จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : ITNS ขยายฐานลูกค้า “เช่าอุปกรณ์-งานบำรุงรักษา” ตั้งเป้าสร้างรายได้เติบโตยั่งยืน
24 ตุลาคม 2566
ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นอาวุธที่สำคัญในการแข่งขันโลกยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของทุกภาคอุตสาหกรรม จึงเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจของบมจ. อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม (ITNS) ซึ่งผู้บริหารมั่นใจปีนี้รายได้ยังทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง
“สมชาย อ่วมกระทุ่ม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม (ITNS) บริษัทผู้ประกอบการในธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยเป็นผู้ออกแบบและติดตั้งระบบเครือข่ายและระบบสื่อสารอย่างครบวงจร (System Integrator) พร้อมทั้งจำหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้ในงานเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร การให้บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษาอุปกรณ์ และการให้เช่าอุปกรณ์
มั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทฯ มีแผนส่งมอบงานโครงการใหญ่ให้กับภาคเอกชนมูลค่าประมาณ 120 ล้านบาท นอกจากนี้ มีปริมาณงานในมือ (Backlog)อยู่ที่ประมาณ 420 ล้านบาท และมีงานที่รอเซ็นสัญญาอีกประมาณ 55 ล้านบาท ทำให้เป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้ปีนี้ เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 25-30% และสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ขณะเดียวกัน บริษัทจะเร่งเพิ่มรายได้และกำไรจากธุรกิจ SI (System Integrator) และ MA (Maintenance) โดยเพิ่มการขยายฐานลูกค้า ขยายงานด้านการให้บริการบำรุงดูแลรักษา เพื่อเพิ่มผลกำไรให้มากขึ้นและสร้างความต่อเนื่องทางด้านรายได้ ขณะเดียวกัน มุ่งขยายธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ขยายการให้เช่าแก่ลูกค้าในกลุ่มที่ไม่ต้องการใช้เงินลงทุนจำนวนมากในการซื้อและติดตั้งอุปกรณ์เทคโนโลยี ขยายการให้เช่าแก่ลูกค้าในกลุ่มลูกค้าที่มีความกังวลปัญหาการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ขยายการให้เช่าแก่กลุ่มลูกค้าที่ฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด -19 เช่น กลุ่มโรงแรม ธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจการให้บริการ เป็นต้น
โดยในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวมีการเติบโตอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจากข้อมูลกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ยอดนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 จนถึงเดือน ต.ค. 66 มีจำนวน 20,051,535 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 839,409 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 มาเลเซีย 3,280,622 คน รองลงมา คือ จีน 2,509,698 คน เกาหลีใต้ 1,197,763 คน อินเดีย 1,165,935 คน และรัสเซีย 994,431 คน
ซึ่ง น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา คาดว่าจากการประเมินสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวเบื้องต้น ของสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดทั้งสัปดาห์ (24 ก.ย.-1 ต.ค. 66) จำนวนทั้งสิ้น 552,419 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 71,015 คน คิดเป็น 14.75% (WoW) (ข้อมูล ณ วันที่ 2 ต.ค. 66)
ซึ่งหลังการประกาศมาตรการ VISA Free นักท่องเที่ยวจีนปรับเพิ่มขึ้น 44,744 คน หรือเพิ่มขึ้น 72.49% (WoW) ทำให้นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก เป็นนักท่องเที่ยวที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 37.47% จากสัปดาห์ก่อนหน้า รองลงมา เป็นนักท่องเที่ยวจากแอฟริกา (+28.68%) เอเชียใต้ (+18.62%) ยุโรป (+9.92%) อเมริกา (+7.83%) และอาเซียน (+3.10%)
ขณะที่นักท่องเที่ยวจากโอเชียเนีย และตะวันออกกลาง ปรับตัวลดลง 5.02% (WoW) และ 4.78% (WoW) โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน, มาเลเซีย, เกาหลีใต้, อินเดีย และสปป.ลาว
“สมชาย อ่วมกระทุ่ม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม (ITNS) บริษัทผู้ประกอบการในธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยเป็นผู้ออกแบบและติดตั้งระบบเครือข่ายและระบบสื่อสารอย่างครบวงจร (System Integrator) พร้อมทั้งจำหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้ในงานเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร การให้บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษาอุปกรณ์ และการให้เช่าอุปกรณ์
มั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทฯ มีแผนส่งมอบงานโครงการใหญ่ให้กับภาคเอกชนมูลค่าประมาณ 120 ล้านบาท นอกจากนี้ มีปริมาณงานในมือ (Backlog)อยู่ที่ประมาณ 420 ล้านบาท และมีงานที่รอเซ็นสัญญาอีกประมาณ 55 ล้านบาท ทำให้เป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้ปีนี้ เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 25-30% และสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ขณะเดียวกัน บริษัทจะเร่งเพิ่มรายได้และกำไรจากธุรกิจ SI (System Integrator) และ MA (Maintenance) โดยเพิ่มการขยายฐานลูกค้า ขยายงานด้านการให้บริการบำรุงดูแลรักษา เพื่อเพิ่มผลกำไรให้มากขึ้นและสร้างความต่อเนื่องทางด้านรายได้ ขณะเดียวกัน มุ่งขยายธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ขยายการให้เช่าแก่ลูกค้าในกลุ่มที่ไม่ต้องการใช้เงินลงทุนจำนวนมากในการซื้อและติดตั้งอุปกรณ์เทคโนโลยี ขยายการให้เช่าแก่ลูกค้าในกลุ่มลูกค้าที่มีความกังวลปัญหาการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ขยายการให้เช่าแก่กลุ่มลูกค้าที่ฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด -19 เช่น กลุ่มโรงแรม ธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจการให้บริการ เป็นต้น
โดยในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวมีการเติบโตอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจากข้อมูลกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ยอดนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 จนถึงเดือน ต.ค. 66 มีจำนวน 20,051,535 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 839,409 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 มาเลเซีย 3,280,622 คน รองลงมา คือ จีน 2,509,698 คน เกาหลีใต้ 1,197,763 คน อินเดีย 1,165,935 คน และรัสเซีย 994,431 คน
ซึ่ง น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา คาดว่าจากการประเมินสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวเบื้องต้น ของสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดทั้งสัปดาห์ (24 ก.ย.-1 ต.ค. 66) จำนวนทั้งสิ้น 552,419 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 71,015 คน คิดเป็น 14.75% (WoW) (ข้อมูล ณ วันที่ 2 ต.ค. 66)
ซึ่งหลังการประกาศมาตรการ VISA Free นักท่องเที่ยวจีนปรับเพิ่มขึ้น 44,744 คน หรือเพิ่มขึ้น 72.49% (WoW) ทำให้นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก เป็นนักท่องเที่ยวที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 37.47% จากสัปดาห์ก่อนหน้า รองลงมา เป็นนักท่องเที่ยวจากแอฟริกา (+28.68%) เอเชียใต้ (+18.62%) ยุโรป (+9.92%) อเมริกา (+7.83%) และอาเซียน (+3.10%)
ขณะที่นักท่องเที่ยวจากโอเชียเนีย และตะวันออกกลาง ปรับตัวลดลง 5.02% (WoW) และ 4.78% (WoW) โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน, มาเลเซีย, เกาหลีใต้, อินเดีย และสปป.ลาว