บมจ. เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท ผู้จัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 1 พ.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 385 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SCL”
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SCL” ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566
SCL ประกอบธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ ภายใต้ตราสินค้าของค่ายรถยนต์ต่างๆ เช่น ISUZU, MITSUBISHI, TOYOTA, HONDA, FUSO, FORD, NISSAN และ CHEVROLET และอะไหล่ทดแทนที่ได้มาตรฐานของผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับ เช่น AISIN, KAYABA, EXEDY, DENSO และ TOKICO ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจรครอบคลุมผลิตภัณฑ์อะไหล่มากกว่า 167,000 รายการ มีลูกค้ามากกว่า 1,600 ราย ครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการอะไหล่รถยนต์ขนาดกลางและขนาดย่อมในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ตลอดจนกลุ่มธุรกิจศูนย์บริการที่มีสาขาจำนวนมาก และกลุ่มบริษัทประกันภัย นอกจากนี้ บริษัทได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Lazada , Shopee , Big Thailand และ Egg Mall เป็นต้น ในงวด 6 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการขายอะไหล่รถยนต์ภายใต้ตราสินค้าของค่ายรถยนต์และอะไหล่รถยนต์ทดแทน ประมาณร้อยละ 88 : 12
SCL มีทุนชำระหลังเสนอขาย 125 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 180 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 70 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 52.5 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัท 10.5 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของบริษัท 7 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 25 – 27 ตุลาคม 2566 ในราคาหุ้นละ 1.54 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 107.80 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 385 ล้านบาท ทั้งนี้การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO มาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) เท่ากับ 13.45 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566) เท่ากับ 28.62 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.11 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายสกล ตั้งก่อสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท เปิดเผยว่า กลุ่มกิจการได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ของ ISUZU อย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2512 และตลอดระยะเวลากว่า 58 ปีที่ผ่านมา บริษัทมุ่งมั่นในการจัดจำหน่ายสินค้าอะไหล่แท้และอะไหล่ทดแทนที่ได้มาตรฐาน ด้วยการให้บริการที่รวดเร็วและเป็นมิตร เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับอะไหล่ที่ถูกต้องและรวดเร็วสมดังสโลแกนของบริษัท “ถูกทุกชิ้น แท้ทุกส่วน”
ทั้งนี้เงินที่ได้จากการระดมทุนบริษัทจะนำไปชำระคืนเงินกู้ยืม ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท
SCL มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือกลุ่มครอบครัวตั้งก่อสกุล ถือหุ้นร้อยละ 72.00 บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SCL” ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566
SCL ประกอบธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ ภายใต้ตราสินค้าของค่ายรถยนต์ต่างๆ เช่น ISUZU, MITSUBISHI, TOYOTA, HONDA, FUSO, FORD, NISSAN และ CHEVROLET และอะไหล่ทดแทนที่ได้มาตรฐานของผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับ เช่น AISIN, KAYABA, EXEDY, DENSO และ TOKICO ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจรครอบคลุมผลิตภัณฑ์อะไหล่มากกว่า 167,000 รายการ มีลูกค้ามากกว่า 1,600 ราย ครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการอะไหล่รถยนต์ขนาดกลางและขนาดย่อมในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ตลอดจนกลุ่มธุรกิจศูนย์บริการที่มีสาขาจำนวนมาก และกลุ่มบริษัทประกันภัย นอกจากนี้ บริษัทได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Lazada , Shopee , Big Thailand และ Egg Mall เป็นต้น ในงวด 6 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการขายอะไหล่รถยนต์ภายใต้ตราสินค้าของค่ายรถยนต์และอะไหล่รถยนต์ทดแทน ประมาณร้อยละ 88 : 12
SCL มีทุนชำระหลังเสนอขาย 125 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 180 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 70 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 52.5 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัท 10.5 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของบริษัท 7 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 25 – 27 ตุลาคม 2566 ในราคาหุ้นละ 1.54 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 107.80 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 385 ล้านบาท ทั้งนี้การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO มาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) เท่ากับ 13.45 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566) เท่ากับ 28.62 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.11 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายสกล ตั้งก่อสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท เปิดเผยว่า กลุ่มกิจการได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ของ ISUZU อย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2512 และตลอดระยะเวลากว่า 58 ปีที่ผ่านมา บริษัทมุ่งมั่นในการจัดจำหน่ายสินค้าอะไหล่แท้และอะไหล่ทดแทนที่ได้มาตรฐาน ด้วยการให้บริการที่รวดเร็วและเป็นมิตร เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับอะไหล่ที่ถูกต้องและรวดเร็วสมดังสโลแกนของบริษัท “ถูกทุกชิ้น แท้ทุกส่วน”
ทั้งนี้เงินที่ได้จากการระดมทุนบริษัทจะนำไปชำระคืนเงินกู้ยืม ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท
SCL มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือกลุ่มครอบครัวตั้งก่อสกุล ถือหุ้นร้อยละ 72.00 บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย