Wealth Sharing
SFT โชว์ผลงาน 9 เดือนแรกปีนี้ กวาดรายได้ 703.46 ลบ. ลุยขยายฐานลูกค้าทั้งในและตปท. รับออเดอร์เพิ่ม
13 พฤศจิกายน 2566
บมจ.ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) (SFT) หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน เผยผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกทำรายได้รวม 703.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% หลังทุกกลุ่มธุรกิจสร้างการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 219.6% ส่งผลให้ EBITDA Margin อยู่ที่ 12% พร้อมประเมินโค้งสุดท้ายปลายปีดีออเดอร์สั่งผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น เร่งขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ รับแนวโน้มการบริโภคสูงขึ้นในช่วงเทศกาลปลายปี
นายซุง ชง ทอย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SFT หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 703.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งความสำเร็จดังกล่าว มาจากการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งการผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปที่เพิ่มขึ้นจากการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ และลูกค้ารายเดิมมีการสั่งผลิตเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน กลุ่มผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน (Flexible Packaging) ที่มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 219.6% หลังจากโรงงานแห่งใหม่ได้ใบรับรองมาตรฐาน BRC และ Green industry ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพการผลิตของลูกค้า รวมถึงการมีนวัตกรรมใหม่ๆ ด้าน Green Packaging ที่มุ่งตอบสนองความต้องการลูกค้าที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม จึงได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 24.46 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก รวมถึงการบันทึกค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เช่น ค่าผลตอบแทนจากจำนวนพนักงานที่เพิ่มขึ้นและค่าเสื่อมราคาของเครื่องจักรและอาคาร และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขอใบรับรอง BRC Global Standard Packaging Materials Issue 6 ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อรองรับแผนขยายธุรกิจและขยายฐานลูกค้าไปยังลูกค้าในตลาดต่างประเทศเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว อย่างไรก็ตาม SFT ยังสามารถรักษาอัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อยู่ที่ 84.3 ล้านบาท และมี EBITDA Margin อยู่ที่ 12%
ส่วนแผนดำเนินงานในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ จะมุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีแผนทำการตลาดและออกงานแสดงสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดเพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโต รับแนวโน้มความต้องการฉลากฟิล์มหดรัดรูปฟื้นตัวจากแผนการตลาดของลูกค้าเตรียมเข้าสู่ช่วงเทศกาลสังสรรค์ผลักดันยอดขายในไตรมาสสุดท้ายของปี ในขณะที่การเติบโตของกลุ่มบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการบริหารจัดการด้านต้นทุนและการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้เกิด Economy of Scale ช่วยลดต้นทุนและสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวให้แก่ SFT ต่อไป
นายซุง ชง ทอย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SFT หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 703.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งความสำเร็จดังกล่าว มาจากการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งการผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปที่เพิ่มขึ้นจากการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ และลูกค้ารายเดิมมีการสั่งผลิตเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน กลุ่มผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน (Flexible Packaging) ที่มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 219.6% หลังจากโรงงานแห่งใหม่ได้ใบรับรองมาตรฐาน BRC และ Green industry ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพการผลิตของลูกค้า รวมถึงการมีนวัตกรรมใหม่ๆ ด้าน Green Packaging ที่มุ่งตอบสนองความต้องการลูกค้าที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม จึงได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 24.46 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก รวมถึงการบันทึกค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เช่น ค่าผลตอบแทนจากจำนวนพนักงานที่เพิ่มขึ้นและค่าเสื่อมราคาของเครื่องจักรและอาคาร และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขอใบรับรอง BRC Global Standard Packaging Materials Issue 6 ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อรองรับแผนขยายธุรกิจและขยายฐานลูกค้าไปยังลูกค้าในตลาดต่างประเทศเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว อย่างไรก็ตาม SFT ยังสามารถรักษาอัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อยู่ที่ 84.3 ล้านบาท และมี EBITDA Margin อยู่ที่ 12%
ส่วนแผนดำเนินงานในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ จะมุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีแผนทำการตลาดและออกงานแสดงสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดเพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโต รับแนวโน้มความต้องการฉลากฟิล์มหดรัดรูปฟื้นตัวจากแผนการตลาดของลูกค้าเตรียมเข้าสู่ช่วงเทศกาลสังสรรค์ผลักดันยอดขายในไตรมาสสุดท้ายของปี ในขณะที่การเติบโตของกลุ่มบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการบริหารจัดการด้านต้นทุนและการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้เกิด Economy of Scale ช่วยลดต้นทุนและสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวให้แก่ SFT ต่อไป