรจุภัณฑ์ด้านอาหารในระยะเวลาอันสั้น
บันไดขั้นที่ 2 การจับมือกับบริษัทบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่ ซึ่งก่อให้เกิดการ Synergy ในหลายมิติ ทั้งเป็นการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าบรรจุภัณฑ์ให้มากขึ้น สร้างโอกาสของผลิตภัณฑ์เดิมที่จะขยายสู่ตลาดโลก โดยผ่านฐานลูกค้าเดิม สามารถใช้ความได้เปรียบเชิงพื้นที่ (Locational Advantage) ในการจัดหาแหล่งวัตถุดิบต้นทุนต่ำ และสุดท้ายเกิดความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนในอนาคต
และบันไดขั้นที่ 3 การหา Partner ที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมต้นน้ำ เพื่อสร้างนวัตกรรมในการผลิตและวัตถุดิบที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งสามารถบรรลุจุดมุ่งหมายของบริษัทฯ ในการสร้าง Common Spec ของวัตถุดิบที่สามารถใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการวัตถุดิบ และสุดท้ายบริษัทฯ สามารถลดต้นทุนวัตถุดิบได้ในระยะยาว
ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ เดินทางผ่านบันได 2 ขั้นเรียบร้อยแล้ว และกำลังมุ่งหน้าสู่ขั้นที่ 3 โดยเดินหน้าศึกษาหาบริษัทต้นน้ำที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากบรรลุจุดมุ่งหมายทั้ง 3 ขั้นแล้ว เชื่อมั่นว่าจะเป็นแนวทางสำคัญที่ผลักดันให้บริษัทฯ มีความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านภายในปี 70 นำไปสู่ความยั่งยืนในอนาคตอย่างถาวร
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 66 บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถเดินทางสู่เป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดการณ์รายได้อยู่ที่ประมาณ 1,800-1,850 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากกลยุทธ์การขยายตลาดเชิงรุกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูง อีกทั้งการวางแผนบริหารพอร์ตสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ บริหารจัดการวัตถุดิบอย่างเป็นระบบร่วมกับ Supplier ทั้งในและต่างประเทศไว้อย่างดี ประกอบกับกำลังการผลิตที่สูงขึ้นจะช่วยลดต้นทุนคงที่ต่อหน่วย
ขณะที่นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิจัย บล.บัวหลวง คาดการณ์ผลงาน Q3และ Q4/66 จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากยอดขายที่ขยายตัว และมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ Q4/66 จะเติบโตโดดเด่น เพราะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก ธุรกิจแพ็จเกจจิ้งในเวียดนาม ใน SPV (SFLEX ถือหุ้น 25%) เต็มไตรมาสครั้งแรก โดยคาดปี 66-67 SPV มีกำไรที่ 124 ล้านบาท และ 136 ล้านบาท ตามลำดับ
รวมถึงมีโอกาสเห็นการทำดีล M&A ใหม่ๆต่อเนื่องอีกด้วย ดังนั้นคาด 3 ปีข้างหน้า (66-68) กำไรสุทธิจะทำนิวไฮต่อเนื่องที่ 186 ล้านบาท เติบโต 237% , 246 ล้านบาท เติบโต 32% และ 277 ล้านบาท เติบโต 12% ตามลำดับ แนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 6.35 บาท