by.พูเมซ่า
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นปี ดัชนีตลาดหุ้นผันผวนต่อเนื่อง ล่าสุดยังไม่สามารถไต่ระดับขึ้นไปแตะ1,700 จุดไว้ได้และปัจจุบันปัจจัยที่จะมีอิทธิพลจะเป็นการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) รวมทั้งการประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในรอบปี 2565 ซึ่งมีบริษัทขนาดใหญ่ประกาศออกมาบ้างแล้ว
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า แนวโน้มดอกเบี้ยโลกเข้าสู่ปลายวงจรขาขึ้น ทั้งสหรัฐฯ และยุโรป เพิ่มความน่าสนใจในการลงทุนหุ้นที่ให้อัตราปันผลสูง ทั้งนี้ จากการศึกษาทีมกลยุทธ์ พบว่า กลยุทธ์หุ้นปันผล Big Cap ซื้อก่อน XD สั้นๆ 2 สัปดาห์ และขายหลัง XD 1-2สัปดาห์ก็ให้ผลตอบแทนน่าพอใจ 2.8-3.9% และกลยุทธ์หุ้นปันผล Mid-Small Cap ควรสะสมก่อน XD 2 เดือน และขายหลัง XD 1-2สัปดาห์จะให้ผลตอบแทนสูง 9.2-9.6%
ทั้งนี้ กลยุทธ์หุ้นปันผล 2H22F แนะนำ High Yield: ทีมกลยุทธ์ได้ทำการคัดกรองหุ้นปันผลเด่น 2H22F ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อ ดังนี้ 1) เป็นหุ้นที่จะจ่ายเงินปันผล 2H22F สูงกว่า 3%
2) เป็นหุ้นพื้นฐานที่มีแนวโน้มเติบโตหรือกระแสเงินสดมั่นคง เหมาะแก่การเข้าลงทุน/เก็งกำไรในช่วงนี้ พบว่าหุ้นที่อยู่ภายใต้ CNS Coverage ที่น่าสนใจได้แก่ TISCO (7.0%), NER (5.9%), AP (5.3%), MC (5.2%), ICHI (5.2%), ORI (4.5%), THANI (4.3%), BAM (3.8%), LH (3.6%),SIRI (3.5%), SC (3.3%), RATCH (3.3%), SAWAD (3.0%)
ขณะที่หุ้นปันผลสูงในมุมมองของ Consensus มีหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ VNG, RJK, NER, ILINK, AP, NOBLE, BRI, DCC
สำหรับ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)INTUCH ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดอัตราหุ้นละ1.56 บาท โดยได้วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date)วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งวันที่จ่ายปันผลวันที่ 21 เมษายน 2566 โดยเป็นการจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565
ทั้งนี้จากสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า INTUCH ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง และยังพบว่า ยังให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับที่สูงระดับ 3-4% โดยในอดีตอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึงเกือบ 5%
สำหรับประวัติการจ่ายเงินปันผลของหุ้น INTUCH ตั้งแต่ปี 2563 ถึง 2566 ดังนี้
หากพิจารณาจากโครงสร้างผู้ถือหุ้นของINTUCH ล่าสุด ประกอบด้วย
จากข้อมูลข้างต้น เมื่อนำประวัติการจ่ายเงินปันผลของหุ้น INTUCH ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า“กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์” หรือ GULF ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จะได้รับเงินปันผลมูลค่ารวมมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 3-4% และเคยได้รับผลตอบแทนสูงสุดที่ระดับ 4.75% ซึ่ง GULF ได้เริ่มเข้ามาลงทุนถือหุ้นINTUCH จนมีชื่อปรากฎในโครงสร้างผู้ถือหุ้นช่วงปลายปี 2563 โดยแต่ละปีจะรับเงินปันผลเพิ่มสูงขึ้น หรือประมาณ 3-4 พันล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนดังกล่าว ยังไม่ได้นับรวมกับส่วนต่างราคาหุ้นINTUCH ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบันราคาหุ้นเพิ่มขึ้นประมาณ 30.13% จากราคา 57.25 บาทต่อหุ้นมาอยู่ที่ 74.50 บาท โดยราคาเคยปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 90.75 บาท ดังนั้นมูลค่าการถือครองหุ้นของGULF ก็ย่อมมากขึ้นเช่นกัน
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นปี ดัชนีตลาดหุ้นผันผวนต่อเนื่อง ล่าสุดยังไม่สามารถไต่ระดับขึ้นไปแตะ1,700 จุดไว้ได้และปัจจุบันปัจจัยที่จะมีอิทธิพลจะเป็นการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) รวมทั้งการประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในรอบปี 2565 ซึ่งมีบริษัทขนาดใหญ่ประกาศออกมาบ้างแล้ว
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า แนวโน้มดอกเบี้ยโลกเข้าสู่ปลายวงจรขาขึ้น ทั้งสหรัฐฯ และยุโรป เพิ่มความน่าสนใจในการลงทุนหุ้นที่ให้อัตราปันผลสูง ทั้งนี้ จากการศึกษาทีมกลยุทธ์ พบว่า กลยุทธ์หุ้นปันผล Big Cap ซื้อก่อน XD สั้นๆ 2 สัปดาห์ และขายหลัง XD 1-2สัปดาห์ก็ให้ผลตอบแทนน่าพอใจ 2.8-3.9% และกลยุทธ์หุ้นปันผล Mid-Small Cap ควรสะสมก่อน XD 2 เดือน และขายหลัง XD 1-2สัปดาห์จะให้ผลตอบแทนสูง 9.2-9.6%
ทั้งนี้ กลยุทธ์หุ้นปันผล 2H22F แนะนำ High Yield: ทีมกลยุทธ์ได้ทำการคัดกรองหุ้นปันผลเด่น 2H22F ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อ ดังนี้ 1) เป็นหุ้นที่จะจ่ายเงินปันผล 2H22F สูงกว่า 3%
2) เป็นหุ้นพื้นฐานที่มีแนวโน้มเติบโตหรือกระแสเงินสดมั่นคง เหมาะแก่การเข้าลงทุน/เก็งกำไรในช่วงนี้ พบว่าหุ้นที่อยู่ภายใต้ CNS Coverage ที่น่าสนใจได้แก่ TISCO (7.0%), NER (5.9%), AP (5.3%), MC (5.2%), ICHI (5.2%), ORI (4.5%), THANI (4.3%), BAM (3.8%), LH (3.6%),SIRI (3.5%), SC (3.3%), RATCH (3.3%), SAWAD (3.0%)
ขณะที่หุ้นปันผลสูงในมุมมองของ Consensus มีหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ VNG, RJK, NER, ILINK, AP, NOBLE, BRI, DCC
สำหรับ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)INTUCH ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดอัตราหุ้นละ1.56 บาท โดยได้วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date)วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งวันที่จ่ายปันผลวันที่ 21 เมษายน 2566 โดยเป็นการจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565
ทั้งนี้จากสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า INTUCH ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง และยังพบว่า ยังให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับที่สูงระดับ 3-4% โดยในอดีตอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึงเกือบ 5%
สำหรับประวัติการจ่ายเงินปันผลของหุ้น INTUCH ตั้งแต่ปี 2563 ถึง 2566 ดังนี้
วันที่จ่าย | เงินปันผล(บาท) | อัตราผลตอบแทน(%) |
27/01/66 | 1.40 | 3.72 |
08/09/65 | 1.76 | 3.86 |
21/04/65 | 1.60 | 3.68 |
02/09/64 | 1.23 | 3.26 |
22/04/64 | 1.35 | 4.46 |
03/09/63 | 1.15 | 4.75 |
23/04/63 | 1.30 | 4.67 |
หากพิจารณาจากโครงสร้างผู้ถือหุ้นของINTUCH ล่าสุด ประกอบด้วย
รายชื่อ | จำนวน(หุ้น) | %การถือครอง |
กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์ | 1,319,668,779 | 41.15 |
SINGTEL GLOBAL INVESTMENT PTE. LTD. | 801,328,970 | 24.99 |
ไทยเอ็นวีดีอาร์ | 212,016,010 | 6.61 |
GULF ENERGY DEVELOPMENT PCL. | 173,812,727 | 5.42 |
SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED | 65,812,378 | 2.05 |
สำนักงานประกันสังคม | 44,840,200 | 1.40 |
เพิ่มศักดิ์ เก่งมานะ | 30,823,100 | 0.96 |
STATE STREET EUROPE LIMITED | 25,567,404 | 0.80 |
ธนาคาร เกียรตินาคิน ภัทร จำกัด (มหาชน) | 18,911,400 | 0.59 |
ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) | 16,441,100 | 0.51 |
จากข้อมูลข้างต้น เมื่อนำประวัติการจ่ายเงินปันผลของหุ้น INTUCH ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า“กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์” หรือ GULF ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จะได้รับเงินปันผลมูลค่ารวมมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 3-4% และเคยได้รับผลตอบแทนสูงสุดที่ระดับ 4.75% ซึ่ง GULF ได้เริ่มเข้ามาลงทุนถือหุ้นINTUCH จนมีชื่อปรากฎในโครงสร้างผู้ถือหุ้นช่วงปลายปี 2563 โดยแต่ละปีจะรับเงินปันผลเพิ่มสูงขึ้น หรือประมาณ 3-4 พันล้านบาทต่อปี
วันที่จ่าย | เงินปันผล(บาท) | จำนวน(ล้านหุ้น) | มูลค่าที่ได้รับ(ลบ.) |
21/04/66 | 1.56 | 1,319 | 1,847 |
27/01/66 | 1.4 | 1,319 | 1,847 |
8/09/65 | 1.76 | 1,293 | 2,276 |
21/04/65 | 1.6 | 1,122 | 1,795 |
2/09/64 | 1.23 | 1,354 | 1,666 |
22/04/64 | 1.35 | 505 | 682 |
3/9/1963 | 1.15 | 256 | 294 |
รวม | 10,407 |
อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนดังกล่าว ยังไม่ได้นับรวมกับส่วนต่างราคาหุ้นINTUCH ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบันราคาหุ้นเพิ่มขึ้นประมาณ 30.13% จากราคา 57.25 บาทต่อหุ้นมาอยู่ที่ 74.50 บาท โดยราคาเคยปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 90.75 บาท ดังนั้นมูลค่าการถือครองหุ้นของGULF ก็ย่อมมากขึ้นเช่นกัน