จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : SFLEX ผลงานไตรมาส 3 แกร่ง ราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุด แนะนำ “ซื้อ”


10 พฤศจิกายน 2566
ผลการดำเนินงานของ บมจ. สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX)  ไตรมาส3/66 แข็งแกร่ง  ราคาน้ำมันเริ่มมีเสถียรภาพ ขณะที่ราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว  บล.กรุงศรี แนะนำ “ซื้อ” ขณะที่CEO มั่นใจรายได้ปีนี้แตะ 1,800  ล้านบาท ทำสถิติสูงสุด

รายงานพิเศษ SFLEX copy.jpg

บล.กรุงศรี วิเคราะห์ผลการดำเนินงานของ บมจ. สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX)  โดยระบุว่า ผลประกอบการยังแข็งแกร่งใน 3Q23  รายได้ของ SFLEX ลดลงเล็กน้อย 9% qoq เหลือ 421 ล้านบาท หลังจากที่ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วใน 1H23  อย่างไรก็ตาม บริษัทยังสามารถเพิ่ม GPM ได้อีกและทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 25.4% จาก 24.9% ใน 2Q23 จากประสิทธิภาพในการบริหาร จัดการต้นทุน ดังนั้น กำไรสุทธิจึงยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ 49 ล้านบาท (+1112% yoy, -3% qoq) โดยกำไรสุทธิในงวด 9M23 คิดเป็น 75% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา ทั้งนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.045 บาท/หุ้น

ราคาน้ำมันน่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันขึ้นมาถึงเกือบ USD100/barrel ใน 3Q23 และกดดันให้ราคาหุ้น SFLEX ยังคงอ่อนแอ  แต่เราเชื่อว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันเริ่มมีเสถียรภาพมาก ขึ้นที่ประมาณ USD80-85/barrel  ซึ่งน่าจะทำให้ราคาหุ้น SFLEX ผ่านจุดต่ำสุดไปเรียบร้อยแล้ว เรายังคงประมาณการราคาน้ำมันดิบดูไบในปีหน้าเอาไว้ที่  USD83/barrel ซึ่งหมายความราคาน้ำมันน่าจะสร้างแรงกดดันต่อราคาหุ้น SFLEX น้อยลงในปีหน้า

ถึงแม้ว่าดีล Star Print Vietnam (SPV) จะถูกเลื่อนออกไป แต่ไม่กระทบกับประมาณการกำไรของ SFLEX ในปี 2024 ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทออกมา แข็งแกร่งติดต่อกันมาสามไตรมาสแล้ว บวกกับราคาน้ำมันก็มีเสถียรภาพมากขึ้น  จึงเชื่อว่าราคาหุ้น SFLEX น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว  ยังคงคำแนะนำซื้อ และยังคงราคาเป้าหมายเอาไว้เท่าเดิมที่ 5.60 บาท
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SFLEX  “สมโภชน์ วัลยะเสวี” ระบุแผนการดำเนินธุรกิจในปีช่วงที่เหลือของปี บริษัทฯ ยืนยันเป้าหมายรายได้ของธุรกิจหลักแบบ Organic growth อยู่ที่ประมาณ 1,800 ล้านบาท  ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากกลยุทธ์การขยายตลาดเชิงรุกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง 

ประกอบกับการมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มความยั่งยืน หรือแพคเกจจิ้งที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ (Recyclable) ให้มากยิ่งขึ้นซึ่งถือเป็นเทรนด์ของโลก และเชื่อมั่นว่าช่วยผลักดันการเติบโตได้เพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อมุ่งสร้างความยั่งยืนของอัตรากำไรขั้นต้นให้มั่นคงในระยะยาว 
          
ขณะที่แผนการเข้าไปร่วมลงทุนในบริษัท Starprint Vietnam Joint Stock Company (SPV) ประเทศเวียดนาม กับผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่รายหนึ่ง คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนพฤศจิกายน  ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นการยกระดับ SFLEX และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในภูมิภาคอาเซียน สนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อไ