จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : “โลกร้อน-ความขัดแย้งทางการเมือง” ดันยอดใช้พลังงานทดแทนพุ่ง หนุน SSP


24 ตุลาคม 2566
สถานการณ์โลกร้อนและความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน ซึ่งกระตุ้นการใช้และการเติบโตของพลังงานทดแทนมีความต้องการมากขึ้น  หนุนธุรกิจบมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) ล่าสุดเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม  

รายงานพิเศษ “โลกร้อน-ความขัดแย้งทางการเมื.jpg

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน  ยอมรับว่า ราคาพลังงานในระยะต่อไปยังมีความผันผวนจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ , ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์   จึงจำเป็นต้องสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน เช่น การตั้งโรงไฟฟ้า  การไม่พึ่งพาเชื้อเพลิงอย่างหนึ่งอย่างใดมากเกินไป เพื่อกระจายความเสี่ยง และต้องกระจายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่  ทั้งพลังงานโซลาร์เซลล์, พลังงานสูบกลับ, พลังงานแบตเตอรี่, พลังงานชีวภาพ  

ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ   ซึ่งจำเป็นที่ไทยต้องเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทนในภูมิภาคให้ได้ จากปัจจุบันไทยอยู่ในอันดับที่ 4

แนวทางการเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทน หนุนการดำเนินงานของ บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP)  ที่ล่าสุดได้เข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม  โดย “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์”  ประธานเจ้าหน้าที่ SSP เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2566  ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ 

โดยทำรายการซื้อหุ้นทั้งหมดเพิ่มอีกใน บริษัท วินชัย จำกัด ด้วยมูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 2,322 ล้านบาท (ราคารวมเงินสดที่มีอยู่ทั้งหมดภายใน บริษัท วันชัย จำกัด) โดยคาดว่าจะเข้าทำรายการเพื่อให้ได้มาซึ่งหุ้นของวินชัย จำนวน 7,425,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 75% ภายในเดือนมกราคม 2567 ซึ่งจะทำให้ SSP ถือหุ้นรวมทั้งหมด คิดเป็น 100%
          
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม มีกำลังการผลิตติดตั้งตามสัญญารวม 45 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่จังหวัดมุกดาหาร เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 62 โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งมีอายุสัญญา 5 ปี ต่ออายุได้ครั้งละ 5 ปี (Evergreen Contract) และได้รับการสนับสนุนค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่ม (Adder) 3.5 บาทต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 10 ปีตั้งแต่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์
         
"การเข้าไปลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมของ SSP ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสที่สำคัญในการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนผ่านการลงทุนซื้อกิจการ (M&A) ที่อยู่ในแผนและกลยุทธ์ของบริษัทฯ ซึ่งโครงการดังกล่าวคาดว่าจะให้ผลตอบแทนที่สูง แข็งแกร่งในระยะยาว และเตรียมรับรู้รายได้เข้ามาทันที หลังทำธุรกรรมแล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค. 2567 หรือ ช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า "
          
ขณะเดียวกัน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ยังคงอันดับเครดิตองค์กร "BBB+" ด้วยอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงโรงไฟฟ้าของบริษัท จะยังมีผลการดำเนินงานที่ดี และประเมินว่า SSP มีสภาพคล่องที่เพียงพอ โดย ณ เดือนมิถุนายน 2566 บริษัทฯ มีเงินสดและเงินฝากธนาคาร 4.6 พันล้านบาท
          
นอกจากนี้ การที่บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่มีความแข็งแกร่ง ทำให้มีความพร้อมในการรองรับแผนการขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงการใช้กลยุทธ์ในการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาปิดดีลเพิ่มอีก และจะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนทำให้พอร์ตกำลังผลิตไฟฟ้าเติบโตเป็นเท่าตัวในอีก 3 ปีข้างหน้าแตะระดับ 500 เมกะวัตต์จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 241 เมกะวัตต์
          
SSP