จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : ธุรกิจความงาม “เทรนด์มาแรง” หนุน MASTER โตมั่นคง
15 กุมภาพันธ์ 2566
ธุรกิจเสริมความงามทั่วโลกยังเป็นเทรนด์ที่มาแรง และเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง หนุนผลประกอบการ บจม. มาสเตอร์ สไตล์ (MASTER) ปีนี้เติบโตมั่นคงแข็งแกร่ง
ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS วิเคราะห์ตลาดเสริมความงามทั่วโลกว่า ยังเป็นเทรนด์ที่มาแรง โดยเฉพาะ ‘เวชศาสตร์ความงาม’ (Aesthetic Medicine) ที่เป็น 1 ในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง ซึ่งจากผลสำรวจของ RealSelf Insights Center ที่เกี่ยวกับผลกระทบของโควิด-19 กับความต้องการเสริมความงาม พบว่าผู้ตอบแบบสำรวจ 98% ยังคงสนใจและต้องการเสริมความงามต่อไป ส่งผลให้ตลาดเสริมความงามจึงยังเติบโตต่อเนื่อง หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง
ซึ่งสนับสนุนผลประกอบการบริษัท มาสเตอร์ สไตล์ หรือ MASTER โรงพยาบาลด้านศัลยกรรมเสริมความงามภายใต้ชื่อ โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช "Masterpiece Hospital" โดย นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER ตอกย้ำความมั่นใจนักลงทุน ด้วยเป้าหมายการสร้างรายได้ให้เติบโตไม่น้อยกว่า 40% ทุกๆ ปีต่อจากนี้ใน 3 ปีข้างหน้า โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2566-2568 ขณะที่อัตรากำไรสุทธิเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 20%
ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงมองหาการเข้าซื้อกิจการ (M&A) หรือ ร่วมลงทุน (JV) เพื่อที่จะให้เกิด Synergy ในธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน และช่วยมาเพิ่มการเติบโตให้กับบริษัทต่อไป โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปี 66 นี้
ขณะที่บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ (66-68) จะเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 40% ต่อปี พร้อมวางเป้าหมายที่จะมีอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 20% โดยจะเป็นการเติบโตในรูปแบบปกติการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยรูปแบบการดำเนินการตลาดที่เหมาะสม
ด้านบล.หยวนต้า ระบุว่า MASTER เป็นผู้ให้บริการด้านความงามครบวงจร มีรายได้หลัก 79% มาจาก ศัลยกรรม มีแพทย์จำนวน 41 คน ให้บริการศัลยกรรมได้ทุกส่วนของร่างกาย พร้อมกับให้บริการด้านผิวพรรณและปัญหาเส้นผมและศีรษะ แบบครบวงจร
และหลังเข้า IPO บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มห้องผ้าตัดอีก 10 ห้อง ทำให้จำนวนชั่วโมงในการให้บริการได้เพิ่มขึ้น 143% เสมือนได้โรงพยาบาลใหม่ที่ใหญ่ขึ้น แต่ลงทุนน้อยกว่าการขยายสาขา เพราะ MASTER มีชื่อเสียงมากพอ ที่จะดึงลูกค้ามาใช้บริการ ต่างจากคลินิกความงามทั่วไปที่ต้องมีสาขามากเพื่อไม่ให้เสียลูกค้าให้คู่แข่ง
และเป็นโรงพยาบาลที่มีแพทย์มีชื่อเสียงจำนวนมาก จากการฝึกอบรมที่ใช้เวลาในระยะเวลาอันสั้น ด้วยการอบรมภายในของโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ลูกค้าเชื่อมั่นในแพทย์และโรงพยาบาลร่วมกัน เพราะมีการให้ความรู้ใหม่ให้แพทย์ได้พัฒนาอยู่เสมอ มีรายได้สูงและมั่นคง มีลูกค้าเข้ามาสม่ำเสมอ ทำให้เติบโตอย่างมั่นคงไปด้วยกันทั้งแพทย์และโรงพยาบาล
ทั้งนี้บริษัทคาดกำไรปี 2566 ที่ 429 ลบ. (+40.1% YoY) และเติบโตเฉลี่ย24.0% CAGR 5ปี (2565F –2570F) โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 66.25 บาท
ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS วิเคราะห์ตลาดเสริมความงามทั่วโลกว่า ยังเป็นเทรนด์ที่มาแรง โดยเฉพาะ ‘เวชศาสตร์ความงาม’ (Aesthetic Medicine) ที่เป็น 1 ในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง ซึ่งจากผลสำรวจของ RealSelf Insights Center ที่เกี่ยวกับผลกระทบของโควิด-19 กับความต้องการเสริมความงาม พบว่าผู้ตอบแบบสำรวจ 98% ยังคงสนใจและต้องการเสริมความงามต่อไป ส่งผลให้ตลาดเสริมความงามจึงยังเติบโตต่อเนื่อง หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง
ซึ่งสนับสนุนผลประกอบการบริษัท มาสเตอร์ สไตล์ หรือ MASTER โรงพยาบาลด้านศัลยกรรมเสริมความงามภายใต้ชื่อ โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช "Masterpiece Hospital" โดย นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER ตอกย้ำความมั่นใจนักลงทุน ด้วยเป้าหมายการสร้างรายได้ให้เติบโตไม่น้อยกว่า 40% ทุกๆ ปีต่อจากนี้ใน 3 ปีข้างหน้า โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2566-2568 ขณะที่อัตรากำไรสุทธิเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 20%
ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงมองหาการเข้าซื้อกิจการ (M&A) หรือ ร่วมลงทุน (JV) เพื่อที่จะให้เกิด Synergy ในธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน และช่วยมาเพิ่มการเติบโตให้กับบริษัทต่อไป โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปี 66 นี้
ขณะที่บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ (66-68) จะเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 40% ต่อปี พร้อมวางเป้าหมายที่จะมีอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 20% โดยจะเป็นการเติบโตในรูปแบบปกติการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยรูปแบบการดำเนินการตลาดที่เหมาะสม
ด้านบล.หยวนต้า ระบุว่า MASTER เป็นผู้ให้บริการด้านความงามครบวงจร มีรายได้หลัก 79% มาจาก ศัลยกรรม มีแพทย์จำนวน 41 คน ให้บริการศัลยกรรมได้ทุกส่วนของร่างกาย พร้อมกับให้บริการด้านผิวพรรณและปัญหาเส้นผมและศีรษะ แบบครบวงจร
และหลังเข้า IPO บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มห้องผ้าตัดอีก 10 ห้อง ทำให้จำนวนชั่วโมงในการให้บริการได้เพิ่มขึ้น 143% เสมือนได้โรงพยาบาลใหม่ที่ใหญ่ขึ้น แต่ลงทุนน้อยกว่าการขยายสาขา เพราะ MASTER มีชื่อเสียงมากพอ ที่จะดึงลูกค้ามาใช้บริการ ต่างจากคลินิกความงามทั่วไปที่ต้องมีสาขามากเพื่อไม่ให้เสียลูกค้าให้คู่แข่ง
และเป็นโรงพยาบาลที่มีแพทย์มีชื่อเสียงจำนวนมาก จากการฝึกอบรมที่ใช้เวลาในระยะเวลาอันสั้น ด้วยการอบรมภายในของโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ลูกค้าเชื่อมั่นในแพทย์และโรงพยาบาลร่วมกัน เพราะมีการให้ความรู้ใหม่ให้แพทย์ได้พัฒนาอยู่เสมอ มีรายได้สูงและมั่นคง มีลูกค้าเข้ามาสม่ำเสมอ ทำให้เติบโตอย่างมั่นคงไปด้วยกันทั้งแพทย์และโรงพยาบาล
ทั้งนี้บริษัทคาดกำไรปี 2566 ที่ 429 ลบ. (+40.1% YoY) และเติบโตเฉลี่ย24.0% CAGR 5ปี (2565F –2570F) โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 66.25 บาท