จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : SNNP ผลงานโตต่อเนื่อง คาดโค้งสุดท้ายของปีทำนิวไฮ


07 พฤศจิกายน 2566
เศรษฐกิจไทย-ความเชื่อมั่น- นักท่องเที่ยว ล้วนเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นยอดขายสินค้าของ บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ซึ่งผู้บริหารมั่นใจผลงานโค้งสุดท้ายของปีทำนิวไฮได้อีกครั้งหนึ่ง ดันทั้งปีเติบโตต่อเนื่อง 

รายงานพิเศษ SNNP.jpg
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน ก.ย. 66 อยู่ที่ระดับ 58.7 ปรับตัวดีขึ้นจากในเดือน ส.ค.ที่ 56.9  โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่น หลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และจัดทำนโยบายลดค่าครองชีพ ตลอดจนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ การเมืองไทยจะมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังมีการจัดตั้งรัฐบาลสลายขั้วการเมืองต่างๆ  ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคน่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากรัฐบาลใหม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็วภายใต้นโยบายที่ได้ประกาศไว้
          
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 53.2 ส่วน ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางาน อยู่ที่ 55.4 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 67.4 ซึ่งดัชนีทุกรายการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ด้านภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/66   ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุเศรษฐกิจยังขยายตัวจากไตรมาสก่อนตามการบริโภคภาคเอกชนและภาคบริการที่ปรับดีขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ และหวังว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจในภาพรวมจะดีกว่าไตรมาส 2/66 ที่โตได้ค่อนข้างต่ำ  แต่ก็ยังต้องจับตาการผลิตในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งน่าจะเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นจากการแถลงตัวเลขเศรษฐกิจของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ในวันที่ 20 พ.ย. นี้
อย่างไรก็ดี มองไปข้างหน้า จะเห็นว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในเดือน ต.ค. 66 ยังเห็นทิศทางการฟื้นตัว โดยมีแรงส่งสำคัญจากภาคการท่องเที่ยว จากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น สะท้อนจากปริมาณการ Search เกี่ยวกับ Air และ Accommodation ในไทยของต่างชาติ  
ด้านการส่งออกเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว โดยยังต้องจับตามองทิศทางการส่งออกสินค้าจากกลุ่มอาเซียน ซึ่งอาจจะมีผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยในระยะต่อไป ต้องติดตาม 1) การฟื้นตัวของภาคการส่งออกสินค้า 2) นโยบายของรัฐบาล 3) ผลกระทบของเอลนีโญต่อผลผลิตและราคาสินค้าเกษตร และ 4) ผลกระทบจากความขัดแย้งของกลุ่มฮามาส-อิสราเอลต่อราคาพลังงานและอุปสงค์ต่างประเทศ
ความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจไทยที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา กระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศ โดยเฉพาะยอดขายสินค้าของบริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ในฐานะผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวชั้นนำของไทย เช่น เยลลี่พร้อมดื่มและเยลลี่คาราจีแนน ภายใต้ตราสินค้าเจเล่ ปลาหมึกอบ ปลาหมึกเส้น และปลาเส้น ภายใต้ตราสินค้าเบนโตะ และขนมขึ้นรูปและขนมปังแท่งภายใต้ตราสินค้าดอกบัว โลตัส เป็นต้น
ซึ่ง “นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล”  รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ SNNP เชื่อว่าไตรมาส4/2566  ซึ่งเป็นช่วง  High season ของตลาดเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว ผลประกอบการช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้น่าจะทำ New Highได้อีกครั้งหนึ่ง  ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี 2566แนวโน้มรายได้ในปีนี้จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง 
และบริษัทยังได้เปิดตัวสินค้าในกลุ่มเยลลี่  แบรนด์ Jele Chewy (เจเล่ ชิววี่)  ซึ่งมีการพัฒนามาแล้วถึง 12 รสชาติ แต่ตลาดยังคงเติบโตต่อเนื่อง  ล่าสุดได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ Jele Chewy Jelly Ice (เจเล่ ชิววี่ เยลลี่ ไอซ์) เป็นครั้งแรกของการพัฒนานวัตกรรมจนกลายเป็นสินค้าใหม่ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค New Gen ให้เข้าถึงกับความอร่อยสไตล์ใหม่ ง่าย ๆ ไม่ซ้ำใคร
โดยJele Chewy Jelly Ice (เจเล่ ชิววี่ เยลลี่ ไอซ์) มีจุดเด่นที่แตกต่าง คือ สามารถ แช่เย็น เป็น เยลลี่ หรือ แช่แข็ง เป็น ไอศกรีม กับ 2 รสชาติ 2 ความอร่อย ลิ้นจี่ และ มิกซ์เบอร์รี่ อร่อยง่าย ๆ ไม่ซ้ำใคร อร่อยสดชื่นสุดขั้ว โดยมั่นใจว่า Jele Chewy Jelly Ice จะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของเจเล่ที่ครองใจผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน และพบกับความอร่อยได้แล้ววันนี้ ในราคาซองละ 25 บาท วางจำหน่ายแบบ exclusive เฉพาะที่7-11เท่านั้น
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ทำการตลาดโดยการสื่อสารผ่านออนไลน์ สร้างกระแสผ่านอินฟลูเอนเซอร์ สำหรับแนวทางการสื่อสารกับผู้บริโภคSNNPเน้นการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้ และปลุกกระแสให้เกิดความตื่นเต้นในแบรนด์ รวมไปถึงการรีวิวผลิตภัณฑ์ผ่านinfluencerยอดนิยมในกลุ่มNew Genซึ่งคาดว่าจะทำให้Jele Chewy Jelly Iceเข้าไปอยู่ในใจคนรุ่นใหม่และมีEngagementที่สูงขึ้น