Wealth Sharing
IP ส่งซิกปิดปี 66 นิวไฮโต 35% ตามเป้า 9M23 กวาดรายได้รวมเฉียด 1,400 ลบ.
14 พฤศจิกายน 2566
บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา ส่งซิกปิดปี 2566 รายได้รวมเดินหน้าทำนิวไฮเติบโต 35% ตามเป้า โชว์ภาพรวมผลงาน 9 เดือนแรก กำไรสุทธิ 72 ล้านบาท แม้นำเงินไปลงทุนโฆษณาสร้างแบรนด์เพิ่มขึ้นกว่า 50 ล้านบาท ใน 7 แบรนด์หลัก รายได้รวมโตเฉียด 1,400 ล้านบาท ตามยอดขายผลิตภัณฑ์ทั้งกลุ่มคนและสัตว์ที่ดีต่อเนื่อง พร้อมบุ๊ครายได้กลุ่ม “โรงพยาบาล” เติมพอร์ตรวม 170 ล้านบาท ขณะที่ยอดขาย LAB Pharmacy เติบโตดี ปักธงขยายสาขาเพิ่มเป็น 34 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้
ดร.ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) (IP) ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ มั่นใจปิดผลงานปี 2566 รายได้รวมเติบโต 35% ทำนิวไฮต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หลังภาพรวมผลงานล่าสุด 9 เดือนแรก บริษัทมี รายได้รวม 1,368 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 26% จากช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิ 72 ล้านบาท แม้นำเงินไปลงทุนโฆษณาสร้างแบรนด์เพิ่มขึ้นกว่า 50 ล้านบาท หรือ 30-35% ของกำไรที่ดีมากของปีนี้ ไปใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรูัในแบรนด์กว่า 7 แบรนด์ และการขยายทีมขายร้านขายยา และขยายสาขา Lab ในไตรมาส 2-3 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค อาทิเช่น Bella Para, Probac 7, YUUU Probiotic Toothpaste, PreBO, Lisa DHA 600 mg และอาหารสุนัขและแมว Maria, แชมพู Malaseb
โดยรายได้จากการขายและบริการเติบโตต่อเนื่อง 25% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 1,356 ล้านบาท ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นของทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับคนและสัตว์ พร้อมรับรู้รายได้จากกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลเพิ่ม โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับคนมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 14% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 926 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เพิ่มขึ้นราว 5% แตะ 260 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายที่ลดลงจากกลุ่มธุรกิจปศุสัตว์สำหรับสุกร นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีการรับรู้รายได้จากกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลเติมพอร์ตอีกรวม 170 ล้านบาท และธุรกิจร้านยาภายใต้แบรนด์ LAB Pharmacy ยังมียอดขายที่เติบโตดี ซึ่งบริษัทมีแผนจะขยายสาขาต่อเนื่อง เพิ่มเป็น 34 แห่งภายในสิ้นปีนี้
ดร.ตฤณวรรธน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการลงทุนเพื่อการเติบโตในระยะยาว บริษัทจำเป็นต้องนำกำไรประมาณ 50 ล้านบาท หรือ 30-35% ของกำไรที่ดีมากของปีนี้ แบ่งไปใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ สร้างแบรนด์หลักกว่า 7 แบรนด์ อาทิเช่น Bella Para , Probac 7, YUUU Probiotic Toothpaste, Lisa DHA 600 mg, PreBO ผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขและแมว Maria และ แชมพู Malaseb และการขยายทีมขายร้านขายยา ในไตรมาส 2-3 ที่ผ่านมา
ส่งผลให้ ค่าใช้จ่ายรวม 9 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 407 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 30% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าโฆษณาผลิตภัณฑ์กลุ่มเวชภัณฑ์ กลุ่มโภชนเภสัช, อาหารเสริมและนวัตกรรมความงาม และกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพสัตว์เลี้ยง รวมถึงค่าคอมมิชชั่น เงินเดือนฝ่ายขายที่เพิ่มขึ้นให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ค่าเช่ารวม และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน และบริษัทย่อย จากการรวมธุรกิจร้านขายยาและโรงพยาบาล ส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิจำนวน 72 ล้านบาท โดยอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin : GP) และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin : NP) อยู่ที่ระดับ 38% และ 5.3% ตามลำดับ
“มองแนวโน้มโค้งสุดท้ายที่เหลือของปียังคงสดใส จากดีมานด์ในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทได้เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และขยายร้านขายยาภายใต้แบรนด์ LAB Pharmacy ให้ได้ตามเป้า 34 แห่งภายในสิ้นปีนี้ มั่นใจหนุนการเติบโตเป็นไปตามแผน รายได้รวมทั้งปีเดินหน้าทำนิวไฮอีกครั้ง เติบโตไม่ต่ำกว่า 35% จากปีก่อนที่ทำได้ราว 1,523 ล้านบาท ตอกย้ำการเป็นหุ้น “Growth Stock” สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น” ดร.ตฤณวรรธน์ กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบัน บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา แบ่งโครงสร้างธุรกิจออกเป็น 6 กลุ่ม ประกอบด้วย
1. นวัตกรรมเวชภัณฑ์รักษาโรค
2. ผลิตภัณฑ์กลุ่มโภชนเภสัช, อาหารเสริมและนวัตกรรมความงาม
3. ผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพของสัตว์เลี้ยง
4. ผลิตภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์
5. ธุรกิจร้านขายยาแบรนด์ “LAB PHARMACY”
6. ธุรกิจโรงพยาบาลและคลินิก
ดร.ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) (IP) ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ มั่นใจปิดผลงานปี 2566 รายได้รวมเติบโต 35% ทำนิวไฮต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หลังภาพรวมผลงานล่าสุด 9 เดือนแรก บริษัทมี รายได้รวม 1,368 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 26% จากช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิ 72 ล้านบาท แม้นำเงินไปลงทุนโฆษณาสร้างแบรนด์เพิ่มขึ้นกว่า 50 ล้านบาท หรือ 30-35% ของกำไรที่ดีมากของปีนี้ ไปใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรูัในแบรนด์กว่า 7 แบรนด์ และการขยายทีมขายร้านขายยา และขยายสาขา Lab ในไตรมาส 2-3 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค อาทิเช่น Bella Para, Probac 7, YUUU Probiotic Toothpaste, PreBO, Lisa DHA 600 mg และอาหารสุนัขและแมว Maria, แชมพู Malaseb
โดยรายได้จากการขายและบริการเติบโตต่อเนื่อง 25% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 1,356 ล้านบาท ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นของทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับคนและสัตว์ พร้อมรับรู้รายได้จากกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลเพิ่ม โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับคนมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 14% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 926 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เพิ่มขึ้นราว 5% แตะ 260 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายที่ลดลงจากกลุ่มธุรกิจปศุสัตว์สำหรับสุกร นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีการรับรู้รายได้จากกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลเติมพอร์ตอีกรวม 170 ล้านบาท และธุรกิจร้านยาภายใต้แบรนด์ LAB Pharmacy ยังมียอดขายที่เติบโตดี ซึ่งบริษัทมีแผนจะขยายสาขาต่อเนื่อง เพิ่มเป็น 34 แห่งภายในสิ้นปีนี้
ดร.ตฤณวรรธน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการลงทุนเพื่อการเติบโตในระยะยาว บริษัทจำเป็นต้องนำกำไรประมาณ 50 ล้านบาท หรือ 30-35% ของกำไรที่ดีมากของปีนี้ แบ่งไปใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ สร้างแบรนด์หลักกว่า 7 แบรนด์ อาทิเช่น Bella Para , Probac 7, YUUU Probiotic Toothpaste, Lisa DHA 600 mg, PreBO ผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขและแมว Maria และ แชมพู Malaseb และการขยายทีมขายร้านขายยา ในไตรมาส 2-3 ที่ผ่านมา
ส่งผลให้ ค่าใช้จ่ายรวม 9 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 407 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 30% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าโฆษณาผลิตภัณฑ์กลุ่มเวชภัณฑ์ กลุ่มโภชนเภสัช, อาหารเสริมและนวัตกรรมความงาม และกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพสัตว์เลี้ยง รวมถึงค่าคอมมิชชั่น เงินเดือนฝ่ายขายที่เพิ่มขึ้นให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ค่าเช่ารวม และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน และบริษัทย่อย จากการรวมธุรกิจร้านขายยาและโรงพยาบาล ส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิจำนวน 72 ล้านบาท โดยอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin : GP) และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin : NP) อยู่ที่ระดับ 38% และ 5.3% ตามลำดับ
“มองแนวโน้มโค้งสุดท้ายที่เหลือของปียังคงสดใส จากดีมานด์ในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทได้เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และขยายร้านขายยาภายใต้แบรนด์ LAB Pharmacy ให้ได้ตามเป้า 34 แห่งภายในสิ้นปีนี้ มั่นใจหนุนการเติบโตเป็นไปตามแผน รายได้รวมทั้งปีเดินหน้าทำนิวไฮอีกครั้ง เติบโตไม่ต่ำกว่า 35% จากปีก่อนที่ทำได้ราว 1,523 ล้านบาท ตอกย้ำการเป็นหุ้น “Growth Stock” สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น” ดร.ตฤณวรรธน์ กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบัน บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา แบ่งโครงสร้างธุรกิจออกเป็น 6 กลุ่ม ประกอบด้วย
1. นวัตกรรมเวชภัณฑ์รักษาโรค
2. ผลิตภัณฑ์กลุ่มโภชนเภสัช, อาหารเสริมและนวัตกรรมความงาม
3. ผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพของสัตว์เลี้ยง
4. ผลิตภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์
5. ธุรกิจร้านขายยาแบรนด์ “LAB PHARMACY”
6. ธุรกิจโรงพยาบาลและคลินิก