จิปาถะ

"เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์" 68 ยังแจ๋ว!


01 พฤศจิกายน 2566

ประวัติ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ผู้สร้างวัดร่องขุ่น ศิลปินแห่งชาติ ปัจจุบันเลิกวาดรูปแล้ว ขอขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวไปจนตาย

เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์.jpg

อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 ณ บ้านร่องขุน ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย เป็นบุตรของนายไพศาล โฆษิตพิพัฒน์ และนางพรศรี อยู่สุข

การศึกษาชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนบัวสลี บ้านร่องขุน จ.เชียงราย ชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนดรุณศึกษา อ.เมือง จ.เชียงราย ระดับ ปวช. จากโรงเรียนเพาะช่าง กรุงเทพฯ

ศิลปะบัณฑิตศิลปะไทย (รุ่นแรก) จากคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ สาขาศิลปไทย มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยศิลปากร กรุงเทพฯ เคยได้รับเหรียญทองจากการประกวดผลงานระดับชาติ ในตอนที่เรียนอยู่ตอนปีที่ 4 หลังจากสำเร็จการศึกษาได้ยึดอาชีพจิตรกรอิสระมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2522 เป็นต้นมา

อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์  เป็นจิตรกรไทยมีผลงานจิตรกรรมไทยหลายผลงาน เช่น ภาพจิตรกรรมไทยในอุโบสถวัดพุทธประทีป กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ, เขียนภาพประกอบบทพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก และผลงานศิลปะที่ วัดร่องขุ่น ซึ่งมีทั้งงานสถาปัตยกรรม ประติมากรรมปูนปั้น และงานจิตรกรรมไทย ได้รับการยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ในปี พ.ศ. 2554

ชีวิตด้านครอบครัว อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ได้สมรสกับ กนกวัลย์ โฆษิตพิพัฒน์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2535 และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน น้องแทน หรือ ณภัส โฆษิตพิพัฒน์

ผลงานโดดเด่น

พ.ศ. 2523 เป็นประธานก่อตั้งกลุ่ม "ศิลปไทย 23" เพื่อต้านอิทธิพลศิลปะจากยุโรป อเมริกา
พ.ศ. 2527 เริ่มโครงการจิตรกรรมฝาผนังวัดพุทธประทีป กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และเดินทางไปเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดพุทธปทีป โดยไม่คิดค่าจ้าง
พ.ศ. 2539 ออกแบบสร้างวัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นบ้านเกิด เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และให้เป็นงานพุทธศิลป์ระดับโลกด้วยเงินส่วนตัว จนถึงปัจจุบัน
พ.ศ. 2541 เขียนภาพจิตรกรรมติดพระตำหนัก จังหวัดกระบี่
พ.ศ. 2548 เริ่มดำเนินการออกแบบและก่อสร้างหอนาฬิกาเชียงรายขึ้น ณ ถนนบรรพปราการ
เมื่อ 22 กันยายน 2565 ลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ได้มีการเผยคลิป อ.เฉลิมชัย ตอบคำถามคนที่เข้ามาถามว่า ไม่วาดภาพแล้วเหรอ เห็นแต่ขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวไปเรื่อยเปื่อย เสียดายรูปก็แพงเป็นตัวเองคงรีบขายรวย โดยอาจารย์ตอบว่า "

"สำหรับมึงคงจะเป็นอย่างนั้น แต่สำหรับกู กูรู้จักพอ กูไม่ชอบที่จะเป็นคนวาดรูปเขียนรูปแบบเอาจริงเอาจังจนวันตาย กูทำมาเยอะแล้ว และตอนนี้ไม่ทำแล้ว กูอยากพักผ่อน กูอยากใช้ชีวิตที่มีความสุขก่อนที่กูจะตาย"

"ผมปล่อยวางทั้งหมด ตั้งแต่อายุ 55 ปีเบาลง 60 ปีก็ยิ่งปล่อยวาง วัดร่องขุ่นก็เริ่มปล่อยวางลงอีก พอ 65 ปี ก็ปล่อยทิ้งเลย เดี๋ยวนี้เขาบริหารงานกันเองได้แล้ว เพราะทุกอย่างถือว่าสำเร็จแล้ว ผมมีหน้าที่อย่างเดียวคือเที่ยว หาความสุข บอกลูกบอกเมียว่าพอแล้ว ลูกก็ให้หากินเองละกัน พ่อไม่เติมเงินให้แล้ว ทุกคนต้องหาเงินเอง ชีวิตของแต่ละคนต้องแสวงหาความสุขของตัวเอง ผมมีความปรารถนาตั้งแต่เด็กว่าถ้าอายุถึง 65 ปี และยังมีชีวิตอยู่ จะเที่ยวอย่างเดียวไม่ทำอะไรสักอย่าง เที่ยวพักผ่อนตามที่ตัวเองชอบ ขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวพร้อมกับลูกศิษย์ แล้วก็ป่วยตายซะ"

"ผมออกกำลังกายให้แข็งแรงเพื่อขี่มอเตอร์ไซค์ให้ได้ นั่งสมาธิภาวนา ให้จิตใจยอมรับกับทุกเรื่อง ยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ก็คือความตาย ยอมรับทุกอย่าง ยินดีกับทุกอย่าง แล้วก็ใช้ชีวิตให้เป็นอิสรภาพยามแก่เฒ่า เที่ยวไปเรื่อย ๆ จนตาย ส่วนวาดรูปก็วาดเล่น ๆ พักผ่อนสนุก ๆ ไม่เอาอะไรมาก ไม่อยากเห็นชีวิตตัวเองทำงานหาเงินให้ลูกให้หลาน จนตัวเองล้มป่วยแล้วตายไป ไม่ได้มีชีวิตท่องเที่ยวพักผ่อน ผมเลือกแล้ว เลือกทางนี้ ทางแห่งความสุขของตัวเองยามแก่เฒ่าแล้วตาย"
 
 
ที่มา  : https://www.sanook.com/news/9089138/