จิปาถะ

‘พีระพันธุ์’ ชง ครม. หั่นราคาโซฮอล์ 91 ลง 2.50 บ. ดันพ.ร.บ.น้ำมันถูกเพื่อเกษตรกร


19 ตุลาคม 2566

‘พีระพันธุ์’ ชงครม. หั่นราคาโซฮอล์ 91 ลง 2.50 บ. ดันพ.ร.บ.น้ำมันถูกเพื่อเกษตรกร “สนั่น”มั่นใจเซลส์แมนเศรษฐาชวนจีนลงทุน-ท่องเที่ยวไทย

‘พีระพันธุ์’ ชง ครม. copy.jpg

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเปิดบ้านพิบูลธรรม สนทนา นโยบายพลังงาน เพื่อความมั่นคง เป็นธรรม และยั่งยืนสู่คนไทยทุกคน ว่า ภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม เห็นชอบให้ช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่ม ได้วางกรอบภายใน 2 สัปดาห์จากนี้จะนำเสนอมาตรการลดราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 อัตรา 2.50 บาทต่อลิตร เข้าสู่ ครม. หรือในวันที่ 31 ตุลาคม เพื่อช่วยลดค่าครองชีพประชาชน ส่วนแนวทางลดราคาจะใช้เวลา 1 สัปดาห์จากนี้

“สรุปว่าจะใช้เครื่องมือภาษีสรรพสามิตหรือกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือใช้ร่วมกันสาเหตุเลือกช่วยเหลือแก๊สโซฮอล์ 91 เพราะเป็นน้ำมันที่ราคาหน้าโรงกลั่นถูกที่สุด อยู่ที่ 22.21 บาทต่อลิตร และราคาขายปลีก ณ วันที่ 18 ตุลาคม อยู่ที่ 37.58 บาทต่อลิตร ประกอบกับเป็นน้ำมันที่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย อาทิ ผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ใช้มากที่สุด ขณะที่กำหนดลดลง 2.50 บาทต่อลิตร เพราะต้องการให้ลดไม่น้อยกว่าดีเซลที่ ครม.อนุมัติไปก่อนหน้านี้ โดยจะลดนาน 3 เดือนเช่นเดียวกับดีเซล”นายพีระพันธุ์กล่าว

นายพีระพันธุ์กล่าวว่า นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างยกร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อเกษตรกรและชาวประมง เพื่อจัดหาน้ำมันราคาถูกให้กลุ่มเกษตรกร ลักษณะคล้ายน้ำมันเขียวของชาวประมง คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้

“ราคาจะถูกลงเช่นเดียวกับน้ำมันเขียวประมง (ถูกกว่า 6 บาทต่อลิตร) ต้องพิจารณาความเหมาะสม วงเงินอุดหนุน จำนวนเกษตรกร และสีใดที่เหมาะสม แต่ถูกกว่าราคาขายปลีกทั่วไปแน่นอน โดยจะเสนอเข้าที่ประชุม ครม.เห็นชอบก่อน ยืนยันว่าจะพยายามดำเนินการให้เร็วที่สุดเพื่อให้เกษตรกรได้ใช้น้ำมันราคาถูกภายในปี 2566″นายพีระพันธุ์กล่าว

ขณะที่นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งร่วมคณะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 16-19 ตุลาคม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการร่วมหารือกับภาคธุรกิจจีนว่า ได้มีโอกาสพูดคุยอุปสรรคที่ไทยจะเข้ามาลงทุนในจีน ขณะเดียวกันทางฝ่ายจีนได้เห็นศักยภาพของไทยเป็นประเทศที่เป็นกลาง ปลอดภัยสำหรับนักลงทุน นอกจากยังหารือถึงการท่องเที่ยวซึ่งได้รับแจ้งว่าจีนมีความมั่นใจในการท่องเที่ยวประเทศไทย โดยเฉพาะการยกเว้นวีซ่าฟรีให้กับจีนได้รับความสะดวกในการเดินทางมาก

นายสนั่นกล่าวว่า รัฐบาลไทยมีความกระตือรือร้นทำงานในเชิงรุก โดยเฉพาะการเชิญชวนดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามาลงทุน และการที่นายเศรษฐาเข้าประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Coperration – BRF) ได้ตอกย้ำว่าประเทศไทยมีความยินดีต้อนรับชาวจีนเข้าไปลงทุนและไปท่องเที่ยว ขณะเดียวกันมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (CCPIT) ของจีน เพื่อสร้างเทรดแพลตฟอร์มซึ่งเป็นทั้งภาษาจีน ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ถือเป็นสิ่งที่ดี และจะมีการจัดงานแสดงสินค้าระหว่างสองประเทศ โดยวันที่ 28 ตุลาคมนี้ จีนจะมีการจัดงานเอ็กซ์โป ซึ่งตรงกับทางภาคอุตสาหกรรมและเป้าหมายของไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะให้คะแนนและความเชื่อมั่นกับเซลส์แมนที่ชื่อนายเศรษฐาอย่างไรบ้าง นายสนั่นกล่าวว่า “ถ้าพูดถึงเซลส์แมนที่ชื่อนายเศรษฐา ผมว่าให้เกินร้อยในเรื่องของความตั้งใจ”

ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_4239252