บมจ.มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย “MCA” ยืนยัน! ยังถือหุ้นครบ ไม่ไปไหนแน่นอน พร้อมตอกย้ำศักยภาพการเติบโตธุรกิจเติบโตก้าวกระโดดได้ตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2566 จากการรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ Distributor ถึง 2 โครงการ และล่าสุดปิดดีลคว้างานเป๊ปซี่-โคล่า ยาวถึง 1 ปี มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท มั่นใจหลังจากระดมทุนในตลาด mai ยิ่งสามารถอัปแสกลงานขนาดใหญ่ได้เพิ่มขึ้น

นายภักดี เหล่างาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทมาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ “MCA” เปิดเผยว่า ขอบคุณนักลงทุนที่ให้การตอบรับหุ้น MCA ที่เข้าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรก ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าแม้ดัชนีตลาดหุ้นผันผวน จนส่งผลให้ราคาหุ้นเปิดทำการที่ระดับราคา 3 บาท จากราคาIPO ที่ 3.30 บาทต่อหุ้น แต่บริษัทฯก็ยังคงเชื่อมั่นศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจ พร้อมทั้งยืนยันว่าทางกลุ่มบริษัท ภักดี 2019 โฮลดิ้ง จำกัด และกลุ่มผู้บริหาร ยังคงถือหุ้นใหญ่ ในสัดส่วน 68.91% และไม่คิดที่จะขายหุ้นออกมาอย่างแน่นอน
ด้วยความมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดและผู้ให้บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่ครบวงจร โดยใช้นวัตกรรมดิจิทัลเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ตั้งแต่ต้นน้ำ – ปลายน้ำ ดังนั้นหลังระดมทุนในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มโอกาสการต่อยอดธุรกิจใหม่ ภายใต้รูปแบบการให้บริการ Distributor ซึ่งจะเข้ามาสร้าง New S-Curve สู่การเติบโตทางธุรกิจในอนาคต ซึ่งสามารถตอบโจทย์ทุกช่องทางความหลากหลายในทุกรูปแบบของประเภทการให้บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้ทุกมิติ
ล่าสุดคว้างาน บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด มูลค่างานกว่า 80 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาตามสัญญา 1 ปี ส่งผลให้บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้รับรู้รายได้จากโปรเจคดังกล่าวเข้ามาเฉลี่ยไตรมาสละไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท โดย MCA จะดูแลในส่วนงานด้านบริการพนักงานจัดเรียงสินค้า (Merchandiser) และงานดังกล่าวบริษัทฯ จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ในไตรมาส 4/2566 ทันที พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกกว่า ภายในระยะเวลาที่เหลืออีก 2 เดือน (พ.ย.-ธ.ค.) บริษัทฯ อยู่ระหว่างปิดดีลงานให้บริการเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในเร็วๆ นี้ จะสามารถแจ้งข้อมูลให้ทราบต่อไป นอกเหนือจากช่วงก่อนหน้านี้ ที่บริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินธุรกิจ Distributor รูปแบบ Principal ในโครงการนำร่อง (Pilot Project) จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการที่ 1 มีระยะเวลาโครงการ 6 เดือน (ก.ค.-ธ.ค.2566) สำหรับดูแลสินค้าจำนวน 7 แบรนด์ โดยรับผิดชอบในการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าประเภทร้านค้าปลีกแบบ Traditional Trade 13 จังหวัด ที่กระจายอยู่หลากหลายพื้นที่ในประเทศไทย และโครงการที่ 2 มีระยะเวลาโครงการ 6 เดือน (ก.ย.2566-ก.พ.2567) เป็นการดูแลสินค้าจำนวน 7 แบรนด์ โดยมีช่องทางการจัดจำหน่ายเป็นร้านค้าประเภทร้านค้าปลีก Traditional Trade ทั่วประเทศไทย
ดังนั้นจากการที่บริษัทฯ คว้าดีลทั้ง 3 โปรเจคดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น พัฒนาการให้บริการธุรกิจกิจกรรมทางการตลาดหลากหลายรูปแบบ ตอบสนองกลยุทธ์การตลาดลูกค้าได้ครบวงจร เพื่อการยกระดับองค์กรในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งยังเป็นการสร้าง New S-Curve สู่การเติบโตให้MCA ในอนาคต ซึ่งจากปัจจัยเชิงบวกดังกล่าวสะท้อนถึงผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง ที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับในช่วงครึ่งปีแรกอย่างแน่นอน ส่งผลให้ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% เมื่อเทียบกับปี 2565
“อยากให้นักลงทุนเชื่อมั่นในศักยภาพของ MCA ดังนั้นการเข้าระดมทุนในวันนี้ถือเป็นความภูมิใจของบริษัทฯ และพร้อมที่จะนำเงินที่ได้ไปขยายโอกาสการรับงานที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และยังสามารถต่อยอดการให้บริการในรูปแบบใหม่ Distributor เพื่อเป็นการเข้าถึงฐานลูกค้าเดิม และฐานต่อยอดไปยังฐานลูกค้าใหม่ และพร้อมยืนยันว่าตนเอง และผู้บริหารยังถือหุ้นครบตามสัดส่วนที่ได้เปิดเผยข้อมูลไว้ในไฟลิ่ง 68.91% ไม่ไปไหน แน่นอน ยืนยัน!”

นายภักดี เหล่างาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทมาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ “MCA” เปิดเผยว่า ขอบคุณนักลงทุนที่ให้การตอบรับหุ้น MCA ที่เข้าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรก ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าแม้ดัชนีตลาดหุ้นผันผวน จนส่งผลให้ราคาหุ้นเปิดทำการที่ระดับราคา 3 บาท จากราคาIPO ที่ 3.30 บาทต่อหุ้น แต่บริษัทฯก็ยังคงเชื่อมั่นศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจ พร้อมทั้งยืนยันว่าทางกลุ่มบริษัท ภักดี 2019 โฮลดิ้ง จำกัด และกลุ่มผู้บริหาร ยังคงถือหุ้นใหญ่ ในสัดส่วน 68.91% และไม่คิดที่จะขายหุ้นออกมาอย่างแน่นอน
ด้วยความมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดและผู้ให้บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่ครบวงจร โดยใช้นวัตกรรมดิจิทัลเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ตั้งแต่ต้นน้ำ – ปลายน้ำ ดังนั้นหลังระดมทุนในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มโอกาสการต่อยอดธุรกิจใหม่ ภายใต้รูปแบบการให้บริการ Distributor ซึ่งจะเข้ามาสร้าง New S-Curve สู่การเติบโตทางธุรกิจในอนาคต ซึ่งสามารถตอบโจทย์ทุกช่องทางความหลากหลายในทุกรูปแบบของประเภทการให้บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้ทุกมิติ
ล่าสุดคว้างาน บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด มูลค่างานกว่า 80 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาตามสัญญา 1 ปี ส่งผลให้บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้รับรู้รายได้จากโปรเจคดังกล่าวเข้ามาเฉลี่ยไตรมาสละไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท โดย MCA จะดูแลในส่วนงานด้านบริการพนักงานจัดเรียงสินค้า (Merchandiser) และงานดังกล่าวบริษัทฯ จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ในไตรมาส 4/2566 ทันที พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกกว่า ภายในระยะเวลาที่เหลืออีก 2 เดือน (พ.ย.-ธ.ค.) บริษัทฯ อยู่ระหว่างปิดดีลงานให้บริการเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในเร็วๆ นี้ จะสามารถแจ้งข้อมูลให้ทราบต่อไป นอกเหนือจากช่วงก่อนหน้านี้ ที่บริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินธุรกิจ Distributor รูปแบบ Principal ในโครงการนำร่อง (Pilot Project) จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการที่ 1 มีระยะเวลาโครงการ 6 เดือน (ก.ค.-ธ.ค.2566) สำหรับดูแลสินค้าจำนวน 7 แบรนด์ โดยรับผิดชอบในการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าประเภทร้านค้าปลีกแบบ Traditional Trade 13 จังหวัด ที่กระจายอยู่หลากหลายพื้นที่ในประเทศไทย และโครงการที่ 2 มีระยะเวลาโครงการ 6 เดือน (ก.ย.2566-ก.พ.2567) เป็นการดูแลสินค้าจำนวน 7 แบรนด์ โดยมีช่องทางการจัดจำหน่ายเป็นร้านค้าประเภทร้านค้าปลีก Traditional Trade ทั่วประเทศไทย
ดังนั้นจากการที่บริษัทฯ คว้าดีลทั้ง 3 โปรเจคดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น พัฒนาการให้บริการธุรกิจกิจกรรมทางการตลาดหลากหลายรูปแบบ ตอบสนองกลยุทธ์การตลาดลูกค้าได้ครบวงจร เพื่อการยกระดับองค์กรในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งยังเป็นการสร้าง New S-Curve สู่การเติบโตให้MCA ในอนาคต ซึ่งจากปัจจัยเชิงบวกดังกล่าวสะท้อนถึงผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง ที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับในช่วงครึ่งปีแรกอย่างแน่นอน ส่งผลให้ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% เมื่อเทียบกับปี 2565
“อยากให้นักลงทุนเชื่อมั่นในศักยภาพของ MCA ดังนั้นการเข้าระดมทุนในวันนี้ถือเป็นความภูมิใจของบริษัทฯ และพร้อมที่จะนำเงินที่ได้ไปขยายโอกาสการรับงานที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และยังสามารถต่อยอดการให้บริการในรูปแบบใหม่ Distributor เพื่อเป็นการเข้าถึงฐานลูกค้าเดิม และฐานต่อยอดไปยังฐานลูกค้าใหม่ และพร้อมยืนยันว่าตนเอง และผู้บริหารยังถือหุ้นครบตามสัดส่วนที่ได้เปิดเผยข้อมูลไว้ในไฟลิ่ง 68.91% ไม่ไปไหน แน่นอน ยืนยัน!”
ยอดนิยม

VIH ซื้อหุ้นคืน 26.66 ล้านหุ้น ใช้เงินสดส่วนเกิน ยืนยันไม่เกี่ยวเงินเพิ่มทุน สาเหตุราคาหุ้นไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน ตั้งเป้าทำนิวไฮใหม่ปีนี้

13 มีนาคมนี้!!! ผู้ถือหุ้น MC รับเงินปันผลบานฉ่ำ !!!
.jpg)
“นิปปอนเพนต์” ก้าวล้ำวงการสีด้วยพลัง AI! ส่งสุดยอดแพ็กคู่โซลูชัน “น้องนิปปอน” และ “Colour Design”

เบเยอร์ เขย่าวงการธุรกิจสีทาอาคาร สำเร็จเจ้าแรก! ใช้เทคโนโลยีล้ำ AI OCR อ่านบิลเขียนมือได้ รันแคมเปญใหญ่ "ลดเดือดรับ Summer แจกไม่ยั้ง!"
