Wealth Sharing

CPF ยอดขายไตรมาส 3/66 แตะ 144,498 ลบ. ผลจาก “ต้นทุนสูง-ราคาสุกรตกต่ำ”


14 พฤศจิกายน 2566
CPF  ระบุผลดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2566 รายได้แตะ 144,498 ลบ.  ขาดทุนสุทธิในส่วนของบริษัท 1,837 ลบ.  ผลจากอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าปีที่แล้ว จากต้นทุนการผลิต ราคาวัตถุดิบและราคาพลังงานเพิ่ม 

CPF ยอดขายไตรมาส 3 66 แตะ144,498 ลบ.jpg

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2566 มีรายได้จากการขาย 144,498 ล้านบาท เป็นส่วนของกิจการต่างประเทศ  62% และกิจการประเทศไทย 38%  มีผลขาดทุนสุทธิในส่วนของบริษัท 1,837 ล้านบาท  เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าปีที่แล้ว จากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นทั้งราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตอาหารสัตว์และราคาพลังงาน ประกอบกับราคาสุกรในหลายประเทศอยู่ในระดับต่ำกว่าปีก่อน  โดยเฉพาะในประเทศไทย เวียดนาม และกัมพูชามีราคาเฉลี่ยลดลง  26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณเนื้อสุกรมีมากกว่าความต้องการบริโภค โดยในประเทศไทยได้รับผลกระทบจากปริมาณการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรจากต่างประเทศ (ผิดกฎหมาย) จำนวนมากอีกด้วย  นอกจากนี้ ธุรกิจสุกรของบริษัทร่วมในประเทศจีนประสบปัญหาราคาตกต่ำเช่นกัน จากภาวะสินค้าล้นตลาดในขณะที่ความต้องการบริโภคยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ  

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวถึงผลการดำเนินงานว่า ปีนี้เป็นปีที่ภาวะเศรษฐกิจมีความท้าทายจากหลายปัจจัย ทั้งภาวะเศรษฐกิจในหลายประเทศที่ไม่เป็นไปตามคาด กำลังซื้อถดถอย ต้นทุนต่างๆปรับตัวสูงขึ้น เช่น อัตราดอกเบี้ย และราคาวัตถุดิบทางการเกษตรจากความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทไม่เป็นไปตามเป้าหมาย  

บริษัทมีนโยบายในการลงทุนและใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง  ติดตามการดำเนินงานและสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งปรับแผนการลงทุน เช่น การพิจารณาการใช้ทรัพย์สินในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดหรือหยุดดำเนินกิจการที่มีแนวโน้มเปลี่ยนไปจากที่เคยคาดการณ์ไว้  ซึ่งคาดว่าจะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 เป็นต้นไป

สำหรับปีหน้า บริษัทมองว่าความท้าทายและความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและภูมิสังคมน่าจะยังคงมีอยู่ โดยยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและให้ความสำคัญในการบริหารค่าใช้จ่ายภายใน รวมถึงลงทุนอย่างรอบคอบและระมัดระวัง เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันโดยเน้นการดำเนินงานที่มีการใช้สินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ ดำเนินงานด้านการตลาดและการขายด้วยนวัตกรรมสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เหล่านี้จะทำให้คาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะดีขึ้นเป็นลำดับ
CPF