กลุ่ม SCBX มุ่งสร้างเทคโนโลยีทางการเงินเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงให้คนไทย เดินหน้าเป้าหมาย NET ZERO เพิ่มขีดความสามารถของไทย พร้อมผลักดัน AI สร้างการเติบโตอย่างทั่วถึงและยั่งยืน

นายเสถียร เลี้ยววาริณ Chief Sustainability Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “Global Risks Report 2023 ที่เผยแพร่โดยสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum เมื่อต้นปี สะท้อนให้เห็นว่า ‘วิกฤตค่าครองชีพ’ พุ่งติดอันดับ 1 ของความเสี่ยงโลกที่มีแนวโน้มจะรุนแรงในระยะสั้น 2 ปี ขณะที่ ‘การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ’ ซึ่งติดอันดับ 1-3 ยังคงเป็นภัยคุกคามของโลกในระยะยาว 10 ปี
ทั้งนี้ กลุ่ม SCBX เชื่อมั่นว่ากรอบยุทธศาสตร์ 4 เสาหลัก ซึ่งพัฒนาโดยพิจารณาบริบททางธุรกิจ ภูมิทัศน์ด้านความยั่งยืนและ Climate ตลอดจนแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงอย่างรอบด้าน จะช่วยให้กลุ่ม SCBX สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงและโอกาสทั้งในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมสนับสนุนวาระโลกที่มุ่งลดความเหลื่อมล้ำ ขจัดความยากจน และบรรเทาวิกฤตโลกร้อนด้วย”
เพื่อผลักดันกรอบยุทธศาสตร์ 4 เสาหลัก ซึ่งประกอบด้วย 7 เป้าประสงค์ (Strategic Goals) กลุ่ม SCBX ได้ร่วมกันกำหนดเป้าหมายความยั่งยืน 3 ปี ระหว่างปี 2021-2025 ไว้ดังนี้
เมล็ดพันธุ์ดิจิทัล
• โซลูชั่นและความปลอดภัยทางดิจิทัล: สร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลด้วยเงินลงทุน 14,000 ล้านบาท ภายใต้ความมุ่งมั่น Zero Tolerance ด้านความมั่นคงปลอดภัยของสารสนเทศ (Cybersecurity)
• ทักษะดิจิทัลเพื่ออนาคต: พัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับพนักงานและคนในสังคม จำนวน 200,000 คน
สังคมแห่งโอกาส
• บริการทางการเงินและดิจิทัลอย่างทั่วถึง: ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินแก่กลุ่มที่เข้าไม่ถึงหรือมีข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อในระบบ (Underserved) จำนวน 4 ล้านคน
• พลังเสริมธุรกิจและคนตัวเล็ก: สนับสนุน SME, Star-ups และชุมชน จำนวน 2 ล้านราย ด้วยเงินลงทุนราว 5,800 ล้านบาท เพื่อโอกาสทางธุรกิจและการมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
เศรษฐกิจเพื่ออนาคต
• การเงินที่ยั่งยืน: สนับสนุนทางการเงินจำนวน 100,000 ล้านบาทให้กับลูกค้าที่ร่วมเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจ-สังคมคาร์บอนต่ำและส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ภูมิอากาศที่ยั่งยืน
• การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์และเทคโนโลยีเพื่อโลก: บรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) จากการดำเนินงาน ภายในปี 2030 และจากการให้สินเชื่อและการลงทุน ภายในปี 2050
• ประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ: ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานร้อยละ 50 ภายในปี 2027
นายเสถียร กล่าวเพิ่มเติมว่า “กลุ่ม SCBX มีความมุ่งมั่นที่จะลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินของคนไทย จึงได้นำ AI มาใช้ในการพิจารณาสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล ซึ่งมีความแม่นยำและประสิทธิภาพสูง สามารถคัดกรอง วิเคราะห์ความเสี่ยง และอนุมัติสินเชื่อที่เหมาะสมให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เพียงข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) ขณะเดียวกัน จะผลักดันการนำ AI มาใช้ในการบริหารจัดการประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจขององค์กร การสนับสนุนทางการเงินที่ยั่งยืน (Green/ Sustainable Finance) ให้กับลูกค้า และการลงทุนที่มุ่งสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ Net Zero เพื่อก้าวสู่การเป็น AI-First Organization และ Net Zero Leader ไปพร้อมกัน”

นายเสถียร เลี้ยววาริณ Chief Sustainability Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “Global Risks Report 2023 ที่เผยแพร่โดยสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum เมื่อต้นปี สะท้อนให้เห็นว่า ‘วิกฤตค่าครองชีพ’ พุ่งติดอันดับ 1 ของความเสี่ยงโลกที่มีแนวโน้มจะรุนแรงในระยะสั้น 2 ปี ขณะที่ ‘การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ’ ซึ่งติดอันดับ 1-3 ยังคงเป็นภัยคุกคามของโลกในระยะยาว 10 ปี
ทั้งนี้ กลุ่ม SCBX เชื่อมั่นว่ากรอบยุทธศาสตร์ 4 เสาหลัก ซึ่งพัฒนาโดยพิจารณาบริบททางธุรกิจ ภูมิทัศน์ด้านความยั่งยืนและ Climate ตลอดจนแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงอย่างรอบด้าน จะช่วยให้กลุ่ม SCBX สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงและโอกาสทั้งในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมสนับสนุนวาระโลกที่มุ่งลดความเหลื่อมล้ำ ขจัดความยากจน และบรรเทาวิกฤตโลกร้อนด้วย”
เพื่อผลักดันกรอบยุทธศาสตร์ 4 เสาหลัก ซึ่งประกอบด้วย 7 เป้าประสงค์ (Strategic Goals) กลุ่ม SCBX ได้ร่วมกันกำหนดเป้าหมายความยั่งยืน 3 ปี ระหว่างปี 2021-2025 ไว้ดังนี้
เมล็ดพันธุ์ดิจิทัล
• โซลูชั่นและความปลอดภัยทางดิจิทัล: สร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลด้วยเงินลงทุน 14,000 ล้านบาท ภายใต้ความมุ่งมั่น Zero Tolerance ด้านความมั่นคงปลอดภัยของสารสนเทศ (Cybersecurity)
• ทักษะดิจิทัลเพื่ออนาคต: พัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับพนักงานและคนในสังคม จำนวน 200,000 คน
สังคมแห่งโอกาส
• บริการทางการเงินและดิจิทัลอย่างทั่วถึง: ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินแก่กลุ่มที่เข้าไม่ถึงหรือมีข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อในระบบ (Underserved) จำนวน 4 ล้านคน
• พลังเสริมธุรกิจและคนตัวเล็ก: สนับสนุน SME, Star-ups และชุมชน จำนวน 2 ล้านราย ด้วยเงินลงทุนราว 5,800 ล้านบาท เพื่อโอกาสทางธุรกิจและการมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
เศรษฐกิจเพื่ออนาคต
• การเงินที่ยั่งยืน: สนับสนุนทางการเงินจำนวน 100,000 ล้านบาทให้กับลูกค้าที่ร่วมเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจ-สังคมคาร์บอนต่ำและส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ภูมิอากาศที่ยั่งยืน
• การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์และเทคโนโลยีเพื่อโลก: บรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) จากการดำเนินงาน ภายในปี 2030 และจากการให้สินเชื่อและการลงทุน ภายในปี 2050
• ประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ: ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานร้อยละ 50 ภายในปี 2027
นายเสถียร กล่าวเพิ่มเติมว่า “กลุ่ม SCBX มีความมุ่งมั่นที่จะลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินของคนไทย จึงได้นำ AI มาใช้ในการพิจารณาสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล ซึ่งมีความแม่นยำและประสิทธิภาพสูง สามารถคัดกรอง วิเคราะห์ความเสี่ยง และอนุมัติสินเชื่อที่เหมาะสมให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เพียงข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) ขณะเดียวกัน จะผลักดันการนำ AI มาใช้ในการบริหารจัดการประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจขององค์กร การสนับสนุนทางการเงินที่ยั่งยืน (Green/ Sustainable Finance) ให้กับลูกค้า และการลงทุนที่มุ่งสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ Net Zero เพื่อก้าวสู่การเป็น AI-First Organization และ Net Zero Leader ไปพร้อมกัน”