TRP ปิดจองซื้อหุ้น IPO ขายหมดเกลี้ยง 90 ล้านหุ้น นักลงทุนตอบรับอย่างล้นหลามสะท้อนความมั่นใจในศักยภาพธุรกิจและการเติบโตในระยะยาว คาดนำหุ้นเข้าเทรดบนกระดาน mai 24 ตุลาคม 2566 รองรับการขยายตัวทางธุรกิจ มุ่งสู่การเป็นโรงพยาบาลตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลด้านคลินิกเวชกรรม ภายใต้ชื่อ ธีรพรคลินิก ที่ให้บริการศัลยกรรมความงามบนใบหน้าแก่บุคคลทั่วไป เปิดเผยผลการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 14 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) เท่ากับ 21.12 เท่า ระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ผ่าน 6 บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน), บริษัท หลักทรัพย์อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) กระแสตอบรับแรงเกินคาด นักลงทุนให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยมและแสดงความสนใจจองซื้อเข้ามาเกินกว่าคาดหมาย ด้วยความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท และมองเห็นศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้นำการให้บริการศัลยกรรมความงามเฉพาะบนใบหน้าแก่บุคคลทั่วไป โดยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า ด้วยนวัตกรรมการผ่าตัดที่เป็นเทคนิคเฉพาะของธีรพร เช่น การทำศัลยกรรมดึงหน้า (FACE-LOCK), การผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น (EYE-LOCK) และการเสริมจมูกด้วยไขมันตัวเอง (FAT STEM CELL) ที่คิดค้น วิจัยและพัฒนา โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ มาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา รวมถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (2563-2565) บริษัทมีรายได้รวม 221.60 ล้านบาท 427.76 ล้านบาท และ 854.07 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 37.15 ล้านบาท 112.68 ล้านบาท และ 270.27 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก ในปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 369.05 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 105.48 ล้านบาท
ทั้งนี้ TRP คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ (Service) ในวันที่ 24 ตุลาคม 2566 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า “TRP”
ด้าน ผู้ช่วยศาตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP กล่าวว่า ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพและการเติบโตของบริษัท ทำให้การจองซื้อหุ้น IPO ในช่วงที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ และสามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยจะเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จำนวนประมาณ 1,215.28 ล้านบาท (ภายหลังหักค่าใช้จ่ายการเสนอขาย) ไปก่อสร้างโรงพยาบาลตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย จำนวน 450 ล้านบาท, การจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ 80 ล้านบาท, ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 95.44 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ การลงทุนอื่นๆ และการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต
“ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่าน ที่ให้ความสนใจจองซื้อหุ้น TRP อย่างล้นหลาม สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท และการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ครั้งนี้ นับเป็นก้าวที่สำคัญในการขยายธุรกิจ TRP ให้แข็งแกร่ง และต่อยอดธุรกิจให้สามารถรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนตามกลยุทธ์ที่กำหนด ในการเป็นผู้ให้บริการศัลยกรรมเฉพาะใบหน้าชั้นนำของประเทศไทย โดยเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในการเข้าซื้อขายในตลาด mai วันแรก” ผู้ช่วยศาตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ กล่าว
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลด้านคลินิกเวชกรรม ภายใต้ชื่อ ธีรพรคลินิก ที่ให้บริการศัลยกรรมความงามบนใบหน้าแก่บุคคลทั่วไป เปิดเผยผลการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 14 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) เท่ากับ 21.12 เท่า ระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ผ่าน 6 บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน), บริษัท หลักทรัพย์อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) กระแสตอบรับแรงเกินคาด นักลงทุนให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยมและแสดงความสนใจจองซื้อเข้ามาเกินกว่าคาดหมาย ด้วยความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท และมองเห็นศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้นำการให้บริการศัลยกรรมความงามเฉพาะบนใบหน้าแก่บุคคลทั่วไป โดยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า ด้วยนวัตกรรมการผ่าตัดที่เป็นเทคนิคเฉพาะของธีรพร เช่น การทำศัลยกรรมดึงหน้า (FACE-LOCK), การผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น (EYE-LOCK) และการเสริมจมูกด้วยไขมันตัวเอง (FAT STEM CELL) ที่คิดค้น วิจัยและพัฒนา โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ มาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา รวมถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (2563-2565) บริษัทมีรายได้รวม 221.60 ล้านบาท 427.76 ล้านบาท และ 854.07 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 37.15 ล้านบาท 112.68 ล้านบาท และ 270.27 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก ในปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 369.05 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 105.48 ล้านบาท
ทั้งนี้ TRP คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ (Service) ในวันที่ 24 ตุลาคม 2566 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า “TRP”
ด้าน ผู้ช่วยศาตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP กล่าวว่า ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพและการเติบโตของบริษัท ทำให้การจองซื้อหุ้น IPO ในช่วงที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ และสามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยจะเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จำนวนประมาณ 1,215.28 ล้านบาท (ภายหลังหักค่าใช้จ่ายการเสนอขาย) ไปก่อสร้างโรงพยาบาลตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย จำนวน 450 ล้านบาท, การจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ 80 ล้านบาท, ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 95.44 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ การลงทุนอื่นๆ และการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต
“ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่าน ที่ให้ความสนใจจองซื้อหุ้น TRP อย่างล้นหลาม สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท และการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ครั้งนี้ นับเป็นก้าวที่สำคัญในการขยายธุรกิจ TRP ให้แข็งแกร่ง และต่อยอดธุรกิจให้สามารถรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนตามกลยุทธ์ที่กำหนด ในการเป็นผู้ให้บริการศัลยกรรมเฉพาะใบหน้าชั้นนำของประเทศไทย โดยเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในการเข้าซื้อขายในตลาด mai วันแรก” ผู้ช่วยศาตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ กล่าว