กสิกรไทยเปิดสาขากรุงปักกิ่ง เป็นสาขาที่ 5 ในจีน รองรับการให้บริการแก่ลูกค้าในไทย อาเซียน และจีน ตั้งเป้าสร้างรายได้ของธนาคารกสิกรไทยในประเทศจีนกว่า 5,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
ธนาคารกสิกรไทย (ประเทศจีน) เปิดสาขาใหม่ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เป็นสาขาที่ 5 เสริมความแข็งแกร่งการให้บริการในภูมิภาค รองรับการเติบโตทางด้านการค้า และตอบโจทย์การขยายตัวการลงทุนจากจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มุ่งสู่การเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 ที่น่าเชื่อถือที่สุด (A Regional Bank of Choice) เน้นกลุ่มธุรกิจที่มีการค้าการลงทุนระหว่างจีนและไทย รวมทั้งต่อยอดไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน และเชื่อมโยงเศรษฐกิจระหว่างภูมิภาค พร้อมใช้เทคโนโลยีดิจิทัลส่งมอบบริการและนำเสนอแพลตฟอร์มธนาคารที่อาศัยข้อได้เปรียบจากเครือข่ายบริการที่ธนาคารมีในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้ของธนาคารกสิกรไทยในประเทศจีนได้กว่า 5,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ล่าสุด ธนาคารได้เปิดสาขากรุงปักกิ่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางหน่วยราชการของประเทศจีนที่สำคัญแห่งหนึ่ง นับเป็นสาขาที่ 5 ของธนาคารกสิกรไทย (ประเทศจีน) และถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจของธนาคาร เนื่องจากประเทศจีนเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่ดี สาขากรุงปักกิ่งจึงทำหน้าที่เสมือนสะพานเชื่อมต่อเศรษฐกิจระหว่างประเทศจีน ไทย และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งยังมีแผนการพัฒนาเศรษฐกิจที่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าบรรษัทและลูกค้าบุคคลของธนาคารมากมายตามโครงการริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” (One Belt, One Road Initiative)
ทั้งนี้ สาขากรุงปักกิ่ง จะเป็นศูนย์การทำงานสำคัญแห่งหนึ่งของธนาคารกสิกรไทย (ประเทศจีน) ที่ให้บริการได้ครอบคลุมทั้งลูกค้าบุคคลชาวจีนที่ใช้บริการสินเชื่อ และกลุ่มลูกค้าธุรกิจจีนที่ต้องการไปลงทุนในไทยและอาเซียน รวมทั้งการให้บริการแก่ธุรกิจไทย-อาเซียนที่ต้องการขยายตลาดมายังประเทศจีนด้วย โดยยึดธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมตามห่วงโซ่คุณค่าของจีน–เออีซี มุ่งเน้นบริการด้านการลงทุน และสินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ และการให้สินเชื่อแวลูเชน (Value Chain Financing) นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายระยะยาวในการเน้นการสร้างพื้นฐานธุรกิจแบบดิจิทัลยุคใหม่ พร้อมกับการดำเนินธุรกิจธนาคารบนพื้นฐานนวัตกรรมการเงิน และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นายพิพิธ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากเครือข่ายบริการในประเทศจีนแล้ว ธนาคารจะเดินหน้าการทำงานในภูมิภาค AEC+3 อย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้บริการทั้งด้านการเงินและด้านอื่น ๆ อย่างครบครัน ที่ตอบสนองต่อความต้องการในยุคปัจจุบัน โดยนำเสนอแพลตฟอร์มธนาคารที่อาศัยข้อได้เปรียบจากเครือข่ายบริการของธนาคารที่มีในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทั่วภูมิภาค ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างจีน และAEC+3 อันจะยกระดับการมีส่วนร่วมของธนาคารในยุคดิจิทัลให้มากขึ้น สอดคล้องกับมีความมุ่งมั่นในการเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 ที่น่าเชื่อถือที่สุด (A Regional Bank of Choice) และคาดว่าธนาคารจะสามารถสร้างรายได้ของธนาคารกสิกรไทยในประเทศจีนได้กว่า 5,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมีเครือข่ายบริการในต่างประเทศครอบคลุมในกลุ่มประเทศ AEC+3 และประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 15 แห่ง 8 ประเทศ แบ่งเป็นสาขาธนาคารพาณิชย์ท้องถิ่นจดทะเบียน 6 แห่ง ตั้งอยู่ที่ประเทศจีน 4 แห่ง และ สปป. ลาว 2 แห่ง มีสาขาต่างประเทศ 4 แห่ง ตั้งอยู่ที่หมู่เกาะเคย์แมน ฮ่องกง กัมพูชา และเวียดนาม มีสำนักงานผู้แทน 5 แห่ง ตั้งอยู่ในจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย เมียนมา และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ธนาคารแมสเปี้ยน อินโดนีเซียอีกกว่า 50 สาขาทั่วประเทศ ให้บริการด้านการเงิน ด้านการให้คำปรึกษาการลงทุนและการจับคู่ธุรกิจ เพื่อช่วยให้การดำเนินธุรกิจในต่างประเทศตลอดจนการผลักดันตัวเองให้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจแห่ง AEC+3 เชื่อมโอกาสแก่ลูกค้าให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ธนาคารกสิกรไทย (ประเทศจีน) เปิดสาขาใหม่ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เป็นสาขาที่ 5 เสริมความแข็งแกร่งการให้บริการในภูมิภาค รองรับการเติบโตทางด้านการค้า และตอบโจทย์การขยายตัวการลงทุนจากจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มุ่งสู่การเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 ที่น่าเชื่อถือที่สุด (A Regional Bank of Choice) เน้นกลุ่มธุรกิจที่มีการค้าการลงทุนระหว่างจีนและไทย รวมทั้งต่อยอดไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน และเชื่อมโยงเศรษฐกิจระหว่างภูมิภาค พร้อมใช้เทคโนโลยีดิจิทัลส่งมอบบริการและนำเสนอแพลตฟอร์มธนาคารที่อาศัยข้อได้เปรียบจากเครือข่ายบริการที่ธนาคารมีในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้ของธนาคารกสิกรไทยในประเทศจีนได้กว่า 5,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ล่าสุด ธนาคารได้เปิดสาขากรุงปักกิ่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางหน่วยราชการของประเทศจีนที่สำคัญแห่งหนึ่ง นับเป็นสาขาที่ 5 ของธนาคารกสิกรไทย (ประเทศจีน) และถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจของธนาคาร เนื่องจากประเทศจีนเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่ดี สาขากรุงปักกิ่งจึงทำหน้าที่เสมือนสะพานเชื่อมต่อเศรษฐกิจระหว่างประเทศจีน ไทย และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งยังมีแผนการพัฒนาเศรษฐกิจที่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าบรรษัทและลูกค้าบุคคลของธนาคารมากมายตามโครงการริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” (One Belt, One Road Initiative)
ทั้งนี้ สาขากรุงปักกิ่ง จะเป็นศูนย์การทำงานสำคัญแห่งหนึ่งของธนาคารกสิกรไทย (ประเทศจีน) ที่ให้บริการได้ครอบคลุมทั้งลูกค้าบุคคลชาวจีนที่ใช้บริการสินเชื่อ และกลุ่มลูกค้าธุรกิจจีนที่ต้องการไปลงทุนในไทยและอาเซียน รวมทั้งการให้บริการแก่ธุรกิจไทย-อาเซียนที่ต้องการขยายตลาดมายังประเทศจีนด้วย โดยยึดธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมตามห่วงโซ่คุณค่าของจีน–เออีซี มุ่งเน้นบริการด้านการลงทุน และสินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ และการให้สินเชื่อแวลูเชน (Value Chain Financing) นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายระยะยาวในการเน้นการสร้างพื้นฐานธุรกิจแบบดิจิทัลยุคใหม่ พร้อมกับการดำเนินธุรกิจธนาคารบนพื้นฐานนวัตกรรมการเงิน และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นายพิพิธ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากเครือข่ายบริการในประเทศจีนแล้ว ธนาคารจะเดินหน้าการทำงานในภูมิภาค AEC+3 อย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้บริการทั้งด้านการเงินและด้านอื่น ๆ อย่างครบครัน ที่ตอบสนองต่อความต้องการในยุคปัจจุบัน โดยนำเสนอแพลตฟอร์มธนาคารที่อาศัยข้อได้เปรียบจากเครือข่ายบริการของธนาคารที่มีในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทั่วภูมิภาค ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างจีน และAEC+3 อันจะยกระดับการมีส่วนร่วมของธนาคารในยุคดิจิทัลให้มากขึ้น สอดคล้องกับมีความมุ่งมั่นในการเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 ที่น่าเชื่อถือที่สุด (A Regional Bank of Choice) และคาดว่าธนาคารจะสามารถสร้างรายได้ของธนาคารกสิกรไทยในประเทศจีนได้กว่า 5,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมีเครือข่ายบริการในต่างประเทศครอบคลุมในกลุ่มประเทศ AEC+3 และประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 15 แห่ง 8 ประเทศ แบ่งเป็นสาขาธนาคารพาณิชย์ท้องถิ่นจดทะเบียน 6 แห่ง ตั้งอยู่ที่ประเทศจีน 4 แห่ง และ สปป. ลาว 2 แห่ง มีสาขาต่างประเทศ 4 แห่ง ตั้งอยู่ที่หมู่เกาะเคย์แมน ฮ่องกง กัมพูชา และเวียดนาม มีสำนักงานผู้แทน 5 แห่ง ตั้งอยู่ในจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย เมียนมา และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ธนาคารแมสเปี้ยน อินโดนีเซียอีกกว่า 50 สาขาทั่วประเทศ ให้บริการด้านการเงิน ด้านการให้คำปรึกษาการลงทุนและการจับคู่ธุรกิจ เพื่อช่วยให้การดำเนินธุรกิจในต่างประเทศตลอดจนการผลักดันตัวเองให้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจแห่ง AEC+3 เชื่อมโอกาสแก่ลูกค้าให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น