ปัจจุบันระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญอย่างมากต่อภาคธุรกิจที่จะช่วยให้บริษัทต่างๆประสบความสำเร็จ ซึ่งส่งผลดีต่อ บมจ. ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) ฐานะผู้ให้บริการ System Integration (SI) ครบวงจร สนับสนุนผลงานเติบโตก้าวกระโดด
พันเอกสรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ผู้ให้บริการด้านดิจิทัลและโทรคมนาคม คาดการณ์เทคโนโลยีในภาคธุรกิจปี 2023 ว่า หลังจากที่วิกฤตโควิดเริ่มคลี่คลายแล้ว โอกาสของการพัฒนา และเติบโตของธุรกิจจะกลับมาฟื้นตัวและคึกคักมากยิ่งขึ้น ทำให้หลายธุรกิจกลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง
ซึ่งธุรกิจที่รู้ทันตลาด รู้ทันผู้บริโภค จากการใช้เครื่องมือสนับสนุนทางเทคโนโลยีไอทีและดิจิทัล ก็จะสามารถฟื้นตัวได้ก่อน โดยเทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัลในปี 2023 จะมีบทบาทอย่างมากในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ โดยจะช่วยวิเคราะห์เทรนด์การตลาดในอนาคตได้อย่างแม่นยำ ช่วยการวางแผนอย่างเป็นระบบ ประเมินทิศทางการเติบโต และลดความเสี่ยงของความล้มเหลว
โดยบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและชำนาญในเรื่องของเทคโนโลยี ต้องนึกถึง บมจ. ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) ที่ประกอบธุรกิจบริการ System Integration (SI) แบบครบวงจร ได้แก่ ให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร โทรคมนาคม และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น Infrastructure, Network, Transformation, อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสัญญาณดาวเทียม และเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงาน
ซึ่ง “อธิพร ลิ่มเจริญ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร I2 กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานโครงการของภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง ตามวัตถุประสงค์การใช้เงินระดมทุนเสนอขายหุ้น IPO เพื่อเป็นการต่อยอดและขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ หนุนรายได้ปี 66 เติบโต 15%
โดยตั้งเป้าหมายปีนี้ได้รับงานเพิ่มอีกกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมลงนามสัญญาจ้างโครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) บนพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลค่ารวม 1,541.28 ล้านบาท ส่งผลให้มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มเป็นกว่า 2.5 พันล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ขณะที่ บล.หยวนต้าวิเคราะห์หุ้น I2 โดยคาดว่า กำไรปกติของบริษัทใน 3Q66 อยู่ที่ 23 ล้านบาท (+209% QoQ, +214% YoY) กำไรที่เติบโต QoQ และ YoY มาจากรายได้ที่เติบโตอย่างโดดเด่น
ซึ่งหากกำไรปกติ 3Q66 ออกมาตามคาด กำไร 9M66 จะคิดเป็น 64% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2566 ของเราที่ 76 ล้านบาท (+5% YoY) เราคงประมาณการ เนื่องจาก 4Q66 จะเข้าสู่รอบการรับรู้งานขนาดใหญ่
ทั้งนี้เราปรับลด PER ลงเป็น 12x จาก 15x เพื่อให้สะท้อนการ Derating หุ้นขนาดกลางขนาดเล็กของตลาดในภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงสูงขึ้น ทำให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ปรับลดลงเป็น 3.08 บาทต่อหุ้น
เราคงคำแนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายที่ 3.08 บาท /หุ้น จากราคาหุ้นปัจจุบันที่ PER66 ที่ 9.4x บนคาดการณ์ บริษัทจ่ายเงินปันผล 5.3% มี Downside Risk ที่จำกัด
พันเอกสรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ผู้ให้บริการด้านดิจิทัลและโทรคมนาคม คาดการณ์เทคโนโลยีในภาคธุรกิจปี 2023 ว่า หลังจากที่วิกฤตโควิดเริ่มคลี่คลายแล้ว โอกาสของการพัฒนา และเติบโตของธุรกิจจะกลับมาฟื้นตัวและคึกคักมากยิ่งขึ้น ทำให้หลายธุรกิจกลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง
ซึ่งธุรกิจที่รู้ทันตลาด รู้ทันผู้บริโภค จากการใช้เครื่องมือสนับสนุนทางเทคโนโลยีไอทีและดิจิทัล ก็จะสามารถฟื้นตัวได้ก่อน โดยเทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัลในปี 2023 จะมีบทบาทอย่างมากในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ โดยจะช่วยวิเคราะห์เทรนด์การตลาดในอนาคตได้อย่างแม่นยำ ช่วยการวางแผนอย่างเป็นระบบ ประเมินทิศทางการเติบโต และลดความเสี่ยงของความล้มเหลว
โดยบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและชำนาญในเรื่องของเทคโนโลยี ต้องนึกถึง บมจ. ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) ที่ประกอบธุรกิจบริการ System Integration (SI) แบบครบวงจร ได้แก่ ให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร โทรคมนาคม และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น Infrastructure, Network, Transformation, อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสัญญาณดาวเทียม และเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงาน
ซึ่ง “อธิพร ลิ่มเจริญ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร I2 กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานโครงการของภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง ตามวัตถุประสงค์การใช้เงินระดมทุนเสนอขายหุ้น IPO เพื่อเป็นการต่อยอดและขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ หนุนรายได้ปี 66 เติบโต 15%
โดยตั้งเป้าหมายปีนี้ได้รับงานเพิ่มอีกกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมลงนามสัญญาจ้างโครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) บนพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลค่ารวม 1,541.28 ล้านบาท ส่งผลให้มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มเป็นกว่า 2.5 พันล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ขณะที่ บล.หยวนต้าวิเคราะห์หุ้น I2 โดยคาดว่า กำไรปกติของบริษัทใน 3Q66 อยู่ที่ 23 ล้านบาท (+209% QoQ, +214% YoY) กำไรที่เติบโต QoQ และ YoY มาจากรายได้ที่เติบโตอย่างโดดเด่น
ซึ่งหากกำไรปกติ 3Q66 ออกมาตามคาด กำไร 9M66 จะคิดเป็น 64% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2566 ของเราที่ 76 ล้านบาท (+5% YoY) เราคงประมาณการ เนื่องจาก 4Q66 จะเข้าสู่รอบการรับรู้งานขนาดใหญ่
ทั้งนี้เราปรับลด PER ลงเป็น 12x จาก 15x เพื่อให้สะท้อนการ Derating หุ้นขนาดกลางขนาดเล็กของตลาดในภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงสูงขึ้น ทำให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ปรับลดลงเป็น 3.08 บาทต่อหุ้น
เราคงคำแนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายที่ 3.08 บาท /หุ้น จากราคาหุ้นปัจจุบันที่ PER66 ที่ 9.4x บนคาดการณ์ บริษัทจ่ายเงินปันผล 5.3% มี Downside Risk ที่จำกัด