จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : ลงทุนภาครัฐกระตุ้น “รับเหมาก่อสร้าง” หนุนผลงาน PREB ปี 66 โตต่อเนื่อง


25 ตุลาคม 2566
การลงทุนก่อสร้างภาครัฐเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศให้ขยายตัว ส่งผลดีต่อผู้รับเหมาก่อสร้าง  รวมทั้ง บมจ. พรีบิลท์  หรือ PREB  ภาพรวมธุรกิจในปีนี้ยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้  เติบโตที่ระดับ 10%

รายงานพิเศษ PREB copy.jpg

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า  ในปี2566  หมวดธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง  เนื่องจากจะมีงานโครงการขนาดใหญ่ออกมาจำนวนมากหลังการเลือกตั้ง ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนและสร้างโอกาสให้แก่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั้งรายใหญ่ที่มีส่วนร่วมในโครงการลงทุนขนาดใหญ่และรายย่อยที่จะได้ประโยชน์จากการเป็นผู้รับเหมาช่วง  (Sub-contractor) ตลอดจนธุรกิจผลิตและค้าขายวัสดุก่อสร้าง

พร้อมประเมินมูลค่าการก่อสร้างภาครัฐ ปี 2566 อยู่ที่ 8.4 – 8.5 แสนล้านบาท ขยายตัวในกรอบ 2.5-3.5% โดยแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากโครงการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐขนาดใหญ่ (Mega projects) ที่กลับมาเดินหน้าก่อสร้างโครงการได้ต่อเนื่อง ภายหลังการหยุดชะงักและล่าช้าในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา

อีกทั้งยังมีโครงการประมูลใหม่ ที่จะเริ่มก่อสร้างช่วงปี 2566 โดยเฉพาะโครงการในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โครงการรถไฟความ เร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้

การฟื้นตัวของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง สอดคล้องกับมุมมองของ “วิโรจน์ เจริญตรา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พรีบิลท์  หรือPREB   ที่เชื่อว่า แนวโน้มในครึ่งปีหลังอุตสาหกรรมก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก  เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อน่าจะปรับตัวดีขึ้นได้  โดยปัจจุบัน บริษัทฯมีงานในมือรอรับรู้รายได้(Backlog)จากงานก่อสร้างมูลค่า 6,000 ล้านบาท พร้อมวางเป้าหมายภายใน 5 ปีข้างหน้า  บริษัทจะมีรายได้รวมที่ระดับ 8,000 ล้านบาท


รวมทั้งในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังมียอดขายรอโอนจาก 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพิมนารา ศรีนครินทร์  บางนา โครงการพิมนารา ธรรมศาสตร์  รังสิต  โครงการพรีวิลเลจ ธรรมศาสตร์  รังสิต และที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปีอีก 2 โครงการ คือ โครงการพิมนารา ศาลายาและโครงการพรรณนา ทวีวัฒนา ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะมีมูลค่ายอดโอนรวมกันกว่า 1,200 ล้านบาท


ทำให้ภาพรวมธุรกิจในปีนี้ยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้  โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตที่ระดับ10% และบริษัทฯมีแผนจะเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้ยื่นประมูลงานรับเหมาก่อสร้างใหม่ ซึ่งเป็นงานก่อสร้างประเภทคอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงาน รวมทั้งยังมีงานที่รอประมูลใหม่อีกจำนวนมาก ซึ่งมั่นใจว่าจะสนับสนุนการเติบโตได้อย่างมั่นคง


สำหรับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในระยะยาวภายใน 5 ปีข้างหน้า  บริษัทจะมีรายได้รวมที่ระดับ 8,000 ล้านบาท และภายใน 3 ปีจะเพิ่มสัดส่วนกำไรของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็น 50%ของกำไรรวม จากปี2565 มีสัดส่วนอยู่ที่20%  ขณะที่กำไรมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่80% 

และบริษัทฯ ยังมีเป้าหมายที่จะนำเสนอระบบการก่อสร้างที่พักอาศัยด้วยระบบการทำงานแบบใหม่มีการศึกษาและการนำนวัตกรรม หรือการนำสินค้าหรือวัสดุใหม่ๆ รวมถึงวัสดุ Pre-Cast ที่พัฒนาในลักษณะเฉพาะของบริษัทเองให้กับโครงการขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อบริหารต้นทุนค่าก่อสร้าง ลดระยะเวลาก่อสร้างและสามารถควบคุมคุณภาพได้ดีมากขึ้น