"บมจ. เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท หรือ SCL" หนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ของประเทศไทย จัดงานโรดโชว์สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนและผู้สนใจร่วมรับฟังการนำเสนอข้อมูลสรุปการเสนอขายหุ้น IPO 70 ล้านหุ้น เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เร็วๆ นี้ โชว์วิสัยทัศน์ หุ้นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์รายแรกในตลาดทุน เงินระดมทุนใช้รองรับการขยายธุรกิจ
นายสกล ตั้งก่อสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SCL เปิดเผยว่า บริษัทฯ จัดงานโรดโชว์วันนี้ เพื่อให้นักลงทุนได้รับทราบเกี่ยวกับรายละเอียดของการดำเนินธุรกิจ จุดเด่น และโอกาสการเติบโตของบริษัทฯ ก่อนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวน 70 ล้านหุ้น และจะเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะสนับสนุนให้ SCL เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ย้ำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจกว่า 58 ปี พร้อมเดินหน้าระดมทุน ด้วยเป้าหมายในการเป็นศูนย์รวมอะไหล่รถยนต์อย่างครบวงจร ด้วยการเพิ่มชนิดของผลิตภัณฑ์ที่จัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง โดยการมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ขายชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง รวมถึงการขยายขอบเขตของกลุ่มผลิตภัณฑ์ไปยังชิ้นส่วนอะไหล่ของยานพาหนะชนิดอื่น เช่น รถเพื่อการเกษตร เป็นต้น เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าและรองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค
โดย SCL เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจร สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์เพื่อการทดแทน (Replacement Equipment Manufacturer: REM) เพื่อทดแทนชิ้นส่วนยานยนต์ที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน โดยมีผลิตภัณฑ์อะไหล่ มากกว่า 167,000 รายการ ครอบคลุมหลากหลายค่ายรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์อะไหล่รถยนต์ภายใต้ตราสินค้าของค่ายรถยนต์ต่างๆ เช่น ISUZU, MITSUBISHI, TOYOTA, HONDA, FUSO, FORD, NISSAN และ CHEVROLET ซึ่งมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ประมาณ 88% นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่ทดแทนที่ได้มาตรฐานของผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับ เช่น AISIN, KAYABA, EXEDY, DENSO และ TOKICO ซึ่งมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ประมาณ 12% พร้อมตอบโจทย์ลูกค้าทั่วประเทศ ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 1,600 ราย
บริษัทฯ มีโครงการในอนาคต ในการก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่พื้นที่คลังสินค้าประมาณ 2,000 ตร.ม. เพื่อรองรับการจัดเก็บสินค้าได้เพิ่มขึ้น 50% โดยคาดว่าการก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่จะเริ่มในปี 2567-2568 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568-2569 โดยคลังสินค้าแห่งใหม่จะช่วยสนับสนุนการให้บริการลูกค้าที่สะดวกและรวดเร็วขึ้น รวมถึงรองรับปริมาณสินค้าคงเหลือที่จะเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของบริษัทฯในอนาคต นี้
ด้าน นายธีระยุทธ์ รัตนโพธิ์แสงศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบัญชีและการเงิน กล่าวเสริมถึง ภาพรวมผลประกอบการ 3 ปีที่ผ่านมา (ในปี 2563 - 2565) SCL มีรายได้จากการขายเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 5.11% อยู่ที่ 1,224.27 ล้านบาท 1,256.85 ล้านบาท และ 1,352.61 ล้านบาท ตามลำดับ มีกำไรสุทธิ 22.03 ล้านบาท 27.32 ล้านบาท และ 39.91 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ ผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้จากการขาย 738.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.91% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 11.78 ล้านบาท
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เปิดเผยว่า หลังจากที่เราได้นำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุน ต้องขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความสนใจ SCL ซึ่งนับเป็นหุ้นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์รายใหญ่ของประเทศไทย และเป็นรายแรกในตลาดทุน ด้วยพื้นฐานของธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง มีจุดเด่น ในการเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจกว่า 58 ปี ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายและครบวงจร ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่ายอะไหล่รายใหญ่ของ ISUZU และผลิตภัณฑ์อะไหล่อื่นที่เป็นที่นิยมในประเทศ ทำให้ SCL มีศักยภาพในการเติบโตตามจำนวนรถยนต์สะสมในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของ SCL เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จำนวน 70,000,000 หุ้นคิดเป็น 28% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้ (par) 0.50 บาท ต่อหุ้น เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจ (sector) สินค้าอุตสาหกรรม (INDUS) โดยมีวัตถุประสงค์การระดมทุนเพื่อใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการดำเนินงานของบริษัทฯ ด้วยเป้าหมายในการเป็นศูนย์รวมอะไหล่รถยนต์อย่างครบวงจร
นายสกล ตั้งก่อสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SCL เปิดเผยว่า บริษัทฯ จัดงานโรดโชว์วันนี้ เพื่อให้นักลงทุนได้รับทราบเกี่ยวกับรายละเอียดของการดำเนินธุรกิจ จุดเด่น และโอกาสการเติบโตของบริษัทฯ ก่อนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวน 70 ล้านหุ้น และจะเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะสนับสนุนให้ SCL เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ย้ำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจกว่า 58 ปี พร้อมเดินหน้าระดมทุน ด้วยเป้าหมายในการเป็นศูนย์รวมอะไหล่รถยนต์อย่างครบวงจร ด้วยการเพิ่มชนิดของผลิตภัณฑ์ที่จัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง โดยการมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ขายชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง รวมถึงการขยายขอบเขตของกลุ่มผลิตภัณฑ์ไปยังชิ้นส่วนอะไหล่ของยานพาหนะชนิดอื่น เช่น รถเพื่อการเกษตร เป็นต้น เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าและรองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค
โดย SCL เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจร สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์เพื่อการทดแทน (Replacement Equipment Manufacturer: REM) เพื่อทดแทนชิ้นส่วนยานยนต์ที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน โดยมีผลิตภัณฑ์อะไหล่ มากกว่า 167,000 รายการ ครอบคลุมหลากหลายค่ายรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์อะไหล่รถยนต์ภายใต้ตราสินค้าของค่ายรถยนต์ต่างๆ เช่น ISUZU, MITSUBISHI, TOYOTA, HONDA, FUSO, FORD, NISSAN และ CHEVROLET ซึ่งมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ประมาณ 88% นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่ทดแทนที่ได้มาตรฐานของผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับ เช่น AISIN, KAYABA, EXEDY, DENSO และ TOKICO ซึ่งมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ประมาณ 12% พร้อมตอบโจทย์ลูกค้าทั่วประเทศ ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 1,600 ราย
บริษัทฯ มีโครงการในอนาคต ในการก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่พื้นที่คลังสินค้าประมาณ 2,000 ตร.ม. เพื่อรองรับการจัดเก็บสินค้าได้เพิ่มขึ้น 50% โดยคาดว่าการก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่จะเริ่มในปี 2567-2568 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568-2569 โดยคลังสินค้าแห่งใหม่จะช่วยสนับสนุนการให้บริการลูกค้าที่สะดวกและรวดเร็วขึ้น รวมถึงรองรับปริมาณสินค้าคงเหลือที่จะเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของบริษัทฯในอนาคต นี้
ด้าน นายธีระยุทธ์ รัตนโพธิ์แสงศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบัญชีและการเงิน กล่าวเสริมถึง ภาพรวมผลประกอบการ 3 ปีที่ผ่านมา (ในปี 2563 - 2565) SCL มีรายได้จากการขายเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 5.11% อยู่ที่ 1,224.27 ล้านบาท 1,256.85 ล้านบาท และ 1,352.61 ล้านบาท ตามลำดับ มีกำไรสุทธิ 22.03 ล้านบาท 27.32 ล้านบาท และ 39.91 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ ผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้จากการขาย 738.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.91% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 11.78 ล้านบาท
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เปิดเผยว่า หลังจากที่เราได้นำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุน ต้องขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความสนใจ SCL ซึ่งนับเป็นหุ้นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์รายใหญ่ของประเทศไทย และเป็นรายแรกในตลาดทุน ด้วยพื้นฐานของธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง มีจุดเด่น ในการเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจกว่า 58 ปี ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายและครบวงจร ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่ายอะไหล่รายใหญ่ของ ISUZU และผลิตภัณฑ์อะไหล่อื่นที่เป็นที่นิยมในประเทศ ทำให้ SCL มีศักยภาพในการเติบโตตามจำนวนรถยนต์สะสมในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของ SCL เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จำนวน 70,000,000 หุ้นคิดเป็น 28% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้ (par) 0.50 บาท ต่อหุ้น เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจ (sector) สินค้าอุตสาหกรรม (INDUS) โดยมีวัตถุประสงค์การระดมทุนเพื่อใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการดำเนินงานของบริษัทฯ ด้วยเป้าหมายในการเป็นศูนย์รวมอะไหล่รถยนต์อย่างครบวงจร