นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของ บริษัท เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SCL เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้น IPO ของ SCL จำนวน 70 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 28% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ ในราคาหุ้นละ 1.54 บาท ระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ด้วยความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ในฐานะผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์อย่างครบวงจร ด้วยประสบการณ์ 58 ปี ที่เติบโตมาพร้อมการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ ทำให้ SCL มีความเข้าใจในธุรกิจอย่างลึกซึ้ง และเป็นกุญแจสำคัญในการต่อยอดโอกาสทางธุรกิจในอนาคต
“ผมมั่นใจว่า SCL จะเป็นอีกหุ้นเด่นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดย SCL ถือเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ของประเทศไทย ซึ่งมีประสบการณ์ในธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์มากกว่า 58 ปี โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทฯ มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบรับต่อยุคสมัยและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ SCL ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มผู้ประกอบการอะไหล่รถยนต์ขนาดกลางและขนาดย่อมในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ตลอดจนกลุ่มธุรกิจศูนย์บริการที่มีสาขาจำนวนมาก และกลุ่มบริษัทประกันภัย ทำให้บริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสการเติบโตไปพร้อมกับภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์สะสมของประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ราว 20.5 ล้านคัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไปที่จะมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่และชิ้นส่วนฯ เฉลี่ยสูงกว่ารถยนต์ที่มีอายุการใช้งานน้อยกว่า 5 ปี ถึง 35% จึงมองว่า SCL จะเป็นอีกหุ้นน้องใหม่ที่มีพื้นฐานดี และมีความมั่นคงในการเติบโต ที่จะอยู่ในใจของนักลงทุนในระยะยาวได้” นายสมภพ กล่าว
ทั้งนี้ SCL เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจ สินค้าอุตสาหกรรม (INDUS) ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ในชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า "SCL"
นายสกล ตั้งก่อสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SCL เปิดเผยว่า บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจจองซื้อหุ้น SCL สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท ในฐานะหนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์อย่างครบวงจร ที่พร้อมเติบโตไปกับจำนวนรถยนต์สะสมของประเทศ นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญในการมุ่งเน้นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทนมากขึ้นซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง รวมถึงการขยายขอบเขตของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จัดจำหน่ายไปยังชิ้นส่วนอะไหล่ของยานพาหนะชนิดอื่น เพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต
โดยเงินระดมทุนที่ได้จำนวนประมาณ 107.80 ล้านบาท จะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม จำนวน 50 ล้านบาท เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่าย และส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน เพื่อช่วยเสริมสร้างการเติบโต โดยมีโครงการในอนาคต ในการก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่พื้นที่คลังสินค้าประมาณ 2,000 ตร.ม. เพื่อรองรับการจัดเก็บสินค้าได้เพิ่มขึ้น 50% โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2569 รองรับการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต
ทั้งนี้ SCL เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจร สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์เพื่อการทดแทน มีผลิตภัณฑ์อะไหล่ มากกว่า 167,000 รายการ ครอบคลุมหลากหลายค่ายรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในผู้นำที่จัดจำหน่ายอะไหล่แบรนด์กระบะขวัญใจคนไทยอย่าง ISUZU รวมทั้ง เป็นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่ทดแทนที่ได้มาตรฐานของผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับ ปัจจุบัน SCL มีการบริหารจัดการศูนย์กระจายสินค้า บนพื้นที่ 9 ไร่ หรือ 14,400 ตารางเมตร อยู่ที่ จ.ปทุมธานี นำระบบและเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน สามารถสืบค้น และจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ SCL มีความแข็งแกร่ง และได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
“ผมมั่นใจว่า SCL จะเป็นอีกหุ้นเด่นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดย SCL ถือเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ของประเทศไทย ซึ่งมีประสบการณ์ในธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์มากกว่า 58 ปี โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทฯ มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบรับต่อยุคสมัยและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ SCL ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มผู้ประกอบการอะไหล่รถยนต์ขนาดกลางและขนาดย่อมในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ตลอดจนกลุ่มธุรกิจศูนย์บริการที่มีสาขาจำนวนมาก และกลุ่มบริษัทประกันภัย ทำให้บริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสการเติบโตไปพร้อมกับภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์สะสมของประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ราว 20.5 ล้านคัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไปที่จะมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่และชิ้นส่วนฯ เฉลี่ยสูงกว่ารถยนต์ที่มีอายุการใช้งานน้อยกว่า 5 ปี ถึง 35% จึงมองว่า SCL จะเป็นอีกหุ้นน้องใหม่ที่มีพื้นฐานดี และมีความมั่นคงในการเติบโต ที่จะอยู่ในใจของนักลงทุนในระยะยาวได้” นายสมภพ กล่าว
ทั้งนี้ SCL เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจ สินค้าอุตสาหกรรม (INDUS) ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ในชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า "SCL"
นายสกล ตั้งก่อสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SCL เปิดเผยว่า บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจจองซื้อหุ้น SCL สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท ในฐานะหนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์อย่างครบวงจร ที่พร้อมเติบโตไปกับจำนวนรถยนต์สะสมของประเทศ นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญในการมุ่งเน้นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทนมากขึ้นซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง รวมถึงการขยายขอบเขตของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จัดจำหน่ายไปยังชิ้นส่วนอะไหล่ของยานพาหนะชนิดอื่น เพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต
โดยเงินระดมทุนที่ได้จำนวนประมาณ 107.80 ล้านบาท จะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม จำนวน 50 ล้านบาท เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่าย และส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน เพื่อช่วยเสริมสร้างการเติบโต โดยมีโครงการในอนาคต ในการก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่พื้นที่คลังสินค้าประมาณ 2,000 ตร.ม. เพื่อรองรับการจัดเก็บสินค้าได้เพิ่มขึ้น 50% โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2569 รองรับการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต
ทั้งนี้ SCL เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจร สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์เพื่อการทดแทน มีผลิตภัณฑ์อะไหล่ มากกว่า 167,000 รายการ ครอบคลุมหลากหลายค่ายรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในผู้นำที่จัดจำหน่ายอะไหล่แบรนด์กระบะขวัญใจคนไทยอย่าง ISUZU รวมทั้ง เป็นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่ทดแทนที่ได้มาตรฐานของผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับ ปัจจุบัน SCL มีการบริหารจัดการศูนย์กระจายสินค้า บนพื้นที่ 9 ไร่ หรือ 14,400 ตารางเมตร อยู่ที่ จ.ปทุมธานี นำระบบและเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน สามารถสืบค้น และจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ SCL มีความแข็งแกร่ง และได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง